'ปัญจพล'แตกไลน์ลุยอสังหาฯ
กลุ่มปัญจพลแตกไลน์ลุยอสังหาฯ ซุ่มซื้อที่ดินกลางย่านเพลินจิตผุดคอนโดไฮเอนด์
กลุ่มปัญจพลแตกไลน์ลุยอสังหาฯ ซุ่มซื้อที่ดินกลางย่านเพลินจิตผุดคอนโดไฮเอนด์
นายโชติวิทย์ เตชะวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปัญจพล พร็อพเพอร์ตี้ ทายาทรุ่นที่ 3 ของกลุ่มปัญจพล ไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตกระดาษ เยื่อกระดาษ และบรรจุภัณฑ์ครบวงจรมากว่า 70 ปี เปิดเผยว่า กลุ่มปัญจพลได้แตกบริษัทลูก ปัญจพล พร็อพเพอร์ตี้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ บริษัทได้ประเดิมซื้อที่ดินเนื้อที่ 387 ตารางวา (ตร.ว.) ย่านเพลินจิต (ฝั่งซอยนายเลิศ) นำมาพัฒนาเป็นโครงการคราฟต์ เพลินจิต ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 90 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ราคาขายประมาณ 1.8-2 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) หรือราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากลุ่มปัญจพลได้ลงทุนพัฒนาอาคารสำนักงาน 2 แห่ง คือ ตึกยูไนเต็ด สีลม และตึกเอสโซ่ พระราม 4 มีรายได้จากค่าเช่าคิดเป็นสัดส่วน 10-20% ของรายได้ทั้งกลุ่ม นอกจากนี้ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ยังได้เข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงและสิงคโปร์ ปัจจุบันมีทรัพย์สินที่อยู่อาศัยระหว่างลงทุนในต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ยังไม่เคยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองไทย โครงการคราฟต์ เพลินจิต จึงเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายแห่งแรก
สำหรับแผนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นับจากนี้จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น อาจจะมีการพัฒนาโครงการปีละ 1-2 โครงการ เปิดกว้างทั้งการซื้อที่ดินใหม่ และการนำที่ดินของครอบครัวมาพัฒนา โดยปัจจุบันกลุ่มปัญจพลยังมีที่ดินย่านใจกลางเมืองที่พร้อมพัฒนาอีกหลายแปลง แต่ต้องอาศัยจังหวะและโอกาสของตลาด
ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีซัพพลายไม่มาก เช่น ย่านเพลินจิต ซึ่งกลุ่มปัญจพลจะเน้นพัฒนาโครงการบนทำเลกลางเมืองและระดับไฮเอนด์เป็นหลัก โดยคาดว่าโครงการคราฟต์ เพลินจิต จะได้รับการตอบรับที่ดี ตั้งเป้ามียอดขาย 60% ภายใน 3 เดือนแรกที่เปิดตัว และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายใน 1 ปี
น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) หรือซีบีอาร์อี กล่าวถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนในปี 2559 ว่า คอนโดมิเนียมระดับบนยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เนื่องจากที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการในระดับลักซ์ชัวรี่มีน้อยลง จึงทำให้โครงการใหม่ที่เปิดตัวบนที่ดินหายากเหล่านี้จะได้รับการตอบรับที่ดี
ด้านราคาที่ดินใจกลางเมืองปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะมีที่ดินพร้อมนำมาพัฒนาน้อยลง เช่น ย่านเพลินจิต-ชิดลม ราคาที่ดินติดริมถนนที่มีการขอเสนอซื้อสูงถึง 2 ล้านบาท/ตร.ว. ส่วนที่ดินเข้าซอยจะอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนบาท/ตร.ว. ในส่วนของราคาคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ย่านเพลินจิต มีราคาเฉลี่ย 2.5 แสนบาท/ตร.ม. หรือ 10-60 ล้านบาท สำหรับ 1-3 ห้องนอน ซึ่งคาดว่าคอนโดมิเนียมคราฟต์ เพลินจิต ที่เปิดตัวในราคา 7-20 ล้านบาท จะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้ออยู่จริง 60% และซื้อเพื่อลงทุน 40%
“ตลาดคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ย่านใจกลางเมืองในปีนี้คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ออกมาไม่เกิน 1 หมื่นยูนิต โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 7 โครงการ รวม 2,000 ยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากในช่วง 4 เดือนแรกผู้ประกอบการหันไปเน้นการขายโครงการพร้อมโอนมากกว่าเปิดตัวใหม่ ซึ่งประเมินว่าผู้ประกอบการจะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านใจกลางเมืองอีกราว 8,000 ยูนิตในช่วงครึ่งปีหลัง” น.ส.อลิวัสสา กล่าว


