ไทยแลนด์ 4.0 หนุน โซลูชั่นบริหารธุรกิจโตต่อ

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ที่ผ่านมา ธุรกิจอีอาร์พี หรือการให้บริการโซลูชั่นวางแผนบริหารธุรกิจขององค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP) เติบโตแบบเงียบๆ มาต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศอุตสาหกรรมและเป็นฐานการผลิตให้กับสินค้าหลายประเภท ยิ่งมีความต้องการใช้ระบบอีอาร์พีเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลไทยมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการสนับสนุนดิจิทัล อีโคโนมี ซึ่งเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อนองค์กร ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอีอาร์พีมองไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของภูมิภาคอาเซียน

“ในกลุ่มประเทศอาเซียน มี 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่มีความโดดเด่นมากในด้านความต้องการใช้ระบบอีอาร์พี เพราะภาครัฐมีแผนผลักดันชัดเจน แต่อย่างประเทศที่เริ่มต้น เช่น กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา แม้จะเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก แต่ก็ค่อยๆ เติบโต” ศรีดาราน อรูมูแกม รองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ไอเอฟเอส ผู้ใช้บริการระบบการวางแผนบริหารธุรกิจขององค์กร หรืออีอาร์พี ภายใต้ชื่อ ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น กล่าว

สำหรับไอเอฟเอสทำตลาดอยู่ใน50 ประเทศ มีฐานลูกค้า 2,400 ราย มีฐานผู้ใช้งานระบบอีอาร์พีของไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น มากกว่า 1 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวเป็นกลุ่มประเทศในอาเซียน 7 ประเทศ มีฐานลูกค้า 150 ราย และผู้ใช้งาน 8,500 คน โดยตลาดในอาเซียนมีความโดดเด่นมาก เพราะมีหลายประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัว ซึ่งความต้องการใช้ระบบอีอาร์พี จะเติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมในประเทศนั้นๆ หากภาคอุตสาหกรรมขยายการผลิต ก็ทำให้องค์กรต้องใช้ระบบอีอาร์พีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพงานในส่วนต่างๆ

ด้านตลาดไทย กลุ่มลูกค้าของไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น ได้แก่ อุตสาห กรรมด้านอากาศยาน และยุทโธปกรณ์การรบ (Aerospace & Defense) อุตสาหกรรมการให้บริการ อุตสาหกรรมด้านยานยนต์ ค้าปลีก การจัดการสินทรัพย์ อุตสาหกรรมด้านพลังงานและสาธารณูปโภค อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ และการก่อสร้าง โดยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้จะเน้น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มอุตสาหกรรมด้านอากาศยานและยุทโธปกรณ์การรบ และกลุ่มอุตสาหกรรมด้านพลังงานและสาธารณูปโภค ซึ่งจะให้น้ำหนักกับ 2 กลุ่มแรกมากกว่า 60-70% ส่วนอีก 2 กลุ่มจะอยู่ที่ 30-40%

ปัจจัยที่เน้นหนักใน 4 กลุ่มดังกล่าว เพราะเป็นกลุ่มที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่นมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานในโรงงานอุตสาห กรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้นและก้าวไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ โดยอุตสาหกรรมควรเตรียมความพร้อมสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 อีกทั้งไอเอฟเอสมีแผนขยายที่มีความเชี่ยวชาญโซลูชั่นสำหรับลูกค้าญี่ปุ่นโดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ และการขยายตลาดในประเทศเมียนมาและกัมพูชา โดยไอเอฟเอส ประเทศไทย ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไว้ที่ 10%

ศรีดาราน กล่าวว่า ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น พยายามพัฒนาให้มีความคล่องตัวในการใช้งานผ่านเดสก์ท็อป แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนมากขึ้น และยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงแนวโน้มและเชื่อมโยงกับระบบคลาวด์ ซึ่งสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ ด้วยโซลูชั่นของอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือไอโอที ด้วย โดยจุดเด่นสำคัญในการให้บริการธุรกิจนี้ คือ ต้องมีความยืดหยุ่น มีการแบ่งแอพพลิเคชั่นย่อยๆ ตามสายงานต่างๆ และในแต่ละแอพพลิเคชั่นมีหลายโมดุล ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้โมดุลต่างๆ ที่ต้องการได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งโมดุล เพื่อควบคุมต้นทุนให้กับองค์กร

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอีอาร์พีในไทยนั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลไทยกำลังผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่เศรษฐกิจอยู่บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งต้องอาศัยการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดย การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยของแวดวงไอทีได้คาดการณ์การเติบโตของตลาดอีอาร์พีในไทย จะมีอัตราการเติบโตที่ 14.91% ระหว่างปี 2559-2563