นกแอร์ปรับตารางบิน เผยหลัง10มี.ค.ไม่ต้องเช่าเครื่องพันธมิตรแล้ว

นกแอร์ปรับตารางบินฤดูร้อน หลัง 10 มี.ค. ไม่ต้องเช่าเครื่องพันธมิตรแล้วและจะทยอยเพิ่มเที่ยวบินหลังนักบินที่รับมาพร้อม

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า นกแอร์อยู่ระหว่างการปรับแผนการบิน จากแผนการบินช่วงฤดูหนาว (วินเทอร์) เข้าสู่แผนการบินช่วงฤดูร้อน (ซัมเมอร์) ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือน มี.ค. นี้ ซึ่งจากเหตุการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ทำให้นกแอร์ใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อให้สอดคล้องกับนักบินที่มีอยู่ โดยบางเส้นทางที่มีหลายเที่ยวบิน ก็อาจจะยกเลิกบางเที่ยวบินไป แต่บางเส้นทางก็อาจจะมีเที่ยวบินเพิ่ม ให้เหมาะกับความต้องการของผู้โดยสารในเส้นทางนั้น และการปรับครั้งนี้จะทำให้หลังวันที่ 10 มี.ค. นกแอร์ไม่ต้องรบกวนความช่วยเหลือจากสายการบินพันธมิตรในการทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาเตอร์ไฟลต์) อีก

ทั้งนี้นกแอร์กำลังทยอยรับนักบินใหม่เข้ามาเพิ่ม อย่างไรก็ตามนักบินที่รับเข้ามา ไม่ได้หมายความว่าจะเริ่มต้นบินได้ทันที เพราะต้องผ่านขั้นตอนการเข้าไปฝึกอบรม ทดสอบบินกับเครื่องฝึกบินจำลอง ที่ศูนย์ฝึกการบินนานาชาติแพนแอม ประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์ที่นกแอร์ได้ร่วมลงทุนกับสายการบินออลนิปปอน แอร์เวย์ ของญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญดำเนินการมาตั้งแต่ ก.ย. 2557 เพื่อให้เป็นศูนย์ฝึกการบินที่ได้มาตราฐานสากล และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อนักบินผ่านขั้นตอนการฝึกอบรมต่างๆ แล้ว จึงจะเริ่มบินได้ ซึ่งถึงเวลานั้นก็จะทำให้นกแอร์ เพิ่มเติมเที่ยวบินบางเที่ยวบินในบางเส้นทางได้

"ในตารางบินฤดูร้อนนี้เรามีเวลาปรับเปลี่ยนแผนต่างๆ ก็มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา ซึ่งตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ไม่ได้หยุดเรื่องการวางแผนแก้ปัญหาต่างๆ มีการทำโดยตลอด อาจจะมีบางคนเห็นว่าในอินสตาแกรมของผมทำไมไม่เห็นมีรูปการทำงานบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วเราทำอยู่ตลอดทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้ลงภาพให้คนอื่นเห็น เพราะอยากลงภาพอื่นๆ ที่คนเห็นแล้วมีความสุขมากกว่ามาลงภาพเรื่องงาน โดยในช่วงนี้ก็ทำงานอย่างหนักเน้นเรื่องทีมเวิร์ค เพื่อให้พนักงานทุกคนมีกำลังใจกลับคืนมาเหมือนเดิม"นายพาทีกล่าว

อนึ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา นายพาที ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค Patee Sarasin ว่า "ขอบคุณผู้โดยสารท่านหนึ่งที่เขียนข้อความนี้ถึงสายการบินนกแอร์...อ่านไปขนลุกไปพร้อมน้ำตาซึมเลยทีเดียว"

สำหรับข้อความที่ผู้โดยสารโพสต์ระบุหัวเรื่องว่า ช่วยนกแอร์ฝ่าวิกฤต "คนไทยต้องให้โอกาส" โดยมีเนื้อหาดังนี้

ผมอยู่มานานพอที่จะได้สัมผัสความประทับใจของการให้กำลังใจในหลายๆเหตุการณ์ มีเพลงๆหนึ่ง Tie A Yellow Ribbon Round The Ole Oak Tree.เป็นเพลงที่เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เพิ่งพ้นคุก กำลังเดินทางโดยรถโดยสารกลับมาหาคนรัก แต่เขาไม่แน่ใจว่าเธอยังจะยอมรับหรือไม่ จึงจดหมายไปให้เธอล่วงหน้า ใจความว่าถ้ายังรักฉันอยู่ ก็จงผูกริบบิ้นไว้ที่ต้นโอ๊ค ถ้าฉันเห็น ฉันก็จะลงรถไปหาเธอ แต่ถ้าต้นไม้ว่างเปล่า ฉันก็จะนั่งรถเลยไปปรากฏว่า เมื่อรถใกล้ถึงสถานี เขาเห็นริบบิ้นป็นพันเป็นหมื่นพันรอบต้นโอ๊ค นอกจากเธอแล้ว คนทั้งหมู่บ้านที่ทราบข่าว ยังส่งมาผูกเพื่อให้กำลังใจด้วย

สำหรับนกแอร์แล้ว นกแอร์เป็นสายการบินของคนไทยแท้ๆ เกิดจากการรวมตัวของคนไทยไม่กี่คนก่อตั้งขึ้น

มีความองอาจที่นำชื่อ 'นก' มาใช้กับพนักงานทุกคน โดยเรียกคำนำหน้าชื่อตนเองว่า 'นก' สายการบินของไทยแท้ๆทะยานสู่การแข่งขันสากล เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ที่คนไทยทุกระดับสามารถเข้าถึงได้ นับได้ว่า เป็นอีกหนึ่งตัวแทนผู้ประกอบการไทย ที่พวกเราควรร่วมภาคภูมิใจ

บัดนี้ สายการบินของลูกหลานไทยแท้ๆ กำลังมีปัญหา อันเกิดจากพนักงานเพียงไม่กี่คน แต่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความน่าเชื่อถือ พลอยทำให้พนักงานคนไทยอีกหลายพันคนได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ในช่วงวิกฤตนี้เอง สิ่งที่นกแอร์ต้องการมากที่สุดคือผู้ที่จะมายืนเคียงข้าง ให้กำลังใจและให้การสนับสนุน พวกเราจึงได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมสนับสนุนและให้กำลังใจสายการบินนกแอร์ โดยกำหนดโปรแกรมการท่องเที่ยวในกลุ่มของเรา โดยจะใช้บริการของนกแอร์ เร็วๆนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า พวกเราพร้อมให้กำลังใจ และเดินเคียงข้างไปกับนกแอร์ เราไม่ทิ้งกัน

นี่คือสิ่งที่กลุ่มเล็กๆอย่างพวกเราจะทำได้ เราอยากจะเป็นหนึ่งคนในกลุ่มคนที่นำริบบิ้นไปผูกที่ปีกของนกแอร์ เราอยากจะเป็นผู้หนึ่งที่ไปเข้าคิวเพื่อรอขึ้นเครื่องนกแอร์และอยากจะบอกกับลูกๆหลานๆที่เป็นพนักงานว่า

"ขอให้ตั้งใจทำงานให้ดี เรายังมีความ ศรัทธา เชื่อมั่น และพร้อมจะสนับสนุนพวกคุณ"

เราภาคภูมิใจที่มีส่วนทำให้นกแอร์ของเราได้เดินก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

คุณเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ไหมครับ ถ้าเห็นด้วย กรุณาช่วยกันส่งต่อให้เพื่อนๆ และจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนนกแอร์ สายการบินที่เป็นของลูกหลานคนไทยแท้ๆ ให้ลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคงต่อไปด้วยเถิดครับ..!