3วิธีเลือกหุ้นmai ชูLIT-BKD-TVD

โพสต์ทูเดย์ - หุ้นเอ็มเอไอช่วยพลิกชีวิตนักลงทุน แนะนำวิธีเลือกลงทุน เอเซียพลัสเชียร์ 3 บริษัทอนาคตไกล

นายโสรัตน์ วณิชวรากิจ นักธุรกิจหุ้นคุณค่า (VI) เปิดเผยในงานสัมมนาเอ็มเอไอ ฟอรั่ม 2016 “หุ้นเด่นเอ็มเอไอและกลยุทธ์กูรู” ว่า หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้รับความน่าสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นตั้งแต่หลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์จนหลายตัวสามารถพลิกชีวิตของนักลงทุนได้ เพราะมีสภาพคล่องน้อยฉะนั้นหากราคาขึ้นก็จะขึ้นมากกว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แต่การที่จะขายออกอาจจะได้รับผลกระทบหรือแรงเหวี่ยงที่มากกว่าเช่นกัน

สำหรับคำแนะนำในการเลือกหุ้น mai มี 3 วิธี คือ 1.ควรเลือกหุ้นที่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและแข็งแกร่ง 2.อยู่ในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ไม่มีคู่แข่งที่สามารถลอกเลียนแบบสินค้าได้ง่ายหรือผลิตสินค้าทดแทนได้ และ 3.ผู้บริหารต้องเก่ง ดี และมีวิสัยทัศน์ เพราะมีความสำคัญดูแลเรื่องบริหาร ไม่ใช่ให้น้ำหนักแต่เรื่องการซื้อขายหุ้นเป็นส่วนใหญ่

“นักลงทุนสามารถเลือกหุ้น mai ไว้ในพอร์ตได้ สำหรับไว้พอเล่นเก็งกำไรได้บ้าง” นายโสรัตน์ กล่าว

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวในงานสัมมนาว่า หุ้น mai ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ผู้ลงทุนไทยซื้อขายกันเองมากกว่าที่จะได้รับเลือกจากกองทุนเพราะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) เฉลี่ย 2,000 ล้านบาท ไม่ผ่านเกณฑ์ของกองทุน และมีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 27 แห่งหาค่าสัดส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ไม่ได้ บจ.ใน mai มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย 5.7% ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกหา บจ.ที่มีอัตรากำไรสุทธิที่มากกว่าอัตราเฉลี่ย

ข้อจำกัดที่จะช่วยให้กองทุนเข้ามาลงทุนได้ โดยการสนับสนุนให้ออกเป็นกองทุนอีทีเอฟที่รวบรวมหุ้นใน mai ก็จะสามารถให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ ถือว่าเป็นมาร์เก็ตเมกเกอร์ให้บจ.ตลาด mai ด้วย

ด้าน นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า หุ้น mai มี 3 ตัวที่บริษัทแนะนำคือ บริษัท ลีซ อิท (LIT) บริษัท บางกอก เดค-คอน (BKD) และบริษัท ทีวี ไดเร็ค (TVD) ทั้งนี้ LIT ทำธุรกิจเช่าซื้อขนาดเล็กที่รับซื้อบัญชีลูกหนี้จากคนที่ประมูลงานภาครัฐ คิดเป็นรายได้ 63% ส่วนที่เหลือเป็นการปล่อยสินเชื่อ แม้ฐานธุรกิจจะมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถขยายการเติบโตสูงและยังจ่ายอัตราผลตอบแทนปันผลประมาณ 2%

บริษัท BKD ทำธุรกิจรับงานผลิตและตกแต่งเฟอร์นิเจอร์มีงานที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) มากกว่ารายได้และอนาคตยังมีงานที่จะขยายต่อเนื่อง และ TVD โดดเด่นเรื่องปันผลสูงถึง 5% และมีการลงทุนสร้างสตูดิโอของตัวเอง