ลุยตั้งบริษัทลูกรฟท.รับพรบ.กรมขนส่งทางราง

ครม.ตั้งกรมการขนส่งทางราง ส่งเสริมงานบริการและขนส่งสินค้าในอนาคตสามารถยกระดับมาตรฐานให้เป็นสากล

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้เห็นชอบ การจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางและร่างพระราชบัญญัติขนส่งทางราง (พรบ.ขนส่งทางราง) ขึ้นมาทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางเพื่อเสนอแนะนโยบายและยุทธศาสตร์ เรื่องวางแผนโครงข่ายบริหารงานด้านขนส่งทางรางของประเทศและกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยการซ่อมบำรุงและบริหารกิจการรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง

ส่วนด้านร่างพรบ.การขนส่งทางรางกำหนดให้มีการกำกับดูแลและพัฒนาตามหัวข้อดังนี้ 1.กำกับดูแลมาตรฐานและความปลอดภัย 2กำกับการประกอบกิจการ3.วิจัยและพัฒนาสร้างนวัตกรรม 4.พัฒนาการขนส่งทางรางรูปแบบใหม่ ทั้งนี้หลังจากที่รับทราบแผนการจัดทำกรอบระเบียบและข้อบังคับภายใต้พระราชบัญญัติ ขั้นต่อไปจะส่งร่างพรบ. ไปยังพระราชกฤษฎีกาก่อนเสนอ สนช.พิจารณาอนุมัติต่อไป
 
ด้านนายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พรบ.กรมขนส่งทางรางจะช่วยส่งเสริมงานบริการประชาชนและขนส่งสินค้าในอนาคตสามารถยกระดับมาตรฐานให้เป็นสากล เนื่องจากมีหน่วยงานกลางเข้ามากำกับดูแลอย่างเข้มงวดจนส่งผลให้ต้นทุนและค่าบริการขนส่งสินค้าลดลงแต่คุณภาพได้มากขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการต้องใส่ใจระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะโครงการรถไฟรางคู่ พรบ.ดังกล่าวจะสนับสนุนให้เพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าและรายได้ให้กับรฟท.มากขึ้น
 
ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการแก้ไข พรบ.การรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง  โดยการให้ รฟท.จัดตั้งบริษัทลูก 3 แห่ง โดยให้ รฟท.ถือหุ้น 100  %  ประกอบด้วย บริษัทเดินรถ   บริษัทซ่อมบำรุงรางและล้อเลื่อน    ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2567  ส่วนบริษัทบริหารทรัพย์สิน ให้ดำเนินการจัดตั้งภายในปี 2563 

นายชาติชาย กล่าวว่า ในระหว่างที่รอกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เสนอผ่านความเห็นชอบจาก สนช.นั้น ในส่วนของสำนักนโยบายแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมในเรื่องของบุคลากรที่รับผิดชอบงานในด้านนี้ออกมา เพื่อให้มาอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม  ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 3 เดือน หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะสามารถเดินหน้าทำหน้าที่ได้ทันที ทำให้กรมการขนส่งทางรางจะมีหน้าที่กำกับดูและมาตรฐานความปลอดภัยของการขนส่งทางรางและรถไฟฟ้าสายต่างๆด้วย
 
ขณะที่นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกระทรวงการคลังได้ร่วมกันหารือถึงแผนปรับโครงสร้างและแยกหน่วยงานของมาตั้งเป็นบริษัทลูก เนื่องจากโครงการเดิมของรฟท. ต้องใช้เงินอุดหนุนจำนวนมาก แต่ไม่สามารถแยกบัญชีรายรับรายจ่ายออกมาได้และองค์กรก็ยังประสบปัญหาขาดทุน แต่เมื่อมีการแยกหน่วยงานออกมาตั้งเป็นบริษัทลูกคล้าย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้บริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ก็จะทำให้ภาครัฐสามารถแยกบัญชีและจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะส่วนที่จำเป็น เช่น บริษัทซ่อมบำรุง และลดการจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนที่มีรายได้อย่าง บริษัท จัดการทรัพย์สิน โครงสร้างใหม่นี้จึงจะทำให้การรถไฟมีประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น