ปลากรอบ ‘เชิญชิม’ คุณภาพสร้างธุรกิจแกร่ง
“ปลากรอบ ปลาหวานไทย ถือเป็นสินค้าได้รับความนิยมสูง และมีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก สามารถขยายตลาดสินค้าไปในหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียแล้ว”
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
“ปลากรอบ ปลาหวานไทย ถือเป็นสินค้าได้รับความนิยมสูง และมีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก สามารถขยายตลาดสินค้าไปในหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียแล้ว” วราภรณ์ สุริยะทนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แต้ง่วนไถ่ กล่าวไว้
วราภรณ์ สุริยะทนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แต้ง่วนไถ่ ผู้ผลิตและทำตลาดปลาหวาน ปลากรอบในชื่อแบรนด์ “เชิญชิม” เปิดเผยว่า แบรนด์ได้มีอายุในตลาดมากกว่า 35 ปีแล้ว โดยมีจุดเริ่มต้นจากรุ่นคุณพ่อที่มีความชื่นชอบในอาหารที่ทำจากปลา โดยเฉพาะปลาไม้ ทำให้สนใจศึกษาการทำปลาไม้ด้วยตัวเอง และต่อมาก็ทำผลิตมาสู่ตลาด และเน้นการจำหน่ายแบบส่งผ่านห้างค้าปลีกมาตลอด
“คุณพ่อเริ่มจากความชอบรับประทานปลา ทำให้ศึกษาการทำปลาหวาน และมีความชำนาญ ต่อยอดสู่การผลิตเพื่อจำหน่ายอย่างทางการ ซึ่งเริ่มสร้างธุรกิจจากการสร้างอาคารพาณิชย์ 1 ห้อง กทม.ขนาด 1 ห้อง และได้ขยายสู่การขยายธุรกิจออกสู่ชานเมืองที่บางแค ต่อมาได้ขยายการผลิตเพิ่มและมาสร้างโรงงานผลิตสินค้าที่สมุทรสาครในปี 2548 เพราะอยู่ใกล้กับแหล่งผลิตปลา” วราภรณ์ กล่าว
วราภรณ์ กล่าวต่อว่า การทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากครอบครัวสู่บริษัทขนาดใหญ่มากขึ้น มาจากการที่องค์กรมุ่งมั่นหาความรู้เพื่อขยายธุรกิจ ทั้งการปรึกษาหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้คำแนะนำในด้านต่างๆ พร้อมกับร่วมไปออกงานแสดงสินค้าในประเทศในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าแบรนด์เชิญชิมเป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งยังไปร่วมออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ การที่บริษัทมุ่งพัฒนาสินค้าต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ได้รับตราสัญลักษณ์คุณภาพของประเทศคือ “ไทยแลนด์ ทรัสต์ มาร์ค” จากกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงการพัฒนาให้สินค้าได้รับมาตรฐานทุกด้านสำหรับการส่งออก
ส่วนการบริหารธุรกิจก็มุ่งที่จะพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยสำรวจจากพฤติกรรมของลูกค้าในประเทศชื่นชอบสินค้าแบบใด เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ตรงกับตลาดและเพิ่มสินค้าให้มีรสชาติใหม่ ทั้งการเพิ่มรสชาติต้มยำ รสบาร์บีคิว รสพริกไทยดำ ส่วนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (แพ็กเกจจิ้ง) ได้มีตั้งแต่แบบดั้งเดิมที่เป็นถุงใส ถุงขนมขนาดทั่วไป และเป็นแบบกระป๋อง
ขณะที่การแข่งขันในตลาดประเทศไทยถือว่ามีความรุนแรง โดยมีแบรนด์ในประเทศหลักๆ ประมาณ 2 แบรนด์ และมีแบรนด์ขนาดเล็กจำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องมาจากการที่บริษัทมุ่งพัฒนาสินค้า สร้างสินค้าได้มาตรฐาน รวมถึงมีสินค้าอย่างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางและกลุ่มครอบครัว
สำหรับภาพรวมยอดขายในปัจจุบันจะมาจากการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ 65% และตลาดในประเทศ 35% โดยบริษัทมีการส่งออกไปต่างประเทศมากกว่า 10 ประเทศ รวมทั้งกำลังขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มปลาเส้น เพื่อส่งออกไปประเทศเกาหลีใต้รองรับความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น
วราภรณ์ กล่าวต่อว่า แบรนด์ได้มุ่งมั่นการขยายตลาดสู่ต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยสนใจตลาดในประเทศเพื่อนบ้านไทย ทั้งประเทศเมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา รวมถึงได้เข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าที่ประเทศกัมพูชา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งสนใจหาตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศกัมพูชา พบว่ากลุ่มลูกค้าชาวกัมพูชาให้การตอบรับสินค้าในระดับที่ดีและมีโอกาสขยายกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การขยายตลาดสู่ต่างประเทศสิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องพิจารณามีทั้งการศึกษาตลาดแต่ละประเทศให้ชัดเจน พฤติกรรมของลูกค้าชื่นชอบสินค้าแบบใด เมืองใดที่เหมาะสมเข้าไปทำตลาด รวมถึงการทำมาตรฐานสินค้าทุกอย่างให้ถูกต้อง และมีใบรับรองสินค้าเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ อีกทั้งการติดต่อทำธุรกรรมกับคู่ค้าต่างประเทศก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน
“บริษัทเคยมีกรณีที่ติดต่อส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศ และเป็นคู่ค้าที่ส่งออกต่อเนื่องหลายปี แต่กลับมีปัญหา มีแฮ็กเกอร์ เข้าไปขโมยข้อมูลอีเมลของบริษัท ติดต่อลูกค้าแทนบริษัท และแจ้งให้ลูกค้าโอนไปบัญชีอื่น โดยให้โอนเงินไปบัญชีในประเทศที่สามแทน ทำให้ลูกค้าโอนเงินไปบัญชีดังกล่าว เมื่อเกิดปัญหา ทำให้บริษัทจึงต้องตรวจสอบอีเมลอย่างรัดกุม และเน้นย้ำกับลูกค้าเรื่องบัญชีที่โอนเงิน ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ส่งออกหลายราย” วราภรณ์ กล่าว
วราภรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะสร้างแบรนด์เชิญชิมให้ลูกค้ารู้จักเพิ่มขึ้น ทำให้ทุกคนที่นึกถึงปลากรอบ ปลาหวาน จะต้องนึกถึงสินค้าของบริษัทที่หลากหลาย รวมถึงมุ่งเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและทำให้แบรนด์ไทยเติบโตได้ดีในตลาดโลก


