posttoday

'การจัดการอีโก้'

17 สิงหาคม 2559

โดย...กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา

โดย...กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา

คริสเตียโน โรนัลโด นักเตะทีมเรอัล มาดริด เจ้าของพิพิธภัณฑ์ CR7 และแบรนด์ Underware CR7 เล่นบอลอาชีพได้รางวัลมากมาย แถมน่าหมั่นไส้เล็กๆ ในความหล่อเหลา หุ่นแบบนี้สามารถ
เป็นนายแบบหรือนักแสดงได้สบาย จนเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่า คนอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด” จะไม่เกิดอาการ “หลงตัวเอง” (Narcissism)” บ้างหรืออย่างไร

ถ้าพูดถึงเรื่องอีโก้ทุกคนก็เจอกันทุกคน ทั้งอีโก้จากเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อน พ่อแม่พี่น้อง และอีโก้ของตัวเราเอง บางทีก็หนักกว่าของคนอื่นอีกด้วยซ้ำ ซึ่งการกำจัดอีโก้ในตัวเองจะต้องมีวิธีการบริหารจัดการ เพราะอีโก้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ หากรู้จักวางแผน จัดโครงสร้าง การตอบแทนและการควบคุม โดยดึงส่วนที่เป็นประโยชน์มาใช้ให้เป็น และตัดทิ้งส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือสร้างความเสียหายแก่คนรอบข้างให้หมดไป เรียกว่าเป็น การจัดการอีโก้ (Ego Management) ซึ่งต้องมีการฝึกฝนอยู่เป็นประจำจึงจะเอาไปประยุกต์ใช้ได้ดี

อีโก้-Egotistical ตามความหมาย คือ A person’s sense of self-esteem or self-importance แปลว่า การมองเห็นคุณค่าในตัวเองหรือความหลงตัวเองบวกกับความมั่นใจในตนเอง Egotistical แม้จะหลงตัวเอง แต่ไม่ยกตนข่มท่าน ต่างจาก “Arrogant” ที่หยิ่งยโสโอหัง แสดงออกถึงความมั่นใจในตนเอง และดูถูกผู้อื่น ดังนั้น คนที่มีอีโก้ หรือ Egotistical ก็ไม่จำเป็นต้อง Arrogant

นักจิตวิทยาหลายคนเห็นตรงกันว่า “อีโก้” ทำให้คนก้าวข้ามจากคำว่า “เก่ง” (Good) ไปสู่คำว่า “โคตรเก่ง” (Great) เช่น Michael Johnson อดีตนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก อีโก้ทำให้ผมมีความมั่นใจ แต่การจัดการอีโก้ก็สำคัญไม่แพ้กัน การควบคุมและบริหารอีโก้จึงสำคัญมาก เลี้ยงอีโก้ให้เชื่อง ไม่แว้งกัด และไม่ทำให้เราเป็นคน Arrogant

ส่วน ไมค์ ฟอร์ด ได้คิดค้น “สูตรการก้าวไปสู่ความเก่งโคตร” คือ ความเก่งโคตร = (อีโก้ + การเปิดใจเรียนรู้และฝึกฝน) x วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ ตัวอย่างของสมการนี้คือ เอริก คันโตนา กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้อหังการ อีโก้จัด แต่เขาเป็นนักกีฬาที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงหลังการฝึกซ้อมกับทีมมาฝึกฝนเทคนิคเบสิกด้วยตัวเอง มีความถ่อมตัว และใจกว้างมากพอที่จะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นี่เองทำให้เขาก้าวสู่การเป็นนักเตะในตำนาน

เช่นเดียวกับโรนัลโด ซึ่งเซอร์อเล็กซ์ ผู้จัดการทีม ได้พูดไว้ “สิ่งสำคัญคือเขาฝึกหนัก เขาซ้อมยิงทุกวัน โดยเราจะไปนั่งจิบชา แล้วปล่อยให้เขามีเวลาซ้อมคนเดียว หลายครั้งเราแทบจะต้องไปลากตัวเขาออกจากสนามซ้อม”

ความเป็นมืออาชีพของโรนัลโด ไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมหนักอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดใจรับฟังคำวิจารณ์จากโค้ช และเพื่อนร่วมทีม หรือ แม้กระทั่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเขาเอามาเป็นแรงขับเคลื่อน เขาเปลี่ยนความคิดด้านลบมาเป็นพลังบวกได้อย่างน่าทึ่ง นี่คือประโยคที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเขา และมีค่าสำหรับพวกเรา

“Your love makes me strong, your hate makes me unstoppable.”

“ความรักของคุณทำให้ผมแข็งแกร่ง แต่ความเกลียดชังของคุณจะทำให้ผมไร้เทียมทาน”

ภาพของโรนัลโดอาจถูกฉายมาให้เห็นแค่ความเก่งของเขาเพื่อตัวเขาเองเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเขาสร้างเกียรติคุณให้กับโลกนี้ เขาเป็นไอดอลตัวจริง ที่มีคนมากมายอยากจะทำให้ได้อย่างเขา เขาเป็นตัวอย่างของคนที่ไม่แตะต้องอบายมุข มีวินัยขั้นสูง เขาบริหารเวลาเพื่อการเอาดีทางด้านอาชีพ ความสำเร็จ และครอบครัวได้อย่างไม่มีที่ติ

ส่วนวิธีที่นุ่มนวลในการจัดการกับอีโก้มีผู้เสนอว่า 1) อย่าคิดว่าทุกๆ อย่างจะต้องสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด 2) หยุดความคิดที่ต้องการจ้องจะเอาชนะคนอื่น 3) รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นบ้าง 4) ลดความอ่อนไหวของตัวเองลง 5) พยายามเข้าอกเข้าใจสิ่งต่างๆ ให้มากขึ้น

ถ้าวันนี้เราจะมีอีโก้และตะโกนให้คนรู้ว่าเราเก่งก็ไม่แปลก ขอแค่ให้เราทำตัวให้เก่งจริง ด้วยการเรียนรู้ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนแปลงตัวเราให้ดีขึ้นซึ่งนำพาสู่การที่เราจะมีโอกาสมากยิ่งขึ้นในการช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคม

แต่ถ้าไม่เป็นอย่างว่าแค่อยากเก่ง แค่คิดว่าเก่งแต่ไม่เคยเรียนรู้ฝึกปรือก็รีบกำจัด ขอให้เราทุกคนใจกว้างพอสำหรับการให้เวลาสำรวจตัวเองและปรับปรุงตัวเอง เพื่อความสุข ความเจริญอย่างแท้จริง

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"