การตลาดคู่สินค้า “ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง”
จากอดีตมือปืนรับจ้าง ผู้บริหารด้านการตลาดในองค์กรใหญ่ ทั้งธุรกิจน้ำดำ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามานานกว่า 20 ปี กระทั่งถึงจุดอิ่มตัว
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
จากอดีตมือปืนรับจ้าง ผู้บริหารด้านการตลาดในองค์กรใหญ่ ทั้งธุรกิจน้ำดำ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามานานกว่า 20 ปี กระทั่งถึงจุดอิ่มตัว จึงตัดสินใจผันชีวิตมาจับธุรกิจส่วนตัว ด้วยเห็นช่องว่างในตลาดรถเข็นลูกชิ้นทอดทั่วไป ที่มองว่ามีรายละเอียดในการทำธุรกิจที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ทำให้ อนพ วัฒนกูล เกิดไอเดียสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาทอดของตัวเองขึ้น ภายใต้ชื่อ “ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง”
อนพ เล่าว่า ได้เริ่มพัฒนารูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาฯ เมื่อราวปี 2552 ถึงปัจจุบันดำเนินกิจการมาร่วม 9 ปีแล้ว โดยในปี 2559 นี้คาดจะสามารถขยายสาขาแฟรนไชส์ได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 จุดขายทั่วประเทศ จากปัจจุบันสาขาแฟรนไชส์แบรนด์ดังกล่าวมีมากกว่า 1,000 แห่ง แบ่งเป็นการลงทุนเองในห้างค้าปลีกทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดกว่า 100 สาขา และที่เหลือกว่า 900 สาขา เป็นของแฟรนไชส์ในต่างจังหวัด
จากประสบการณ์ที่คลุกคลีในวงการธุรกิจอาหารประเภทนี้ ทำให้รู้ว่า การขยายไลน์หรือเมนูสินค้าอาหารใหม่เพิ่มเข้ามา จะยังเข้ามาช่วยกระตุ้นการบริโภคในกลุ่มลูกค้าให้มีทางเลือกในการรับประทานได้มากขึ้นด้วย ล่าสุดจึงได้แตกเมนูใหม่ คือ ลูกชิ้นกุ้งระเบิดออกมาทำตลาดควบคู่กันกับลูกชิ้นปลาระเบิด และสินค้าปลาเส้น 3 รส ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้า
นอกจากนี้ ยังมองไปถึงการใช้กลยุทธ์ราคาที่มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ (แพ็กเกจจิ้ง) ใหม่สินค้า โดยใช้ถ้วยบรรจุตามขนาด (ไซส์) ต่างๆ คือ ไซส์เอส ราคา 25 บาท ไซส์เอ็ม 45 บาท และไซส์แอล 50 บาท จากเดิมมีราคาเดียว 20 บาท บรรจุถุงพลาสติกในช่องทางสาขาในห้างค้าปลีก ส่วนร้านรถเข็นแฟรนไชส์ต่างๆ จะยังคงราคาเดิมอยู่ที่ 20 บาท
อนพ กล่าวว่า การทำธุรกิจในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ ที่เผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจหลายด้าน แต่จากการที่มีประสบการณ์ด้านนักการตลาดมาก่อน ที่เห็นว่าการให้ความสำคัญหรือตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหลักได้จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้สินค้าสามารถอยู่ในใจผู้บริโภค และอยู่ในตลาดได้นาน ด้วยการใช้กลยุทธ์ด้านราคาสินค้าที่ไม่แพงมากนัก แต่เข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากคุณภาพสินค้าลูกชิ้นปลา ที่ไม่เหนียว ไม่เหี่ยว และไม่คาว รวมถึงน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานสูตรเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไจแอ้นฯ ด้วย
จากกลยุทธ์ดังกล่าว เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไจแอ้นฯ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ด้วยลูกค้าทั่วไปยังสามารถหาซื้อสินค้าเพื่อรับประทานทั้งเพื่อเป็นของว่าง หรือเป็นอาหารระหว่างมื้อได้เช่นกัน โดยในปีที่ผ่านมาธุรกิจมีอัตราการเติบโตรายได้สูงกว่า 100% ส่วนหนึ่งยังมาจากปัจจัยสำคัญ คือ เป็นธุรกิจสินค้าแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐานต่างๆ รองรับทั้งคุณภาพสินค้าไปจนถึงตราสัญลักษณ์ฮาลาล ที่ทำให้ผู้ลงทุนธุรกิจรายยย่อยแฟรนไชส์มีความเชื่อมั่น และเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคชื่นชอบรับประทาน
พร้อมกันนี้ แฟรนไชส์ไจแอ้นฯ ยังเตรียมแผนขยายการทำตลาดในอาเซียนหลายประเทศ อาทิ เมียนมา กัมพูชา และ ลาว เป็นต้น คาดชัดเจนใน 1-2 เดือนข้างหน้า ในกัมพูชาประเทศแรกผ่านตัวแทนธุรกิจหลัก


