เสนาฯผนึกฮันคิว ดึงโนว์ฮาวญี่ปุ่นเสริมแกร่ง
ในบรรดาบริษัทรายกลางที่มีรายได้ระดับ 2,000-3,000 ล้านบาท บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์
โดย...วราพงษ์ ป่านแก้ว
ในบรรดาบริษัทรายกลางที่มีรายได้ระดับ 2,000-3,000 ล้านบาท บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ดูจะโดดเด่นเหนือใครในช่วงนี้ ด้วยกลยุทธ์การขยายธุรกิจ การผนึกพันธมิตร ที่ทำให้บริษัทเติบโตมาเป็นลำดับ ล่าสุดได้พันธมิตรใหม่เชื้อสายญี่ปุ่น ฮันคิว เรียลตี้ ประเทศญี่ปุ่น บริษัทในเครือ ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Hankyu Hanshin Holding Group) ซึ่งเป็นบริษัทเก่าแก่กว่า 100 ปีในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดโอซากา โกเบ และเกียวโต ทำธุรกิจทั้งรถไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว เดินทาง สื่อสาร เอนเตอร์เทนเมนต์ หรือแม้แต่ทีมเบสบอล
แน่นอนว่า การร่วมทุนกับฮันคิว เรียลตี้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ ทั้งการขาย ให้เช่า คอนโดมิเนียม และให้คำปรึกษาในด้านอสังหาริมทรัพย์ ตั้งบริษัท เสนา ฮันคิว 1 เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม ทำให้ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ แข็งแกร่งขึ้นทั้งด้านทุน และโนว์ฮาว กระบวนการทำงาน และคอนโดมิเนียมสไตล์ญี่ปุ่น ที่เน้นคุณภาพและประโยชน์ใช้สอยเป็นเรื่องสำคัญ ถือเป็นอีกย่างก้าวหนึ่งของบริษัทรายกลางอย่าง เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ
“หากย้อนกลับไปก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนาฯ โตมาจากไซส์ที่เล็กมาก การเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้อาศัยการร่วมทุนในการขยายธุรกิจออกไป ปัจจุบันเรามี 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของเรามีรายได้จากธุรกิจนี้ประมาณ 90% ธุรกิจเช่า เรามีคอมมูนิตี้ มอลล์ แวร์เฮาส์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ออฟฟิศที่ร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งไอร่า และแสงฟ้า และสนามกอล์ฟ และธุรกิจโซลาร์ มีทั้งโซาร์รูฟ และโซลาร์ฟาร์ม” เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ฉายภาพธุรกิจของเสนาฯ
การเติบโตของเสนาฯ จะยึดโยงอยู่กับ 3 ธุรกิจหลัก ที่เห็นภาพชัดเจนที่สุดในเวลานี้ คือ อสังหาฯ เพื่อขาย ที่ได้ร่วมทุนกับฮันคิว เรียลตี้ จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่มีธุรกิจอยู่มากมายในแถบคันไซ การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในหนทางไปสู่ความสำเร็จของบริษัท โดยพันธมิตรใหม่รายนี้จะเข้ามาร่วมพัฒนาคอนโดมิเนียม ตามแผนธุรกิจที่คุยกันไว้จะเริ่มได้ประมาณต้นปี 2561 หรืออาจจะขยับมาช่วงปลายปี 2560 ได้ โดยที่ญี่ปุ่น ฮันคิว มีคอนโดมิเนียมแบรนด์ GEO ซึ่งใกล้เคียงกับ The Niche ของเสนาฯ ซึ่งการร่วมทุนกับฮันคิวจะช่วยเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน นำเทคโนโลยีมาพัฒนาโครงการร่วมกันเพื่อเพิ่มมูลค่าให้อสังหาฯ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน
“นอกจากเรื่องของเงินลงทุนแล้ว การร่วมทุนกับฮันคิวครั้งนี้ จะช่วยในเรื่องขององค์ความรู้ทั้งในส่วนของกระบวนการทำงาน การพัฒนาโปรดักต์ ของผู้ร่วมทุน เพื่อนำมาพัฒนาการทำงานและโปรดักต์ของเสนาฯ ขณะเดียวกันจะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นจากเดิมที่พัฒนาในเซ็กเมนต์ Low-Middle Income เป็นฐานหลัก จะขยับขึ้นมาเป็น Low-Middle และ Upper มากขึ้น อย่างคอนโดที่แพงที่สุดของเสนาฯ ขณะนี้คือ The Niche Pride ทองหล่อ-เพชรบุรี ขายตารางเมตรละ 1 แสนบาทต้นๆ ปีนี้จะได้เห็นคอนโดเสนาฯ ตารางเมตรละ 1.3 แสนบาท” เกษรา กล่าว
สำหรับในปีนี้ บริษัท เสนาฯ มีแผนลงทุนโครงการใหม่อีกประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวมๆ 3,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ขณะที่รายได้ในปี 2559 สิ้นสุด ณ ไตรมาส 3 อยู่ที่ 3,289 ล้านบาท คาดว่าจะจบปีที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ 20%
ในส่วนของธุรกิจเช่า ที่ผ่านมามีเงินเข้าบริษัทอย่างสม่ำเสมอปีละประมาณ 100 ล้านบาท เพราะทรัพย์สินที่มีอยู่ไม่ได้ลงทุนเพิ่มอะไร ปัจจุบันมีรายได้ในสัดส่วน 6% ของรายได้รวม มีความเป็นไปได้ที่จะขยายธุรกิจในส่วนของออฟฟิศ และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์เพิ่ม ปัจจุบันอยู่ระหว่างคุยกับพันธมิตร ซึ่งธุรกิจเพื่อเช่าจะมาช่วยเสริมรายได้ให้มั่นคงขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขายอย่างเดียวมีความไม่แน่นอน ประกอบกับการมีกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทำให้การทำธุรกิจอสังหาฯ เพื่อเช่าใกล้เคียงกับอสังหาฯ เพื่อขายมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจโซลาร์ ซึ่งมีทั้งโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ ตัวโซลาร์ฟาร์มคงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐว่าจะขยายเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่ โซลาร์รูฟ จะขยายตัวตามอสังหาฯ เพื่อขายเป็นหลัก เป็นเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากนโยบายของรัฐหันมาสนับสนุนตัวโซลาร์รูฟมากขึ้น
ในปีที่ผ่านมา เสนาฯ มุ่งเน้นการคอร์ปอเรต แบรนด์ และการพัฒนาแอพพลิเคชั่น 360 เพื่อให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร ในปีนี้ นอกจาก คอร์ปอเรต แบรนด์ ที่ยังทำอย่างต่อเนื่องแล้ว เสนาฯ จะเพิ่มการสร้างโปรดักต์แบรนด์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าว่า โครงการในแต่ละแบรนด์ของเสนาฯ ดีอย่างไร ซึ่งการร่วมทุนกับ ฮันคิว เรียลตี้ จะยิ่งทำให้แบรนด์ของเสนาฯ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น


