posttoday

จากธุรกิจโรงสี สู่ข้าว ‘อรุณสวัสดิ์’

01 สิงหาคม 2559

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

จากความไม่แน่นอนของธุรกิจข้าวไทย ที่เกิดความผันผวนเรื่องราคา ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมข้าวไทยในทุกส่วน รวมถึงธุรกิจโรงสีข้าว ที่ได้รับความผันผวนจากราคาข้าวเช่นกัน ทำให้บริษัทเอกชนไทยเร่งปรับตัว มุ่งเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวไทย

“กัมพล สิริประภาพรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิริไฟน์ฟู้ดส์เฮลตี้ ผู้ประกอบธุรกิจข้าวแปรรูป แบรนด์ “อรุณสวัสดิ์” เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มต้นจากการทำธุรกิจโรงสีข้าว ใน จ.สุพรรณบุรี ภายใต้ชื่อ “สิริธัญญมงคล” โดยเป็นกิจการของครอบครัว ประมาณ 30-40 ปี ต่อมาในช่วงประมาณ 5-10 ปีธุรกิจโรงสีข้าวเริ่มมีความไม่แน่นอน จากปัจจัยเรื่องราคา และการส่งออกไปต่างประเทศก็ปรับลดลงต่อเนื่อง รวมถึงการแข่งขันในธุรกิจโรงสีมีความรุนแรงอย่างมาก

ทำให้สนใจศึกษาแนวทางที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวไทย โดยตนเองเป็นรุ่นสองที่เข้ามาสานต่อกิจการของครอบครัว โดยเรียนจบระดับปริญญาโทมาทางด้านเศรษฐศาสตร์การเกษตรและทรัพยากร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงสนใจศึกษาและหาแนวทางเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวไทย ซึ่งการศึกษาเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวไทยจะทั้งการร่วมมือกับหน่วยงานวิจัย และเข้าร่วมโครงการของภาครัฐ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)

ทั้งนี้ จึงได้เริ่มจัดตั้งบริษัทใหม่ “สิริไฟน์ฟู้ดส์เฮลตี้” ในปี 2555 และจัดตั้งโรงงานในปี 2556 ภายใต้งบลงทุนก่อสร้างโรงงาน 40-50 ล้านบาท และเริ่มผลิตสินค้ากลุ่มข้าวเข้ามาทำตลาดในปี 2557 โดยการเริ่มต้นผลิตทุกอย่างไม่ได้มาง่ายๆ ต้องเรียนรู้และศึกษาอย่างต่อเนื่องไม่มีวันหยุด ซึ่งปรับการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ข้าวมีความหอม นุ่ม และน่ารับประทานมากที่สุด ทำให้ได้ข้าวพร้อมรับประทานแบรนด์ อรุณสวัสดิ์ ที่ดีที่สุด

สินค้าที่ได้พัฒนามีทั้ง ข้าวผัดพริกไทยดำ ข้าวผัดแกงเขียวหวาน และข้าวผัดต้มยำ ที่มีสูตรเครื่องแกงแบบลับเฉพาะ ที่ให้รสชาติที่พิเศษ พร้อมกับไม่ใส่สารกันบูด และไม่มีสารปรุงแต่ง โดยมีบรรจุภัณฑ์ทั้งแบบกระป๋อง และแบบพลาสติก พร้อมกับสามารถรับประทานได้ทันที หรือนำไปใส่ไมโครเวฟ เพื่อให้อาหารร้อนได้ ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งคนรักสุขภาพ กลุ่มคนในเมือง และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีในประเทศไทย

ล่าสุด ได้เปิดตัวข้าวเหนียวมูลพร้อมรับประทาน ที่ยังไม่มีมาก่อนในประเทศไทยเช่นกัน พร้อมกับใช้สารให้ความหวาน ทดแทนน้ำตาล เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพเช่นกัน ซึ่งสินค้าของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาลเช่นกัน โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวไม่ต่ำกว่า 2 เท่าขึ้นไป ทั้งนี้นโยบายของบริษัทจะมุ่งให้ความสำคัญกับการแปรรูปข้าว เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าใหม่ และสร้างสินค้าที่มีนวัตกรรม พร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวก

บริษัทเตรียมที่จะเพิ่มช่องทางทำตลาดสินค้าให้มากขึ้น ทั้งผ่านออนไลน์ www.aroonsawat.com เฟซบุ๊ก การเข้าเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงการเข้าไปเจาะตลาดในต่างประเทศ ทั้งประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และในแถบตะวันออกกลาง เพราะสินค้าของบริษัทเป็นสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาล จึงเชื่อมั่นว่ามีโอกาสที่จะส่งออกได้อย่างดีในระยะยาว รวมถึงตลาดสินค้ากลุ่มฮาลาลกำลังขยายตัวสูงในตลาดโลก

กัมพล กล่าวต่อว่า ส่วนธุรกิจโรงสีนั้น ยังดำเนินกิจการต่อไป แต่บริษัทจะให้ความสำคัญกับธุรกิจใหม่ การเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวมากขึ้น โดยบริษัทได้วางเป้าหมายภายในปี 2560 ธุรกิจใหม่แบรนด์ “อรุณสวัสดิ์” จะสร้างยอดขายรวมมากกว่า 50 ล้านบาท และเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง พร้อมกับบริษัทที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้ข้าวไทย เพราะข้าวไทย เป็นที่ต้องการในตลาดทั่วโลก

ถือเป็นการพลิกธุรกิจใหม่ของโรงสีไทย ที่สามารถใช้การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมาเป็นตัวขับเคลื่อนสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจข้าวไทยมากที่สุด

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต