5ปีตอกเข็มสะพาน2สมุทร
ทช.เดินหน้าสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา “สมุทรปราการ-สมุทรสาคร” คาด 5 ปีเห็นเป็นรูปเป็นร่าง
ทช.เดินหน้าสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา “สมุทรปราการ-สมุทรสาคร” คาด 5 ปีเห็นเป็นรูปเป็นร่าง
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพระสมุทรเจดีย์เชื่อม จ.สมุทรปราการ และสมุทรสาคร วงเงินลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ว่า คาดว่ากว่าโครงการนี้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างก็ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 5 ปี โดยขณะนี้กรมได้จัดสรรงบ 250 ล้านบาท สำหรับว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาออกแบบและจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยคาดว่าการออกแบบและผลการศึกษาต่างๆ จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค.ปีนี้
“เมื่อออกแบบและทำรายงานอีไอเอแล้วเสร็จ กรมจะส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการผู้ชํานาญการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาพิจารณา 1-2 ปี หากอีไอเอผ่าน กรมจะต้องสำรวจพื้นที่ก่อสร้างเพื่อกำหนดเขตเวนคืนที่ดิน จึงคาดว่ากว่าโครงการนี้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างน่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี” นายพิศักดิ์ กล่าว
นายพิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับรูปแบบสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการออกแบบนั้นจะมี 2 ทางเลือก คือ 1.สร้างเป็นสะพานแขวน หรือเป็นสะพานที่มีลักษณะพื้นสะพานถูกแขวนด้วยสายเคเบิลในแนวตั้ง และ 2.สร้างเป็นสะพานขึง หรือเป็นสะพานที่มีลักษณะมีหนึ่งหอคอยหรือมากกว่า และมีสายเคเบิลทำหน้าที่พยุงพื้นสะพาน ส่วนเงินลงทุนน่าจะมาจากเงินกู้ เพราะเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าโครงการสูงกว่า 5 หมื่นล้านบาท
นายพิศักดิ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2559 กรมได้เตรียมงบไว้ประมาณ 9,000 ล้านบาท จากงบก่อสร้างและซ่อมแซมถนนทั้งหมดที่รับจัดสรร 2 หมื่นล้านบาท สำหรับการเข้ารับซื้อน้ำยางพารามา
ผสมกับยางมะตอยดิบของผู้ผลิตเพื่อทำถนนพาราแอสฟัลต์ โดยในปีงบประมาณนี้ กรมตั้งเป้าจะรับซื้อน้ำยางเพิ่มเป็น1.5 หมื่นตัน จากปีงบ 2558 ที่รับซื้อน้ำยางกว่า 1 หมื่นตัน ภายใต้งบประมาณ ที่ได้รับจัดสรร 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการรับซื้อน้ำยางมาผสมกับยางมะตอยเป็นพาราแอสฟัลต์ เพื่อนำไปซ่อมแซมหรือลาดปูพื้นผิวถนนเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ และช่วยพยุงราคายางของเกษตรกร


