รุ่นใหม่กลุ่ม‘ดาษดา’ ต่อยอดสวนดอกไม้สู่ท่องเที่ยว

โดย...จะเรียม สำรวจ

การแข่งขันของธุรกิจท่องเที่ยวนับวันจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่รักการถ่ายภาพ ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเล็งเห็นโอกาสสร้างสวนดอกไม้ที่สวยงาม เพื่อเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เข้าไปเยือน

“ดาษดา” ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เล็งเห็นโอกาสดังกล่าว ด้วยการพัฒนาธุรกิจที่อิงธรรมชาติออกมาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดาษดา แกลเลอรี่ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความงามของดอกไม้ ชมความมหัศจรรย์ของศิลปะการจัดดอกไม้สดในแกลเลอรี่เรือนกระจก ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามเทศกาลและฤดูกาล เพื่อให้ความสุขหลายรูปแบบสำหรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งนอกจากจะได้ชมดอกไม้สวยๆ ในแกลเลอรี่แล้ว ยังมีบริการในส่วนของกาแฟ ของว่าง ของหวาน และไอศกรีมดอกไม้ ที่ร้าน Lalalla รวมไปถึงการจำหน่ายดอกไม้สด ไม้กระถาง และของที่ระลึกให้ซื้อติดไม้ติดมือไปฝากคนรู้ใจ

นอกจากนี้ ยังมีบริการในส่วนของที่พักโรงแรมดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ที่สร้างขึ้นมาจากแรงบันดาลใจที่จะแบ่งปันสัมผัสแห่งความสุขจากดอกไม้ โดยในส่วนของห้องพักก็มีให้เลือกด้วยกัน 5 แบบ ประกอบด้วย ดีลักซ์, พูล แอสเสท, แกรนด์ จากุซชี่ พูล แอสเสท, จูเนียร์ สวีท และเลคไซด์ วิลล่า ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,000-2.8 หมื่นบาท

แม้ว่าจะมีจุดแข็งในด้านของสวนดอกไม้ที่สวยงาม แต่ดาษดาก็ไม่ประมาท เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจการท่องเที่ยวธรรมชาติมีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ด้วยเหตุนี้ดาษดาจึงต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมการตลาดให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติได้รู้จักดาษดามากขึ้น

สุวดี บุญตานนท์ ผู้บริหารดาษดา กล่าวว่า การแข่งขันของธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในขณะนี้ถือว่ามีความรุนแรงอย่างมาก ส่งผลให้เราต้องหันมาทำกิจกรรมการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจของดาษดาให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องปรับปรุงในด้านของการบริการ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของแกลเลอรี่ ช็อปจำหน่ายสินค้า ร้านกาแฟ รวมไปถึงการเพิ่มห้องพักในส่วนของรีสอร์ท ด้วยการก่อสร้างวิลล่าที่พักเพิ่มอีก 4 หลังจากแผนทั้งหมด 30 หลัง เพื่อเป็นการทดลองผลการตอบรับของลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ ซึ่งประมาณกลางปี 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ

ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะเพิ่มร้าน Lalalla เพิ่มอีก 1 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันร้านเก่าสามารถรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการได้ประมาณ 250 ที่นั่ง ส่วนร้านใหม่คาดว่าจะรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการได้อีกประมาณ 150 ที่นั่ง ซึ่งหลังจากเดินหน้าปรับปรุงการบริการ และโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้น สุวดี คาดหวังว่าในสิ้นปี 2560 น่าจะทำให้ดาษดา
มีรายได้เติบโตจากปี 2559 ได้ไม่ต่ำกว่า 30% 

สุวดี กล่าวต่อว่า ปีนี้ถือว่าดาษดาประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจมากขึ้น เมื่อก่อนลูกค้าจะรู้จักดาษดาเพียงแค่ธุรกิจสวนดอกไม้เท่านั้น แต่หลังจากมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้นว่าธุรกิจโรงแรมของดาษดา มีบริการในส่วนของการจัดประชุมสัมมนา การทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูสวนสัตว์ ดูดอกไม้ ขับเอทีวี รวมไปถึงการจัดแพ็กเกจส่องสัตว์ ทำให้ลูกค้าเริ่มรู้จักธุรกิจโรงแรมของเรามากขึ้น

ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 นี้ สุวดีมีแผนที่จะเพิ่มในส่วนของโปรแกรมสุขภาพภายในโรงแรม เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะจัดแพ็กเกจการเข้าพักทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่ประมาณ 3 วัน และ 5 วัน

สุวดี กล่าวอีกว่า การที่เราพยายามหากิจกรรมใหม่ๆ มารองรับความต้องการของลูกค้า ก็เพราะว่าเราต้องการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ซึ่งในส่วนของปีหน้าเราจะนำสวนกลางคืนกลับมาจัดแสดงอีกครั้ง หลังจากหยุดไปในปีนี้ เพราะสถานการณ์ไม่เหมาะกับการทำกิจกรรมการตลาด

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจตลาดในประเทศแล้ว สุวดียังมีแผนที่จะนำดาษดาเข้าไปเปิดให้บริการในตลาดต่างประเทศอีกด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการส่งออกดอกไม้เข้าไปทำตลาดในญี่ปุ่นจนได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีมาแล้ว โดยประเทศแรกที่สุวดีจะเข้าไปขยายธุรกิจ คือ นครจำปาสัก ประเทศลาว ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปซื้อที่ดินจำนวน 100 ไร่ และแบ่งที่ดินส่วนหนึ่งประมาณ 10-20 ไร่ นำมาสร้างโรงเรือน เพื่อเพาะกล้าไม้และดอกไม้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากเตรียมความพร้อมในด้านของโรงเรือนและต้นไม้เป็นที่เรียบร้อยก็จะเริ่มชิมลางธุรกิจในส่วนของการขายดอกไม้และไม้ประดับ ซึ่งหากได้ผลการตอบรับที่ดีก็จะขยายในส่วนของธุรกิจร้านกาแฟและโรงแรมเป็นลำดับต่อไป

ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะเดินสายจัดโรดโชว์ไปยังงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจของดาษดาให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะธุรกิจสวนดอกไม้ เนื่องจากในอนาคตสุวดีมีแผนที่จะนำไม้ดอกไม้ประดับของดาษดาส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งในส่วนของประเทศแรกที่คาดว่าจะเดินสายไปโรดโชว์ในปี 2560 คือ ไต้หวัน

สุวดี เล่าต่อว่า นอกจากจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของสถานที่และการบริการแล้ว ในส่วนของบุคลากรภายในองค์กรก็ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะองค์กรจะสำเร็จได้ต้องมีบุคลากรที่ดีและมีคุณภาพ ดังนั้นการทำงานจึงต้องเป็นทีมเวิร์กรับฟังความคิดเห็นของกันละกัน ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เข้ามาดูธุรกิจอย่างเต็มตัว พบว่ามีความแตกต่างจากช่วงที่เข้ามาช่วยดูธุรกิจเป็นครั้งคราวมาก เนื่องจากมีหลายเรื่องให้ต้องตัดสินใจ และต้องดูแลคนเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องปรับตัวพอสมควร แต่หลังจากใช้ความสามารถให้พนักงานที่มีหลากหลายอายุได้เห็น ทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น

การออกมาเปิดเกมรุกของดาษดาในครั้งนี้ สุวดี บอกว่า คนที่ไม่เคยรู้จักดาษดาต้องรู้จักดาษดาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเราจะทำให้ดาษดาเป็นสถานที่พักผ่อนที่ต้องมาทุกปี เนื่องจากทุกครั้งที่มาจะมีอะไรแปลกใหม่มาให้ลูกค้าได้ชมอย่างต่อเนื่อง เพราะดาษดาจะเป็นเหมือนสถานที่แห่งความสุข