เงินติดล้อพับแผนเปิดพิโกฯ
เจอเกณฑ์ปล่อยกู้เฉพาะพื้นที่ทำให้ไม่คุ้ม กรุงศรีฯ กุมขมับนาโนฯค้างจ่าย
เจอเกณฑ์ปล่อยกู้เฉพาะพื้นที่ทำให้ไม่คุ้ม กรุงศรีฯ กุมขมับนาโนฯค้างจ่าย
เงินติดล้อติดเกณฑ์ให้กู้เฉพาะจังหวัด ทำพิโกฯ ไม่คุ้ม ส่วนปล่อยกู้นาโนไฟแนนซ์อืด เอ็นพีแอลส่อเค้าสูง
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แม้ว่าบริษัทจะสนใจเข้าร่วมปล่อยสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับดูแล (พิโกไฟแนนซ์) แต่หากกระทรวงการคลังมีเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการปล่อยกู้เฉพาะจังหวัดที่จัดตั้งนิติบุคคล ปล่อยกู้ข้ามจังหวัดไม่ได้ อาจไม่คุ้มในการทำธุรกิจ ที่ต้องจดทะเบียนนิติบุคคลถึง 77 บริษัทเพื่อให้แต่ละบริษัทปล่อยกู้ได้เพียงพื้นที่จังหวัดเดียว
“ปัญหาไม่ใช่เงินทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่ถ้าต้องตั้งนิติบุคคล 77 บริษัทเพื่อปล่อยกู้พิโกไฟแนนซ์ คงไม่ไหว และยังต้องส่งงบ ยื่นภาษี 77 ชุด ตั้งกรรมการ 77 ชุด บริษัทขนาดใหญ่บริหารแบบนี้ไม่ได้” นายปิยะศักดิ์ กล่าว
นายปิยะศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แม้ปล่อยข้ามจังหวัดได้แต่ไม่ให้รับหลักประกัน ทำให้จำกัดตลาดออกมาอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จึงต้องระมัดระวังและหารูปแบบการปล่อยสินเชื่อที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มนี้
ปัจจุบันเงินติดล้อ มียอดคงค้างสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ 10-20 ล้านบาท และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีแนวโน้มสูงขึ้นจากสัญญาณค้างชำระเกิน 30 วัน ที่มีเกือบ 20% ของพอร์ต ทำให้ต้องเข้มงวด และหาทางปล่อยให้กับลูกค้าดี โดยยอมรับว่ากว่าจะเข้าที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องรอ 10 เดือนจึงจะรู้ว่าสินเชื่อนั้นมีคุณภาพหรือไม่
ด้าน นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ภายใต้ชื่อ สินเชื่อเถ้าแก่ทันใจ ไปแล้วประมาณ 20 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 4.5 หมื่นบาท โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีหน้าร้านชัดเจน อาทิ ร้านเสริมสวย และร้านอาหาร เป็นหลัก ส่วนแผนปี 2560 จะขยายตลาดไปเชียงใหม่และหาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม กระบวนการยังไม่ราบรื่น การวิเคราะห์ธุรกิจลูกค้าใช้เวลานานและยากกว่าที่คาด เพราะแต่ละธุรกิจมีลักษณะเฉพาะ จากเดิมประเมินว่า กระบวนการสำรวจ ตรวจสอบ และยืนยันลูกค้า จากเจ้าหน้าที่ 1 คน จะได้ลูกค้า 7-10 ราย/วัน แต่ทำจริงได้เพียง 3-5 ราย/วัน ทำให้การขยายสินเชื่อค่อนข้างช้า ทั้งที่ความต้องการในตลาดสูงมาก จึงเตรียมเพิ่มเจ้าหน้าที่สำรวจลูกค้าให้มากขึ้นด้วย


