‘กนิษฐา รอดดำ’ กูรูเทรดยางพร้อมลุยและตั้งรับ

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง

กนิษฐา รอดดำ อายุ 38 ปี หลายคนอาจรู้จักเธอฐานะครูไก่ โค้ชประจำโครงการซูเปอร์เทรดเดอร์ไทยแลนด์ที่ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 หรือฐานะครูสอนทางเทคนิคของชมรมโฉลกดอทคอมกว่า 6 ปี วิทยากรตลาด TFEX ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้งเป็นเจ้าของพ็อกเกตบุ๊กมาแล้ว 2 เล่มคือ “Rich for Life” และ “The Key” จนล่าสุดออกเล่มที่ 3 ชื่อว่า สร้าง “อิสรภาพทางการเงิน” จากตลาดหุ้น

เธอ เล่าว่า จุดเริ่มต้นเข้ามาวงการนี้ได้เพราะอยากหาคำตอบว่าทำไมธุรกิจยางพาราที่บ้านซึ่งเธอคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กถึงขาดทุน หลายครั้งเห็นว่าราคายางกำลังขึ้น แต่ทำไมโรงงานบอกว่าราคาลง ต้องขายในราคาขาดทุน จึงตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้งหลังเรียนจบปริญญาตรี เพื่อเข้าสู่วงการซื้อขายตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) สมัยนั้น พาตัวเองเข้ามาอยู่ในวงการยางพาราให้ได้ โดยไม่บอกที่บ้านเพราะเขามองเป็นการพนันมากกว่าการลงทุน

พอเอาเข้าจริงก็รู้สึกไม่ได้ตอบโจทย์ให้ตัวเอง จึงชวนผู้ที่แนะนำการลงทุนให้ไปเรียนวิเคราะห์ทางเทคนิคพวกแท่งเทียนแต่ก็ยังไม่ได้ผล จนไปเจอชมรมโฉลกและทฤษฎีดาวน์ที่อ่านธรรมชาติและพฤติกรรมการเคลื่อนไหวราคาหุ้นจนฝึกฝนรวมทั้งหมด 3 ปี และกลายเป็นพี่เลี้ยงช่วยสอนที่นั่นอีก 6 ปี

เงินทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท เริ่ม AFET 3-4 เดือนแรกยังไม่มีกำไร มีคนบอกตลาดเล็กไปต้องไปซื้อขายตลาดยางพาราล่วงหน้าญี่ปุ่น (TOCOM) โดยใช้ราคา TOCOM มาคำนวณ AFET เพื่อจับราคายางจริง (สปอต) จนสามารถพลิกฟื้นที่บ้านได้มีกำไร แต่เอาเข้าจริงใช้เวลา 3 ปีกว่าที่จับจังหวะสปอตได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นโชคช่วยที่เข้ามาในช่วงราคายางขาขึ้น และสอง เธอเจอทฤษฎีที่นำมาใช้และสอดคล้องกับสภาพตลาด

สำหรับผลตอบแทนที่ได้บางส่วนจะเก็บไว้สมทบพอร์ตเดิม แต่โดยหลักจะนำกำไรไปแปลงเป็นสินทรัพย์อื่นคือ อสังหาริมทรัพย์ ทั้งสวนยางและสวนปาล์ม และที่ดินไว้ปลูกบ้านที่ภาคใต้ประมาณ 200 ไร่ รวมถึงซื้อคอนโดมิเนียมที่กรุงเทพฯ โดยทั้งหมดยังไม่เคยขายออกไปเลย

“ที่พยายามแปลงกำไรที่ได้เป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องการให้เงินได้ทำงานของมันเอง (Passive Income) และอสังหาฯ ก็มั่นคงในอนาคตเมื่ออายุมากขึ้น โดยไม่ต้องวุ่นวายหรือบู๊ล้างผลาญในการหาเงินใช้ตอนแก่ที่มองว่า อายุ 55 ปีจะรีไทร์จากการทำงานหรือลงทุน” ครูไก่ เล่า

ดังนั้น ตลอด 9 ปี ที่ลงทุนเธอซื้อขายในตลาด TOCOM เป็นหลัก เพิ่งมี 2 ปีหลังที่เริ่มเป็นโค้ชในซูเปอร์เทรดเดอร์ ทำให้ลงทุนในตลาดหุ้น จนพอร์ตปัจจุบันเป็นซื้อขายล่วงหน้ายาง 90% และอีก 10% เป็นพอร์ตหุ้นที่อาศัยเรื่องวิเคราะห์จากกราฟเทคนิคล้วนๆ โดยยึดหลักต้องเข้าไปในจังหวะที่ซื้อถูกขายแพงให้ได้ จึงสแกนหุ้นที่มีรอบขาขึ้นและขาลง (ไซเคิล) ทั้งหมด รู้สึกว่าหุ้นง่ายกว่ายางเพราะมีหลายตัวให้เลือก เพียงแต่รอจังหวะไซเคิลให้ถูกและรอปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) มาค่อยอัดเข้าไปเต็มที่

ที่ผ่านมามีหุ้นตัวหนึ่งที่ได้กำไรประมาณ 50% แต่ถ้าเป็นซื้อขายเพียงวันเดียว (เดย์เทรด) ที่ใช้ลองวิชากับนักเรียนเพียง 3% ก็จะออกแล้ว แต่กำไรของพอร์ตรวมหุ้น กว่า 2 ปีกำไรอยู่ที่ 30% และเริ่มศึกษาด้านปัจจัยพื้นฐานเข้ามาเพิ่ม

การเทรดยางกับหุ้นหัวใจหลัก คือ ต้องเริ่มต้นวางแผนและบริหารเงินที่ดีก่อน โดยใช้กลยุทธ์ปกป้องความเสี่ยงในการหา Max-drawdown คือ หาจุดที่ลงไปลึกสุดเพื่อวางเงินให้พอดีกับจำนวน
ที่มีตามวิธีการลงทุนของเราในแต่ละตัว เมื่อตลาดขาขึ้นจะช่วยเพิ่มกำไรไปเรื่อยๆ แต่ส่วนตัวไม่ถนัดตลาดขาลง

เธอนิยามตัวเองว่าเป็นนักลงทุนที่รู้จังหวะ ถ้าใช่ก็พร้อมซัดเข้าไปเต็มที่ แต่ก็ไม่ประมาทเพราะเน้นความมั่นคงในชีวิต

“หลายคนอยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว แต่อยากจะบอกว่าตลาดทุนไม่ใช่จะหาเงินได้ง่ายหมด หลายคนเข้ามาก็เข็ดและหายไป สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้นาน คือ ต้องมีการศึกษา เรียนรู้และฝึกปรือทำการบ้านมาอย่างหนัก รู้จักวางแผนการบริหารเงินก่อนลงทุน อย่างเทรด TOCOM จะมีภาพกราฟที่จำในหัวได้ตลอดเวลา” เธอกล่าวทิ้งท้าย