posttoday

การตรวจค้นบุคคลในที่สาธารณะ ต้องมีเหตุอันสมควรเท่านั้น

31 มีนาคม 2559

โดย...เดชา กิตติวิทยานันท์

โดย...เดชา กิตติวิทยานันท์

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีคดีสำคัญ 3 ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงรถนักศึกษาและมีการทำร้ายร่างกาย 5 นักศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่งในเขตความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พิษณุโลก ทำให้ประชาชนสอบถามมาเกี่ยวกับการค้นในที่สาธารณะว่าทำได้เพียงไร มีการคุ้มครองสิทธิของประชาชนบ้างหรือไม่ รัฐธรรมนูญและประมวลกฎหมายอาญาเป็นหลักประกันคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนตามหลักกฎหมายถือว่าเสมอภาคกัน ไม่อาจทำการค้นหรือจับกุมกันเองได้ ยกเว้นเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ หากตำรวจจะค้นตัวประชาชนหลักกฎหมายห้ามค้นอยู่แล้ว ยกเว้นเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น มีเหตุอันสมควรสงสัยว่ามีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิด หรือมีไว้เป็นความผิดเท่านั้น นอกจากนั้นไม่สามารถค้นได้ หากมีเหตุอันควรสงสัยเมื่อค้นตัวประชาชนในที่สาธารณะแล้ว ไม่พบของผิดกฎหมายก็ต้องปล่อยตัวทันที จะควบคุมตัวไปสถานีตำรวจหรือจับกุมไม่ได้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทนายคลายทุกข์จึงขอนำตัวอย่างคดีความที่ศาลเคยวินิจฉัยเกี่ยวกับการค้นในที่สาธารณะ ว่ากรณีใดทำได้ กรณีใดทำไม่ได้ ดังนี้

1.ห้างสรรพสินค้า ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเล่นเกม

หนังสือร้องทุกข์ของโจทก์ร่วมซึ่งมีข้อความว่า มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วมที่บริเวณศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ขอแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (7) แล้วไม่จำเป็นต้องระบุชื่อหรือรูปพรรณของผู้กระทำความผิด

ร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเล่นเกมต่างๆ และแผ่นเกม ย่อมเป็นสถานที่ที่เชื้อเชิญให้ประชาชนทั่วไปสามารถเดินเข้าไปดูและเลือกซื้อสินค้าได้ นับเป็นที่สาธารณสถานซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ เมื่อสิบตำรวจ ส.เป็นผู้ทำการตรวจค้น แผ่นซีดีเกมอยู่ในตะกร้าซึ่งอยู่ในตู้สามารถมองเห็นได้ โดยแผ่นซีดีเกมของกลางดังกล่าวละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วม มีลักษณะภายนอกของแผ่นซีดีของกลางต่างจากของโจทก์ร่วมอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นกรณีของการค้นในที่สาธารณสถานโดยเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งมีเหตุอันควรสงสัยว่าร้านที่เกิดเหตุมีสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิด ไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 93 ทั้งเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับจำเลยได้ตามมาตรา 78 (1) ประกอบมาตรา 80 วรรคหนึ่ง การค้นและจับจึงชอบด้วยกฎหมาย อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6894/2549

2.มีผู้แจ้งความว่าวัยรุ่นน่าจะกระทำผิดกฎหมายและมีอาวุธปืน

วัยรุ่นกำลังเดินอยู่ในทางสาธารณะ คนหนึ่งเป็นผู้ต้องหาของตำรวจ มีผู้แจ้งว่าบุคคลเหล่านั้นจะไปทำผิดเป็นเหตุอันควรสงสัยว่าจะทำความผิดและมีอาวุธที่จะนำไปใช้ทำผิด นายตำรวจค้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 93 จำเลยขัดขวางโดยยิงตำรวจ เป็นความผิดตามมาตรา 140, 289, 80 ลงโทษตามมาตรา 289, 80 ซึ่งเป็นบทหนัก อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2521

3.ค้นแล้วไม่พบของผิดกฎหมายต้องปล่อยตัว

เมื่อผลการตรวจค้นตัว ว.ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่า ว.ได้กระทำความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองต่อไปอีก จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไม่มีอำนาจจับกุม ว. สมควรที่จำเลยที่ 1 จะต้องปล่อยตัว ว.ไป การที่จำเลยที่ 1 ยังจับกุม ว.จากศาลาท่าน้ำนำตัวไปไว้ที่สะพานข้ามคลองแสนแสบจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2547

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา