โลว์คอสต์รุกเพิ่มไทเป
นกสกู๊ต-ไทเกอร์แอร์ รับอานิสงส์วีแอร์หยุดบิน 1 ต.ค. คาดผู้โดยสารหลั่งไหล เล็งเพิ่มความถี่เที่ยวบิน
นกสกู๊ต-ไทเกอร์แอร์ รับอานิสงส์วีแอร์หยุดบิน 1 ต.ค. คาดผู้โดยสารหลั่งไหล เล็งเพิ่มความถี่เที่ยวบิน
นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกสกู๊ต เปิดเผยว่า ขณะนี้นกสกู๊ตอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเพิ่มเที่ยวบินไปไทเป (ไต้หวัน) หรือไม่ หลังสายการบินวีแอร์ ประกาศหยุดบินตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากมองว่าไต้หวันยกเว้นการตรวจลงตรา (ฟรีวีซ่า) ให้คนไทยที่เดินทางไปเที่ยวและพำนักในไต้หวันไม่เกิน 30 วันแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 1 ปี คาดว่าจะทำให้จำนวนคนไทยไปเที่ยวไต้หวันมากขึ้น ต่างจากที่ผ่านมาที่คนไทยยังไปน้อย
ทั้งนี้ ปัจจุบันนกสกู๊ตมีเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ไทเป 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ที่ผ่านมาก่อนไต้หวันฟรีวีซ่าให้คนไทย อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (โหลดแฟกเตอร์) อยู่ที่ 70% และคนที่ใช้บริการเป็นคนไต้หวันมากกว่าคนไทย แต่สัญญาณหลังไต้หวันฟรีวีซ่าให้คนไทย คาดว่ายอดจองจากคนไทยไปไต้หวันจะเพิ่มขึ้นและช่วยเพิ่มโหลดแฟกเตอร์ให้ดีขึ้น
สำหรับที่ผ่านมา นกสกู๊ตมีการทำตลาดแนะนำกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวในไต้หวันต่อเนื่องผ่านโซเชียล มีเดีย และจะทำต่อเนื่อง แต่หากต้องการให้คนไทยรู้จักและสนใจเที่ยวไต้หวันมากกว่านี้ การท่องเที่ยวไต้หวันคงต้องร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทำโปรโมชั่นเพื่อให้คนไทยรู้จักไต้หวันมากขึ้นด้วย เพราะสายการบินคงไม่สามารถทำการตลาดอย่างหนักได้ฝ่ายเดียวเนื่องจากจำนวนเที่ยวบินไม่มากจึงไม่คุ้มค่าพอ
ด้านแผนธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ต้าเหลียน (จีน) ช่วงเดือน ก.ย.โดยเป็นเส้นทางเดียวที่จะเปิดเพิ่มช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนไต้หวันหลังจากเปิดฟรีวีซ่าแล้ว นกสกู๊ตคงไม่เปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-เกาสง เพราะอยากให้นกแอร์เปิดเส้นทางดังกล่าวมากกว่า เนื่องจากระยะเวลาบินจากไทยไปเกาสงนั้นนกแอร์บินได้
น.ส.วงศ์ศญา ชานิกรประดิษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สายการบินไทเกอร์แอร์ ไต้หวัน กล่าวว่า ความต้องการที่นั่งเส้นทางกรุงเทพฯ-ไทเป เติบโตกว่า 100% หลังจากรัฐบาลไต้หวันยกเว้นวีซ่าให้คนไทย โดยเฉพาะการจองที่นั่งในวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ ที่เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้โหลดแฟกเตอร์เต็ม 100%
“หลังจากนี้คาดว่าความต้องการจะสูงขึ้นอีก จนไม่จำเป็นต้องทำโปรโมชั่นกระตุ้นตลาด เพราะวีแอร์ซึ่งเป็นผู้เล่นในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) เหมือนกัน ประกาศหยุดบินตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยคาดว่าทุกสายการบินที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-ไทเป ก็ได้อานิสงส์จากผู้โดยสารหาที่นั่งทดแทนหลังวีแอร์ไม่บินเช่นกัน” น.ส.วงศ์ศญา กล่าว
ขณะที่ไทเกอร์แอร์ ไต้หวัน เตรียมรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มความถี่เส้นทางบินกรุงเทพฯ-ไทเป จากเดิมมี 1 เที่ยวบิน/วัน เป็น 2 เที่ยวบิน/วัน แต่คงต้องรอผลการขอช่วงเวลาบิน (สลอต) จากสนามบินให้เสร็จเรียบร้อยก่อน หากดำเนินการได้จะทำให้ไทเกอร์แอร์ ไต้หวัน รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปัจจุบันรองรับได้ 180 ที่นั่ง/วัน ส่วนการเปิดบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ ไปยังเมืองอื่นในไต้หวัน เช่น เกาสง คงต้องขอรอดูพัฒนาการของตลาดอีกระยะ เพราะปัจจุบันคนไทยยังนิยมไปเพียงไทเปและพื้นที่โดยรอบเท่านั้น
นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ไทเป โดยจะขอดูความต้องการตลาดอย่างใกล้ชิดก่อนว่าเหมาะจะเข้าไปแข่งขันหรือไม่
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดกลับไปเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ไทเปอีก แม้วีแอร์จะหยุดบิน เพราะเส้นทางนี้มีคู่แข่งมาก ทั้งสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ รวมถึงมีโลว์คอสต์แอร์ไลน์ให้บริการอยู่แล้ว จึงทำให้จำนวนที่นั่งรองรับผู้โดยสารมีมาก
ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการบินตรงจากไทยไปไต้หวัน 6 สายการบิน เป็นสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ 3 สายการบิน คือ การบินไทย ไชน่าแอร์ไลน์ส และอีวีเอแอร์ สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) 3 สายการบิน คือ ไทเกอร์แอร์ นกสกู๊ต และวีแอร์ แต่วีแอร์ หยุดบินวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป จึงเหลือโลว์คอสต์แอร์ไลน์ 2 สายการบิน


