พร้อมเพย์ (PromptPay)
โดย...อิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
โดย...อิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
หนึ่งในภายใต้โครงการ National e-Payment คือการดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงิน หรือโครงการ Any ID ซึ่งได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการและเปลี่ยนชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ โดยภาษาไทยใช้ชื่อว่า “พร้อมเพย์” สำหรับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “PromptPay” ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้จะพลิกโฉมระบบการชำระเงินของประเทศไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ภาคธุรกิจ และรัฐบาล โดยเพิ่มทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือกในระบบการชำระเงินของประเทศไทย
หลายท่านอาจสงสัยว่า “พร้อมเพย์” คืออะไร
บทจำกัดความคร่าวๆ เบื้องต้นที่น่าจะช่วยอธิบายได้ดีที่สุด ณ เวลานี้ คือ บริการโอนเงินและรับเงินแบบใหม่โดยการผูกบัญชีเงินฝากธนาคารของเรากับเลขบัตรประจำตัวประชาชน และ/หรือ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ “ใครๆ ก็โอนเงินมาให้เราได้โดยไม่ต้องถามเลขบัญชีธนาคาร” ซึ่งจะช่วยให้การโอนเงิน รับเงินผ่านระบบ “พร้อมเพย์” นี้
โดยระบบนี้ จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านธนาคารสมาชิกต่างๆ ที่เป็นตัวแทน เริ่มลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ก.ค. 2559 ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ ธนาคารสมาชิกต่างๆ สามารถเปิดลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2559 ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ที่สาขาของธนาคารต่างๆ หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ไม่ว่าจะผ่าน Internet Banking หรือ Mobile Banking บางธนาคารอาจเปิดให้ลงทะเบียนผ่านตู้ ATM เป็นต้น โดยสิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมสำหรับการลงทะเบียนคือ เลขที่บัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเลขที่บัญชีธนาคาร ที่ต้องการจะผูกบัญชีกับเลขที่บัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดย 1 เลขที่บัญชีธนาคาร สามารถลงทะเบียนได้สูงสุด คือ 1 เลขที่บัตรประชาชน และ 3 หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่
ลงทะเบียน “พร้อมเพย์” แล้ว ต่อไปนี้ ท่านสามารถใช้เลขที่บัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการรับเงิน โอนเงิน ระหว่างกันได้ รวมถึงสำหรับประชาชนที่ได้รับสวัสดิการต่างๆ ของภาครัฐ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือ เงินช่วยเหลืออื่นๆ เมื่อลงทะเบียน “พร้อมเพย์” แล้ว ประชาชนก็จะได้รับเงินโอนและสวัสดิการภาครัฐเข้าผ่านบัญชีที่ผูกไว้กับธนาคาร
อีกหนึ่งประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับผ่านระบบ “พร้อมเพย์” คือ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านระบบ จะมีค่าธรรมเนียมการโอนเงินที่ถูกลง โดยเบื้องต้นการโอนเงินที่มีมูลค่าไม่เกิน 5,000 บาท/รายการ จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด เท่ากับเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนเงินที่เดิมมีเรื่องของการโอนเงินข้ามเขต ข้ามธนาคาร ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอยู่นั้น ถ้าดำเนินการโอนเงินผ่านระบบ “พร้อมเพย์” จะฟรีค่าธรรมเนียม ทำให้ค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมของประชาชนหมดไป
อีกทั้งอนาคตระบบ “พร้อมเพย์” จะสามารถชำระเงินค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปโภคบริโภค อื่นๆ หรือการชำระเงินค่าสินค้าต่างๆ รวมทั้งการรับเงินคืนภาษี สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษี เดิมต้องรับผ่านเช็คของกรมสรรพากร แต่สำหรับอนาคต ท่านจะได้รับเงินคืนผ่านระบบ
“พร้อมเพย์”
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ระบบ “พร้อมเพย์” จะช่วยให้ระบบการโอนเงินของประเทศไทย พลิกโฉมเทียบเคียงกับระดับโลก ซึ่งระบบดังกล่าวนี้มีการเริ่มใช้มาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ หรือออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งระบบ “พร้อมเพย์” ทำให้ธุรกรรมการโอนเงินทำได้ สะดวก รวดเร็ว ทันสมัย และปลอดภัย กล่าวคือ สะดวกในการสมัครและทำธุรกรรม รวดเร็ว ในการรับเงินต่างๆ รวมถึงสวัสดิการภาครัฐ ทันสมัย ไปกับธุรกรรม Online ผ่านช่องทาง Electronic ต่างๆ ปลอดภัย ด้วยระบบที่เป็นมาตรฐานสากล
เมื่อท่านทราบรายละเอียดตามนี้แล้ว สิ่งที่ท่านต้องตัดสินใจคือ เลือกบัญชีและธนาคารที่ท่านมีความประสงค์ที่จะผูกบัญชีดังกล่าวเข้ากับเลขที่บัตรประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่าน แล้วไปลงทะเบียนกับธนาคารที่ท่านเลือกในวันที่ 15 ก.ค. 2559 ที่จะถึงนี้ต่อไป


