ฟิวเจอร์พาร์คตั้งงบแสนล้าน ผุดอาณาจักร ‘ฟิวเจอร์ซิตี้’

โดย...จะเรียม สำรวจ

กลายเป็นศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยไปเรียบร้อยสำหรับฟิวเจอร์พาร์ค หลังจากทุ่มงบถึง 4,000 ล้านบาท เปิดโครงการสเปล บนพื้นที่ 1 แสน ตร.ม. ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนต่อขยายของโครงการฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ส่งผลให้ปัจจุบันฟิวเจอร์พาร์คมีพื้นที่ค้าปลีกรวมมากถึง 5.8 แสน ตร.ม. หรือคิดเป็น 108 ไร่ แต่ถ้านับรวมพื้นที่ของอินเด็กซ์
ลิฟวิ่งมอลล์ โฮมโปร ห้างเทสโก้ โลตัส และโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ ก็จะมีพื้นที่ค้าปลีกมากถึง 154 ไร่

จากความครบวงจรของพื้นที่ค้าปลีกที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัท รังสิตพลาซ่า ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค มองหาบริการอื่นๆ มาเติมเต็มให้กับโครงการฟิวเจอร์พาร์ค ด้วยการเสาะหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเปิดให้บริการบนที่ดินที่เหลืออีกกว่า 400 ไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 ฝั่งในย่านรังสิตที่ถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของโครงการฟิวเจอร์พาร์ค

สำหรับธุรกิจที่บริษัท รังสิตพลาซ่า มองไว้ว่ามีศักยภาพสามารถนำมาเติมเต็มให้กับโครงการฟิวเจอร์พาร์คได้ คือ ศูนย์กีฬา โครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรม ซึ่งเบื้องต้นในส่วนของ 3 ปีนับจากนี้ จะเร่งดำเนินการในส่วนของศูนย์กีฬาและโรงแรมก่อน เนื่องจากเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการได้ในทันที ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยอาจต้องรอดูสถานการณ์อีกระยะ เพราะอาจต้องหาพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาช่วยพัฒนาโครงการ

พิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาที่ดินทั้งหมดของฟิวเจอร์พาร์คที่มีอยู่ประมาณ 600 ไร่ ให้เป็น “ฟิวเจอร์ซิตี้” หรือเมืองของฟิวเจอร์ โดยขณะนี้บริษัทได้มีการพัฒนาที่ดินบางส่วนไปแล้วประมาณ 154 ไร่ และยังเหลืออีกกว่า 400 ไร่ ที่รอการพัฒนา

ในส่วนของแผนการพัฒนาโครงการส่วนต่อขยายในช่วง 3 ปีนับจากนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2560-2562 คือ ศูนย์กีฬา หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการทำสนามแบดมินตันมาแล้ว 4 สนาม และขณะนี้ได้ขยายเพิ่มเป็น 6 สนามไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในอนาคตอันใกล้มีแผนที่จะขยายเพิ่มเป็น 20 สนาม

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะพัฒนาในส่วนของสนามฟุตบอล ลู่วิ่ง และสถานที่ปั่นจักรยาน บนพื้นที่รวม 10 ไร่ ซึ่งจะก่อสร้างเป็นศูนย์กีฬา เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่นิยมการออกกำลังกายมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนขยายศูนย์กีฬาเฟสใหม่อยู่ที่ประมาณ 80-100 ล้านบาท และก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2560 นี้

นอกจากนี้ ยังมีอีก 1-2 โครงการที่คาดว่าจะเกิดภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ คือ ธุรกิจโรงแรม และโครงการที่อยู่อาศัย โดยธุรกิจโรงแรมนั้นเบื้องต้นพิจารณาทั้งการพัฒนาโครงการด้วยตัวเอง และจ้างเชนเข้ามาบริหาร เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท ส่วนธุรกิจที่อยู่อาศัยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผน เนื่องจากการทำธุรกิจดังกล่าวอาจหาผู้ที่มีความชำนาญเข้ามาร่วมทำธุรกิจ

ปัจจัยที่ทำให้บริษัท รังสิตพลาซ่า ตัดสินใจที่จะเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจเพื่อเติมเต็มให้กับโครงการฟิวเจอร์ซิตี้บนที่ดินที่เหลืออีกประมาณ 400 ไร่ เนื่องจากภาครัฐมีการประกาศแผนจะดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต จึงทำให้บริษัทมีความมั่นใจที่จะเดินหน้าลงทุนบนที่ดินที่เหลือ ซึ่งหากพัฒนาที่ดินเต็มพื้นที่ทั้งหมดคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

พิมพ์ผกา กล่าวปิดท้ายว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท คือ การสร้างมอลล์ในอนาคตให้คนสามารถสัมผัสได้ จึงทำให้การลงทุนทำศูนย์การค้าในแต่ละครั้งไม่คิดถึงจุดคุ้มทุน แต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้คู่ค้าสามารถอยู่ได้