พลังงานเอาจริงเลิกโซฮอล์91 ภายใน 2 ปี

พลังงานกางแผนบริหารจัดการชนิดน้ำมัน เลิกใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แน่นอนไม่เกิน 2 ปี

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงระยะ 20 ปี (2558-2579) ว่า ได้กำหนดเป้าหมายระยะยาวในการลดชนิดน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ให้เหลือเพียง 2 ชนิดหลัก คือ แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 ภายในปี 2579 โดยในระยะแรกจะทยอยลดในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 ให้หายไปจากตลาดภายในปี 2561 ซึ่งจะทำให้เหลือชนิดน้ำมันเพียง 4 ชนิด คือ เบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี 85

“นโยบายยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ได้กำหนดไว้ในแผนบริหารน้ำมันระยะ 20 ปี ซึ่งในปี 2561 น่าจะได้เห็น มีเวลา 2 ปีที่จะให้ผู้ประกอบการปรับตัว โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นที่จะต้องรับนโยบายนี้ไปปรับปรุงศักยภาพ เพราะบางแห่งยังผลิตเบนซินพื้นฐาน 91 เป็นส่วนใหญ่เท่านั้น ไม่ได้รองรับน้ำมันพื้นฐานเบนซิน 95 แต่เมื่อประกาศเป็นแผนปฏิบัติการระยะยาวก็ต้องมีการเตรียมพร้อม เชื่อว่าท้ายสุดจะสามารถปรับตัวกันได้” นายวิฑูรย์ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ทยอยปรับโครงสร้างราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์โดยใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นเครื่องมือ เพื่อทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 กับแก๊สโซฮอล์ 95 มีส่วนต่างราคาที่แคบลง จูงใจให้ลดการเติมแก๊สโซฮอล์ 91 เนื่องจากมีราคาถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เพียง 42 สตางค์/ลิตรเท่านั้น

ขณะเดียวกันก็พยายามถ่างส่วนต่างราคาระหว่างแก๊สโซฮอล์ อี20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 เพื่อจูงใจให้เกิดการใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ที่ขณะนี้มีราคาที่ถูกกว่า 2.19-2.56 บาท/ลิตร

นอกจากนี้ ในระยะยาวจะส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 และ อี85 มากขึ้น เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่จะมีเครื่องยนต์ที่รองรับกับน้ำมันทั้งสองชนิดนี้ โดยปัจจุบันมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ได้รวม 15.2 ล้านลิตร/วัน แต่ในทางปฏิบัติมีการใช้จริงแค่ 4 ล้านลิตร/วันเท่านั้น สะท้อนว่ามีการใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถึง 74%

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ในปี 2579 จะเหลือน้ำมันชนิดหลักเพียง 2 ประเภท คือ แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 ในขณะที่เบนซิน 95 และแก๊สโซฮอล์ 95 จะเป็นน้ำมันประเภทเฉพาะกลุ่ม ให้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ หากยังมีรถยนต์ที่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ยังสามารถจำหน่ายได้ โดยแผนการลดน้ำมันชนิดหลักจะใช้กลไกของราคามาเป็นเครื่องมือมากกว่าการใช้นโยบายบังคับ