แซฟ 888 ขายตรงเลือดอสังหาฯ เปิดแผนสร้างรายได้กลุ่มรากหญ้า

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

แซฟ 888 ธุรกิจขายตรงน้องใหม่สัญชาติไทย ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีปณิธานในการทำธุรกิจ เพื่อต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนระดับล่าง หรือผู้ที่มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ด้วยการประกาศจ่ายผลตอบแทนให้นักธุรกิจถึง 70% สูงสุดในแวดวงธุรกิจขายตรง

ชานนท์คณิน์ พัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แซฟ 888 ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์ของการทำธุรกิจขายตรงของบริษัทต้องเป็น “แผนธุรกิจที่ง่ายไม่มีความซับซ้อน สินค้ามีคุณภาพ วางระบบการจ่ายผลตอบแทนที่เที่ยงตรง” ซึ่งบริษัทเลือกใช้แผนไบนารี่ เนื่องจากเป็นแผนที่ธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่ใช้ เพราะสร้างรายได้ที่รวดเร็ว พร้อมกับเป็นแผนการกระจายรายได้ให้กับสมาชิกอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ธุรกิจที่สร้างให้คนใดคนหนึ่งร่ำรวย ใครทำใครก็ได้

ทั้งนี้ หลักของการทำธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ส่วน สำหรับสมาชิกที่ซื้อสินค้าใช้เอง ต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการใช้สินค้า รวมทั้งสินค้าต้องมีราคาถูกสอดคล้องกับกำลังซื้อ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 199-2,500 บาท พบว่า ฐานลูกค้าของแซฟ 888 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ 40 ปีขึ้นไป ที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพ สินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ในขณะนี้เป็นกาแฟดูแลรูปร่างและชาเพื่อสุขภาพ ส่วนกลุ่มนักธุรกิจขายตรง นโยบายจ่ายผลตอบแทนสูงที่สุด 70% เมื่อเทียบกับค่ายขายตรงคู่แข่งอื่นๆ แต่เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรงกำหนด

“ผมเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มอารียา พรอพเพอร์ตี้ เราให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเขียนแผนธุรกิจมานาน กระทั่งมีความพร้อมเมื่อเดือน ม.ค. ความตั้งใจเข้าสู่ธุรกิจขายตรง เพราะเล็งเห็นถึงปัญหาคนไทยระดับล่างซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศถึง 70% ยังเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ หวังว่าแซฟ 888 จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างฐานรากของไทยให้แข็งแกร่งและกลายเป็นประชากรที่มีกำลังซื้อเหมือนกับกลุ่มชนชั้นกลางมีสัดส่วน 20% และระดับบน 10% ถือว่ายังมีสัดส่วนที่น้อยมาก”

ขณะที่ในช่วงแรกของการเปิดธุรกิจ เน้นกลยุทธ์ปากต่อปาก หากสมาชิกแนะนำให้คนมาสมัครบริษัทจะจ่ายโบนัส ค่าแนะนำถึง 60% ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดีในระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค.
ยอดขายสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยอดขายสินค้า เบื้องต้นโครงสร้างสินค้าในพอร์ตโฟลิโอมีสินค้าทั้งหมด 6 รายการ ได้แก่ ชาและกาแฟเพื่อสุขภาพ สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอาง โดยนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาผลิตสินค้าในไทย และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าอื่นๆ อาทิ ครีมกันแดด ซึ่งในต้นปีเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 3 รายการ คาดว่าปีหน้าจะมีมากกว่า 10 รายการ

นอกจากนี้ การทำธุรกิจในไทยแล้ว ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 หรือในปีหน้า บริษัทจะเริ่มเข้าไปสร้างธุรกิจขายตรงในตลาดอาเซียน คาดว่าจะไปในกลุ่มซีแอลเอ็มวี อาทิ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพเติบโต จากการที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ดี ส่งผลให้ประชากรในประเทศเหล่านั้นมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร เพราะในขณะนี้มีสมาชิกสนใจจะเข้าไปเปิดตลาด ช่วงแรกยังไม่มีแผนเปิดสำนักงาน

ชานนท์คณิน์ กล่าวว่า ความท้าทายของการทำธุรกิจขายตรง คือ เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงทั้งจากค่ายขายตรงรายใหญ่ระดับแถวหน้าของประเทศ และรายย่อยซึ่งมีเป็นจำนวนมาก หากเปรียบเทียบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่ขายตรงเป็นธุรกิจเครือข่ายไม่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงก็สร้างรายได้ได้แล้ว ผมนำประสบการณ์การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาประยุกต์ในธุรกิจขายตรง

“การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อารียา พรอพเพอร์ตี้ เน้นการบริการด้วยใจ หากลูกบ้านมีปัญหาบริษัทจะมีแผนกเข้าไปดูแลทันที ส่วนแซฟ 888 ให้ความสำคัญพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพใช้แล้วเห็นผลและต้องดีต่อสุขภาพ เพราะสินค้าถือว่าเป็นคีย์ซัคเซสที่จะผลักดันให้แบรนด์แซฟ 888 แจ้งเกิดในธุรกิจขายตรงได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในธุรกิจ”

จากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาสู่ธุรกิจขายตรง คีย์ซัคเซสของแซฟ 888 อยู่ที่ความเข้าใจในชีวิตของคนไทย ในปีแรกตั้งเป้าหมาย 50 ล้านบาท และคาดว่าจะมีสมาชิก 1 หมื่นรหัส หลังจากเปิดธุรกิจมาร่วม 8 เดือน มีสมาชิกแล้ว 3,000 รหัส สิ้นปีมีสมาชิก 1 หมื่นรหัส โดยแผน 3-5 ปี ตั้งเป้ามีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท และมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นรหัส และเป้าหมายสูงที่สุดของแซฟ 888 คือ ไม่ได้ต้องการสร้างมนุษย์เงินล้านเหมือนค่ายขายตรงอื่นๆ แต่ต้องการทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น