posttoday

อาเซียน+6 บุกตลาดใหม่‘เบงกอล’

21 ธันวาคม 2559

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

ในการประชุมพบปะกับคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนอินเดีย จากรัฐเบงกอลตะวันตก (บิซิเนส มีตติ้ง วิท เวสต์ เบงกอล สเตท กัฟเวอร์เมนต์, อินเดีย) โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย และ เวส เบงกอล สเตท กัฟเวอร์เมนต์ ประเทศอินเดีย ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเผยถึงโอกาสทางเศรษฐกิจในประเทศอินเดีย ทั้งการค้า การลงทุน และด้านการเงิน จากผู้เชี่ยวชาญทั้งสองประเทศ ด้วยอินเดียนับเป็นหนึ่งในคู่ค้าตลาดสำคัญของอาเซียน+6

จากข้อมูลเบื้องต้น ระบุว่า รัฐเบงกอลตะวันตก (เวสต์ เบงกอล) ตั้งอยู่ตรงกลางเยื้องไปทางตะวันออกของประเทศ มีเขตติดต่อรัฐสิกขิม อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับรัฐอัสสัมและประเทศภูฏาน ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดต่อกับรัฐโอริสสา ทิศตะวันตกติดกับประเทศบังกลาเทศ และทางทิศใต้ติดต่อกับอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดีย มีประชากรในรัฐจำนวนทั้งสิ้น 91 ล้านคน มีข้อมูลทางเศรษฐกิจในปี 2558 พบว่าอัตราผลผลิตมวลรวมประเทศ (จีดีพี) ราว 707,848 เหรียญสหรัฐ ทรัพยากรสำคัญ ได้แก่ ข้าว ธัญพืช ยาสูบ มันฝรั่ง อ้อย ทับทิม สับปะรด มะม่วง ปอกระเจา ถ่านหิน เหล็ก ดินขาว ดินเผา และก๊าซธรรมชาติ

ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก ทอผ้า เครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหาร การเกษตร การผลิตยา ยาง น้ำมันปาล์มและใบชา อัญมณีและเครื่องประดับ การถลุงเหล็ก ผลิตภัณฑ์เหล็กและสินแร่ต่างๆ ยานยนต์ เครื่องจักร

โดยศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐเบงกอลตะวันตก คือ ทำเลที่ตั้งเป็นจุดขนถ่ายสินค้าสำหรับภาคกลางของอินเดีย และเป็นประตูเชื่อมต่อไปยังภาคอื่นๆ สิ่งสำคัญที่สุดเป็นเส้นทางการค้าสำคัญกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

สนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประชากรในรัฐเบงกอลตะวันตกมีอยู่ราว 91 ล้านคน นับเป็นตลาดใหญ่ที่มีความหลากหลายทางด้านศาสนา วัฒนธรรม วิถีชีวิต และการบริโภค ซึ่งสภาพแวดล้อมของรัฐเบงกอลตะวันตกเอื้ออำนวยต่อโครงการลงทุนต่างๆ และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ทั้งอินเดียและต่างชาติ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจของอินเดีย ทยอยตั้งอุตสาหกรรมในรัฐ อาทิ บริษัท ไอทีซี ลิมิเต็ด เครือบริษัทอินเดียขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรม สินค้าอุปโภคบริโภค บรรจุภัณฑ์ และสินค้าเกษตร เป็นต้น

นอกจากนี้ รัฐบาลเบงกอลตะวันตกเอง พร้อมสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ โดยประกาศนโยบายระยะยาว อินดัสทรี แอนด์ อินเวสเมนต์ โพลิซี ปี 2556 เพื่อพัฒนาปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการลงทุนภาคอุตสาหกรรมเพื่อดึงดูดนักลงทุนอย่างรอบด้าน โดยเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญในรัฐเบงกอลตะวันตก ได้แก่ กัลกัตตา เป็นเมืองศูนย์กลางด้านไอที

สำหรับภาพรวมการลงทุนระหว่างไทยและอินเดีย ระบุว่าการลงทุนของไทยในอินเดีย ได้แก่ กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ธนาคารกรุงไทย บริษัท อิตัลไทย บริษัท เอสซีจี บริษัท ไทยซัมมิท บริษัท บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ส่วนการลงทุนของธุรกิจอินเดียในประเทศไทยในปี 2558 พบว่า มีโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอ จำนวน 13 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวม 1,200 ล้านบาท โดยอินเดียมีการลงทุนในไทยในโครงการใหญ่ๆ ของกลุ่มอินโดรามา กลุ่มพรีเชียส ชิพปิ้ง บริษัท โพลีเพล็กซ์ บริษัท ปุน ลอย บริษัท ลาร์เซน แอนด์ ทูโบร เกี่ยวกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และบริษัท ทาทา เป็นต้น

สำหรับภาคการท่องเที่ยวในปี 2558 พบว่า นักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาเยือนไทยถึง 1 ล้านคน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากรัฐเบงกอลตะวันออกถึง 40% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปยังประเทศอินเดียจำนวน 1 แสนคน จากข้อมูลในปี 2557

โดยภาครัฐและเอกชนทั้งสองฝ่ายมุ่งสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรัฐบาลไทยที่ตระหนักถึงบทบาทคู่ค้าที่สำคัญของประเทศอินเดีย

ข่าวล่าสุด

ธปท. ผนึก สมาคมแบงก์ไทย เพิ่มมาตรการช่วยลูกหนี้ประสบภัยน้ำท่วมใต้รุนแรง