เชิดชาย ปิติวัชรากุล ว่าที่เอ็มดียูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์

โดย...เจียรนัย อุตะมะ

เชิดชาย ปิติวัชรากุล วัย 52 ปี รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ (UU) บริษัทลูกของบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือน ส.ค.นี้

เขาเพิ่งเข้ามารักษาการในตำแหน่งผู้นำ UU เมื่อเดือน ส.ค. 2558 ภายหลังกรรมการผู้จัดการคนเดิมลาออกไป ชายคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เริ่มงานและเติบโตมาใต้ร่มเงาของ EASTW นั่นเอง

เชิดชาย จบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปริญญาโทคณะวิทยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ช่วงจบปริญญาตรีเริ่มงานแรกเป็นวิศวกรที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จากนั้นย้ายไปเป็นวิศวกรที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และย้ายงานไปเป็นวิศวกรขายระบบน้ำเสียและอุปกรณ์ในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนที่จะมาเป็นวิศวกรอาวุโสที่ EASTW ในปี 2537 อยู่ในสายปฏิบัติการระบบออโตเมติกที่มีหน้าที่ควบคุมและบริการลูกค้า  โดยเติบโตในสายงานเรื่อยมาจนเป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ

ปี 2552-2553 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจปี 2553-2556 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริการลูกค้า และปี 2556-2558 เป็นผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการและบริการลูกค้า ปัจจุบันนอกจากรักษาการกรรมการผู้จัดการ UU แล้ว ยังเป็นผู้อำนวยการอาวุโส ประจำสำนักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ EASTW ด้วย

เขาเล่าว่า EASTW เติบโตเรื่อยมาอย่างสม่ำเสมอมีการจ่ายปันผลที่น่าสนใจ เพราะเป็นบริษัทที่ให้บริการสาธารณูปโภคให้บริการน้ำดิบแก่เอกชนในนิคมอุตสาหกรรม การเติบโตของผลการดำเนินงานจึงไม่หวือหวามากปีละ 3-4%

ในขณะที่ UU นั้นให้บริการน้ำประปา การแยกตัวออกมาจากบริษัทแม่ เพื่อให้ธุรกิจมีความชัดเจน และให้มีการระดมทุนได้คล่องตัวขึ้น

n ตั้งขึ้นเมื่อปี 2541 ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อดำเนินกิจการน้ำประปาอย่างครบวงจรแต่กิจการเติบโตมาตลอดจนกระทั่งปัจจุบันมีกำลังผลิตน้ำประปามากกว่า 3.5 แสนล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ดูแลระบบประปาให้ประชาชน 1.64 แสนครัวเรือน และดูแลรักษาท่อประปาความยาวมากกว่า 2,400 กิโลเมตร

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้คาดว่ายังเติบโตคล้ายปี 2557-2558 โดยปี 2558 บริษัทได้ซื้อกิจการบริษัท เอ็กคอมธารา และประปาราชบุรีมาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และบันทึกกำไรเข้ามาในบริษัทเมื่อเดือน ส.ค. 2558 เป็นระยะเวลา 4 เดือน 60 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะบันทึกกำไรเต็มปีเฉพาะประปาราชบุรี 180 ล้านบาท

บริษัทจะเพิ่มทุนจาก 420 ล้านหุ้น เป็น 930 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปคืนเงินกู้ระยะสั้น 1,600 ล้านบาท จากการลงทุนซื้อเอ็กคอมธารา ส่วนที่เหลือจะนำไปเป็นทุนหมุนเวียนโดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 1-1.2 เท่า

บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวินอีก 1.2 หมื่นลูกบาศก์เมตร เป็น 2.88 หมื่นลูกบาศก์เมตร/วัน และนิคมหลักไชยเมืองใหม่ระยอง 1.9 หมื่นลูกบาศก์เมตร นอกจากนั้นยังจะขยายระบบน้ำประปาไปยังจังหวัดอื่น โดยตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนต่อโครงการเฉลี่ย 15%

เชิดชาย เชื่อว่าบริษัทมีแหล่งน้ำเพียงพอผลิตน้ำประปา เพราะโชคดีที่มีแหล่งน้ำดิบจากภาคตะวันออกเข้ามาป้อน แล้งแค่เพียงลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่างจากปี 2548 ที่แล้งทั่วประเทศ

“ผมเชื่อว่ากลางปีนี้ฝนจะมีมาก จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดก่อนหน้านี้”

n ภายใต้การนำของเขา ความเป็นหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คงไม่ต่างจาก EASTW คือเป็นหุ้นสาธารณูปโภคที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอและมีการจ่ายเงินปันผลน่าสนใจไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ