posttoday

ศาลโลกกับทะเลจีนใต้

21 กรกฎาคม 2559

เป็นข่าวดังไปทั่วเมื่อศาลโลกอ่านคำตัดสินคดีทะเลจีนใต้ในวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา คดีนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายยื่นฟ้องในปี 2013 หลังจากเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ในปี 2012 ใกล้หมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างอธิปไตย

เป็นข่าวดังไปทั่วเมื่อศาลโลกอ่านคำตัดสินคดีทะเลจีนใต้ในวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา คดีนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายยื่นฟ้องในปี 2013 หลังจากเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ในปี 2012 ใกล้หมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างอธิปไตย

ฝ่ายจีนปฏิเสธไม่ยอมรับอำนาจศาล ไม่ยอมมีส่วนร่วมในการคัดเลือกอนุญาโตตุลาการคนกลาง ตลอดจนไม่ให้ความร่วมมือในการพิจารณาคดี โดยยืนยันว่าการแก้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ควรเป็นแบบทวิภาคีระหว่างคู่กรณี ไม่ควรมีประเทศที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง

ผลของคำตัดสินให้ฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายชนะคดีอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยสรุปว่าการอ้างอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้ของจีนบนพื้นฐานของเส้นประ 9 เส้นไม่มีเหตุผลสนับสนุนอย่างสิ้นเชิง จีนได้รุกล้ำอธิปไตยของฟิลิปปินส์ และการสร้างเกาะเทียมของจีนเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อปะการังและสิ่งแวดล้อมทางทะเลอื่นๆ

ดูเหมือนจีนจะรู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเป็นฝ่ายแพ้ ทันทีที่ศาลอ่านคำตัดสิน จีนจึงออกมาตอบโต้อย่างดุเดือดเป็นชุดๆ

ในความเป็นจริง ประเทศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ได้มีเฉพาะจีนกับฟิลิปปินส์ เราลองมาไล่เรียงกันดูนะครับ เริ่มจากคู่กรณีโดยตรง ดังนี้

หนึ่ง จีน จีนทราบดีว่าศาลโลกไม่มีอำนาจบังคับจีนให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา แต่ถึงกระนั้นจีนก็ให้ความสำคัญกับการพยายามไม่ให้กระแสสังคมโลกไหลบ่าไปในทิศทางตรงกันข้ามกับจุดยืนของจีน จีนจึงพยายามหาพวก พยายามชี้แจง รวมทั้งพยายามฟ้องชาวโลกว่าสหรัฐเองในอดีตก็ไม่เคยยอมรับคำตัดสินของศาลโลก เมื่อตนเป็นฝ่ายแพ้

สิ่งที่จีนอาจมองข้ามคือ สถานการณ์ปัจจุบันกับในอดีตไม่เหมือนกับสมัยก่อน เสียงโวยวายจากทั่วโลกมีน้อยกว่านี้มาก รวมทั้งสหรัฐไม่พยายามกระพือข่าว ไม่ต่อความยาวสาวความยืด ซึ่งจะยิ่งกลายเป็นจุดสนใจของชาวโลก นอกจากนี้ แม้ว่าในศาลจีนจะมีคู่กรณีเพียงประเทศเดียวคือฟิลิปปินส์ แต่ในทางปฏิบัติ จีนได้สร้างศัตรูในเรื่องหมู่เกาะไว้กับหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งต่างยินดีปรีดาและพร้อมจะช่วยซ้ำเติมความพ่ายแพ้ของจีน

สอง ฟิลิปปินส์ แม้ว่าคนฟิลิปปินส์จะตื่นเต้นกับชัยชนะ แต่รัฐบาลกลับไม่กระตือรือร้นมากนัก และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเรื่องนี้เป็นผลงานของอดีตประธานาธิบดีนอยนอย อาคิโน ซึ่งประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอย่างเหนียวแน่น ส่วนปัจจุบันเป็นรัฐบาลโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งเป็นมิตรกับจีนมากกว่า กล่าวกันว่าหากเหตุการณ์ดั้งเดิมเกิดในสมัยดูเตอร์เต เขาอาจเลือกตั้งโต๊ะเจรจากับจีนมากกว่ายื่นฟ้องศาลโลก

สาม อาเซียน สมาชิกอาเซียนมีจุดยืนที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ หาได้ร่วมหัวจมท้ายกับเพื่อนสมาชิกหลายประเทศที่มีข้อพิพาทกับจีนไม่ ประเทศที่ยืนอยู่ข้างจีนอย่างเห็นได้ชัดคือกัมพูชา ทั้งๆ ที่กัมพูชาเองก็ได้รับผลกระทบจากเส้นประ 9 เส้นของจีนด้วย อีกประเทศที่โน้มเอียงไปทางจีนคือลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศอาเซียนที่ไม่มีทางออกทะเลจีนใต้ และในระยะหลังได้รับอิทธิพลและเงินช่วยเหลือจากจีนค่อนข้างมาก

สำหรับประเทศไทย เรารีบออกแถลงการณ์ทันทีที่ศาลอ่านคำตัดสิน แต่เป็นลักษณะไม่เลือกข้าง ขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักสันติ ส่วนสิงคโปร์ประกาศว่าตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในทะเลจีนใต้ จึงพร้อมที่จะเป็นคนกลางในการเจรจาของทั้งสองฝ่าย

สรุปว่าจีนประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการใช้กลยุทธ์แบ่งแยกและปกครองในอาเซียน ทำให้อาเซียนขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องนี้

สี่ ไต้หวัน หลายคนอาจแปลกใจที่ไต้หวันประกาศไม่ยอมรับคำตัดสิน ซึ่งคล้ายกับจีน ทั้งๆ ประธานาธิบดีคนใหม่ คือ ไช่อิงเหวิน แสดงท่าทีอยากเป็นอิสระจากจีนมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้กลับกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยืนข้างจีน

ที่จริงรัฐบาลปัจจุบันของไต้หวันคงไม่อยากแสดงความเป็นมิตรกับจีนมากนัก เพียงแต่ไต้หวันก็อ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ด้วยเหตุผลที่คล้ายกับจีน กล่าวกันว่า การอ้างสิทธิของจีนในปัจจุบันเป็นมรดกตกทอดมาจากสมัยเจียงไคเช็กยังอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่ เพียงแต่สมัยนั้นเส้นประมี 11 เส้น ต่อมาคอมมิวนิสต์จีนได้ลบทิ้งไป 2 เส้น

ส่วนรัฐบาลเจียงไคเช็ก เมื่อย้ายมาอยู่ไต้หวันก็ยังคงอ้างสิทธิตามเดิม จึงเป็นสิทธิที่ซ้ำซ้อนกับจีน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศอื่นๆ ไม่ได้ให้ราคากับการอ้างสิทธิของไต้หวันมากนัก เพราะนอกจากไต้หวันจะเป็นประเทศเล็กแล้ว แม้แต่อธิปไตยเหนือเกาะไต้หวันเองก็ถูกจีนอ้างสิทธิครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง

ในหลายปีหลัง ในขณะที่จุดยืนของจีนภายใต้การนำของสีจิ้นผิงแข็งกร้าวยิ่งขึ้นเป็นลำดับ จุดยืนของไต้หวันกลับอ่อนลง อดีตประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า อธิปไตยเป็นสิ่งที่แบ่งแยกไม่ได้ แต่ทรัพยากรช่วยกันพัฒนาได้ ซึ่งหลังจากเข้ามารับตำแหน่งแทน ทั้งๆ ที่มาจากขั้วการเมืองตรงกันข้าม ไช่ก็ยังดำเนินรอยตาม โดยประกาศขอให้ทุกฝ่ายเลิกทะเลาะกัน ให้หันมาพัฒนาร่วมกัน

แต่คำตัดสินของศาลทำให้รัฐบาลไต้หวันต้องคิดหนัก เพราะการแสดงความเป็นชาตินิยมมีความสำคัญทางการเมืองสูง แต่ทำไปแล้วก็เสี่ยงต่อการเกิดความผิดพลาดในเชิงการเมืองระหว่างประเทศ

ห้า ประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่หากไม่วางตัวเป็นกลางเพราะเกรงใจจีนก็จะเอนเอียงไปทางศาลโลก เหตุผลคือ ทะเลจีนใต้อยู่ในเส้นทางการค้าโลกที่มีความสำคัญสูง ไม่มีใครอยากเห็นทะเลจีนใต้กลายเป็นทะเลปิด เรือจะแล่นผ่านหรือเครื่องบินจะบินข้ามต้องขออนุญาตจีนก่อน

เห็นได้ชัดว่าจีนไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการหาพวก มีเพียงประเทศเล็กๆ ที่ไม่ใคร่มีบทบาทบนเวทีโลกไม่กี่ประเทศที่ออกมาช่วยชี้แจง แต่ถึงกระนั้นก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก

หก สหรัฐ สหรัฐแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยมานานแล้วในการไม่ยอมรับการอ้างสิทธิของจีนเหนือทะเลจีนใต้ เพราะนอกจากจะเป็นเขตอิทธิพลดั้งเดิมตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนามของกองทัพเรือสหรัฐแล้ว ทะเลจีนใต้ยังมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างสูงสำหรับพันธมิตรทั้งเก่าและใหม่ของสหรัฐที่ช่วยคานอำนาจจีนในปัจจุบัน

สหรัฐให้ความสำคัญกับการคงความเป็นทะเลเปิดของทะเลจีนใต้ และเมื่อจีนแผ่อิทธิพลแบบไม่เกรงใจใครมากขึ้น เช่น ส่งเรือประมงและแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในเขตที่ยังมีข้อพิพาท รวมทั้งเข้าไปสร้างเกาะเทียมและสนามบินให้เครื่องบินรบขึ้นลง สหรัฐก็ไม่รีรอในการส่งเรือรบและเครื่องบินรบเข้าไปท้าทายอำนาจจีน

คำตัดสินของศาลโลกจะเป็นตัวช่วยให้สหรัฐมีความชอบธรรมในการเข้ามาขัดขวางการแผ่อำนาจของจีนมากขึ้น ส่วนที่เกรงกันว่าจะนำไปสู่สงครามผมยังมองไม่เห็น เพราะจีนยังไม่มีแสนยานุภาพทางทะเลและทางอากาศเพียงพอที่จะต่อกรกับสหรัฐ

ข่าวล่าสุด

ไทยเบฟคว้า 2 รางวัลอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025