'แคสเปอร์สกี้ แลป' สกัดไวรัสไซเบอร์

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ที่ภาครัฐต้องการผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นคือการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ จะมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะทางด้านการเงินที่จะเห็นการใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือมีให้เห็นมากขึ้น

ขณะที่การเติบโตของไวรัสคอมพิวเตอร์ประเภทมัลแวร์ เรนซัมแวร์ รวมไปถึงนักแฮ็กเกอร์ก็เติบโตตามไปด้วย เห็นได้จากตัวเลข ปี 2557-2558 มัลแวร์เติบโตมากถึง 700% มีการปล่อยออกมาทุกวินาทีเพื่อสร้างความเสียหายโดยอาศัยช่องโหว่ของผู้ปฏิบัติงาน

รวิศรา ผิวทอง ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคและบริการ บริษัท ไอคอม เทค ผู้จำหน่ายแคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า ทุกวันนี้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สมาร์ทโฟน ไอแพดนั้นเสี่ยงกับการถูกทำร้ายจากไวรัสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจกรรมทางการเงินออนไลน์ การช็อปปิ้งผ่านออนไลน์ การใช้โซเชียลมีเดีย หรือการแฝงการใช้งานจากผู้ใช้ เพื่อไปเจาะข้อมูลในหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยงานของภาครัฐ

“ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเห็นได้จากรหัสผ่านที่ตั้งรหัสการใช้งานง่ายเกินไปทำให้เสี่ยงจากการล้วงข้อมูล รวมไปถึงการใช้ไว-ไฟสาธารณะก็มีความเสี่ยงที่จะถูกแฝงเข้ามาดึงข้อมูล หรือให้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือทำงานอัตโนมัติ เช่น การขโมยไฟล์ภาพหรือข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการใช้งานของเยาวชน”

ปัจจุบันตลาดระบบความปลอดภัยในประเทศไทยนั้น มีผู้ทำตลาดอยู่ 3-4 รายใหญ่ที่ทำตลาดคอนซูเมอร์และองค์กร ล่าสุด แคสเปอร์สกี้ แลป ได้เริ่มทำตลาดโซลูชั่นระบบความปลอดภัยแบบครบวงจร หรือ Kaspersky Total Security โซลูชั่นที่ให้การป้องกันได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะใช้วินโดวส์ แมค หรือแอนดรอยด์ ให้ปลอดภัยจากมัลแวร์ เว็บไซต์สุ่มเสี่ยง การถูกสะกดรอยทางออนไลน์ รวมถึงกลโกงทางการเงิน

ทั้งนี้ โซลูชั่นใหม่สำหรับคอนซูเมอร์นั้น ได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่สำหรับการใช้วินโดวส์ ผู้ใช้สามารถป้องกันข้อมูลจากการถูกดักขโมยเวลาที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ด้วยฟังก์ชั่น Secure Connection ยังมีฟังก์ชั่น Software Updater และ Software Cleaner ช่วยอุดช่องโหว่ที่อาจมีอยู่ในอุปกรณ์ที่ใช้งาน

ด้าน ซิลเวีย อึง ผู้จัดการทั่วไปแคสเปอร์สกี้ แลป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันความปลอดภัยทางด้านไอทีนั้นต้องมีมากกว่าโซลูชั่นความปลอดภัย แต่ต้องรวมถึงไหวพริบหรือมีความเท่าทันทางไซเบอร์ของผู้ใช้งานด้วย หากรู้ทันก็จะระมัดระวังเวลาออนไลน์ และรู้จักใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันสิ่งมีค่า ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว โดยฟังก์ชั่น Secure Connection ผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย ในการเข้ารหัสทั้งหมดที่ส่งและรับผ่านเน็ตเวิร์ก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อประกอบธุรกรรมทางการเงิน การโอนถ่ายข้อมูลสำคัญ เช่น กรณีข้อมูลถูกดักระหว่างการสื่อสารส่งต่อโดยคนแปลกหน้า ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากโดยเฉพาะความเสียหายทางการเงิน

จากการสำรวจของแคสเปอร์สกี้ แลป พบว่า ผู้ใช้ทุกๆ 1 ใน 5 คน หรือ 18% จะตกเป็นเหยื่อทางไซเบอร์เมื่อเวลาเดินทาง ซึ่งนักเดินทางไม่มีการป้องกันตัวเองทางออนไลน์โดยเฉพาะจากการใช้ไว-ไฟสาธารณะ ส่วน Software Updater สามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นที่ต้องการอัพเดทอัตโนมัติ และผู้ใช้งานจะต้องยินยอม เช่นหากต้องการใช้เวอร์ชั่นก่อนการอัพเดทข้อมูลใหม่ เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมของการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซี จะลดลง 40% ในขณะนี้ แต่ประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากการใช้งานผ่านช่องทางดังกล่าวยังคงถูกโจมตีจาก มัลแวร์ไวรัสต่างๆ อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ปัจจุบันแคสเปอร์สกี้ แลป มีโซลูชั่นให้บริการ 3 รูปแบบ ได้แก่ Kaspersky Anti-Virus มีสัดส่วนการขาย 30% Kaspersky Internet Security มีสัดส่วน 70% แต่ประเมินว่า หลังจากเปิดตัว Kaspersky Total Security จะมีสัดส่วนทางการขาย 20% ในช่วงปีแรกเนื่องจากโซลูชั่นดังกล่าวมีราคาแพงกว่าเล็กน้อยเพียงหลักร้อยบาท แต่ให้บริการที่ครอบคลุมเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานแมค ที่ต้องใช้งานปริมาณมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี

สำหรับภัยคุกคามทางโลกไซเบอร์ในปี 2560 นั้น จะพัฒนาเทคนิคในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการขยายขีดความซับซ้อนเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเสียหายให้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถปกป้องยูสเซอร์มากกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และช่วยเหลือลูกค้าองค์กรในการปกป้องทรัพย์สินมากกว่า 2.7 แสนแห่งทั่วโลก