posttoday

เรียกค่าเสียหายสูงเกินสมควร ทำได้หรือไม่

01 ธันวาคม 2559

โดย...เดชา กิตติวิทยานันท์

โดย...เดชา กิตติวิทยานันท์

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้ติดตามข่าวการฟ้องร้องค่าเสียหายในคดีละเมิด เช่น ฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อชื่อเสียง 50 ล้านบาท ฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ 100 ล้านบาท มีท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามมายังผมว่า การเรียกค่าเสียหายจำนวนมากดังกล่าว ทำได้หรือไม่ตามกฎหมาย ผมขอชี้แจงว่ากฎหมายไทยเกี่ยวกับละเมิดไม่ได้กำหนดเพดานการเรียกค่าเสียหายไว้ ผู้เสียหายจึงเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้ โดยไม่จำกัดจำนวน แต่มีข้อคิดสำหรับผู้เสียหายที่จะเรียกค่าเสียหายทางแพ่งในคดีละเมิดดังนี้

ประเด็นแรก ความเสียหายต้องเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด ถ้าไม่ใช่ผลโดยตรง เป็นเรื่องไกลเกินเหตุ ศาลจะไม่กำหนดค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย ในเวลานำสืบผู้เสียหายจึงต้องนำสืบให้ศาลเห็นว่า ความเสียหายที่ได้รับ เป็นผลโดยตรงมาจากการกระทำละเมิดของจำเลย จึงจะถือว่าเป็นค่าเสียหายที่เรียกได้ตามกฎหมาย (อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 1898/2518 ฎีกาที่ 945/2533 ฎีกาที่ 4018/2533 ฎีกาที่ 5934/2534)

ประเด็นที่สอง ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเรียกค่าเสียหายในคดีละเมิด ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 มาตรา 438 มาตรา 223 มาตรา 442 ในการพิจารณาค่าเสียหายในคดีละเมิดจะต้องพิจารณาว่าผู้เสียหายมีส่วนผิดหรือมีส่วนในการยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของจำเลยหรือไม่ เช่นในคดีอุบัติเหตุทางถนนต้องพิจารณาว่าต่างคนต่างประมาทหรือไม่ ถ้าผู้เสียหายและผู้กระทำละเมิดต่างคนต่างประมาท ค่าเสียหายที่ผู้เสียหายจะได้รับก็ต้องลดน้อยถอยลงเพราะตนเองมีส่วนประมาท (อ้างอิงคำพิพากษาฎีกา 212-213/2525 ฎีกาที่ 14/2517)

ประเด็นที่สาม การกำหนดค่าเสียหายที่จะฟ้องร้องในคดีละเมิด เป็นจำนวนเท่าใดจึงจะเหมาะสม ตอบยากมากครับ เพราะความเสียหายที่แต่ละคนได้รับนั้นต่างกัน เช่น ใบหน้าเสียโฉม ถ้าเป็นดาราหรือนางแบบที่ต้องใช้หน้าตาทำมาหากิน สูญเสียรายได้จำนวนมาก ก็ถือว่าได้รับความเสียหายเป็นพิเศษมากกว่าชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้ใบหน้าทำมาหากิน ผู้เสียหายเป็นผู้มีการศึกษาสูง มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต มีรายได้สูง เมื่อถึงแก่ความตายทำให้บิดามารดา บุพการี สามีภริยา ผู้สืบสันดานขาดไร้อุปการะมากกว่าผู้เสียหายที่ถึงแก่ความตายและไม่มีรายได้สูง

รถยนต์ที่เสียหายถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ความเสียหายก็น้อยแต่ถ้าเป็นรถเบนซ์มีราคาสูงกว่าความเสียหายก็สูงตาม การกำหนดความเสียหายมากน้อยเพียงใดต้องอยู่บนพื้นฐานของความเสียหายจริงครับ

ประเด็นที่สี่ หลักเกณฑ์การเรียกค่าเสียหายในกรณีเสียหายต่อร่างกาย อนามัย แต่ไม่ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

- ความเสียหายอันตนต้องเสียไปตามมาตรา 444 วรรคแรก

- เสียความสามารถประกอบการงานทั้งในปัจจุบันและในอนาคต มาตรา 444 วรรคแรก

- ค่าขาดการงานแก่บุคคลภายนอกในครัวเรือนหรืออุตสาหกรรม มาตรา 445

- ค่าเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงิน มาตรา 446 เช่น ทนทุกข์ทรมาน พิการ เจ็บปวด ทุกขเวทนา เป็นต้น

ประเด็นที่ห้า ค่าเสียหายในกรณีทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

- ค่าปลงศพ ตามมาตรา 443 วรรคแรก

- ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆ มาตรา 443 วรรคแรก

- ค่ารักษาพยาบาลก่อนตาย มาตรา 443 วรรคสอง

- ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ก่อนได้ มาตรา 443 วรรคสอง

- ค่าขาดไร้อุปการะ มาตรา 443 วรรคสาม

- ค่าขาดงานในครัวเรือนและอุตสาหกรรม มาตรา 445

ประเด็นสุดท้าย ถ้าท่านฟ้องร้องเป็นคดีละเมิด การเรียกค่าเสียหายจำนวนสูงจะต้องเสียค่าขึ้นศาลในขณะยื่นฟ้องร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ ยกเว้นเป็นคดีผู้บริโภค ได้รับการยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียม แต่ถ้าท่านเรียกค่าเสียหายเกินสมควรศาลจะสั่งให้ท่านชำระเงินค่าวางศาลร้อยละ 2 ของส่วนที่เกินจริง

ผู้เสียหายจึงควรเรียกค่าเสียหายในคดีละเมิดตามสมควร ไม่ควรเรียกสูงเกินควร เพราะจะต้องเสียเงินค่าวางศาลในจำนวนที่สูงมากนะครับ และการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความเสียหายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องมีพยานหลักฐานมาประกอบให้ชัดแจ้งศาลจึงจะกำหนดค่าเสียหายให้ ส่วนที่เรามโนโซเชียลแบบเลื่อนลอยโดยทั่วไป ศาลมักจะไม่กำหนดค่าเสียหายให้นะครับ

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้