ปตท.หมุนเงินสู้วิกฤต
ปตท.เน้นลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย ยันหุ้นร่วงยังไม่ถึงจุดต้องซื้อคืน ลั่นกำไรปี 2559 ดีขึ้น
ปตท.เน้นลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย ยันหุ้นร่วงยังไม่ถึงจุดต้องซื้อคืน ลั่นกำไรปี 2559 ดีขึ้น
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่า บริษัทจะให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารกระแสเงินสดเพื่อให้ธุรกิจและโครงการลงทุนสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่กระทบ และไม่จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่ม ปัจจุบัน บริษัทมีเงินสดภายในประมาณ 1 แสนล้านบาท รวมถึงเน้นการให้ความสำคัญในการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย
สำหรับราคาน้ำมันที่ลดลงมาถึงระดับปัจจุบัน ส่งผลให้ซัพพลายใหม่เริ่มทยอยหยุดการผลิตลงต่อเนื่อง ถึงแม้กลุ่มประเทศตะวันออกกลางซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่มีต้นทุนต่ำและยังดำเนินการผลิตได้ แต่ส่งผลกระทบให้ไม่มีรายได้ส่งกลับมายังรัฐบาลของประเทศ ดังนั้นเชื่อว่าจะเห็นราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่ต่ำอีกไม่นาน จึงมีโอกาสที่จะเห็นรัฐบาลกดดันให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวกลับขึ้นมาซึ่งเป็นวัฏจักรที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แต่คงไม่เกิดขึ้นแบบรวดเร็วเพราะยังมีซัพพลายจำนวนมากกว่าในอดีต
ทั้งนี้ ยอมรับว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะมีผลกระทบกับกำไรของบริษัท แม้ราคาน้ำมันจะลงมาที่ระดับ 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ธุรกิจต้นน้ำยังสามารถผลิตต่อได้ เพราะมีต้นทุนเงินสดที่ใช้สำหรับการผลิตอยู่ประมาณ 18 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ
“บริษัทมีการทำแบบการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ภายในพบว่าฐานะเงินทางการเงินของบริษัทมีความเข้มแข็งพอสมควร สามารถรองรับราคาน้ำมันลดลงถึงระดับประมาณ 20-30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ทำให้มั่นใจว่าบริษัทอยู่รอดได้แน่นอน ส่วนราคาเฉลี่ยปีนี้เรามองที่ 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล” นายเทวินทร์ กล่าว
ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่ลดลงจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ผ่านมา PTT ยังไม่ได้มีการสรุปในการซื้อหุ้นคืนเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีเพียงบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ทำโครงการซื้อหุ้นคืนแล้ว
ด้าน ราคาหุ้น ปตท. วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างวันร่วงลงไปลึกถึง 206 บาท ก่อนจะดีดขึ้นมาปิดที่จุดสูงสุดที่ 214 บาท บวก 3 บาท หรือ 1.42% ส่วน ราคาหุ้น PTTGC ปิดที่ 45.75 บาท บวก 0.50 บาท หลังจากลงไปต่ำสุดที่ 44.25 บาท ส่วนการซื้อหุ้นคืน บริษัทได้ดำเนินการต่อเนื่อง วันที่ 11 ม.ค. ซื้ออีก 430,600 หุ้น ในราคาหุ้นละ 45-45.25 บาท ใช้เงินลงทุน 19.40 ล้านบาท ถึงปัจจุบันซื้อหุ้นแล้ว 41,861,600 หุ้นคิดเป็น 0.93% มูลค่ารวม 2,123.93 ล้านบาท
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน PTT กล่าวว่า บริษัทมีสภาพคล่องจำนวนมากเพียงพอสามารถรองรับการลงทุนและการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2558 ทำให้ในปีนี้บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องจัดหาเงินเพื่อการลงทุน และไม่มีแผนออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อเป็นแหล่งเงินลงทุนด้วย พร้อมทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อชำระคืนหนี้ธนาคารพาณิชย์ และซื้อคืนหุ้นกู้ที่ออกเสนอขายในต่างประเทศก่อนครบอายุ เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน จากปัจจุบันต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-6% แต่บริษัทมีแผนออกหุ้นในประเทศเพื่อทดแทนให้กับผู้ถือหุ้นกู้เดิมที่จะครบอายุในปีนี้วงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการรอยัลตี โปรแกรม ที่ทำต่อเนื่อง ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน (ดีอี) ปัจจุบันยังต่ำเพียง 0.3-0.4 เท่า
นอกจากนี้ คาดว่ากำไรของ ปตท.ในปี 2559 จะดีขึ้นจากปี 2558 ที่ผ่านมา เพราะในปีนี้บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จะไม่มีรายการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์เกิดขึ้นอีก หลังจากทำครบหมดในปี 2558
ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2558 PTTEP ตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทซึ่ง PTT ต้องรับรู้ตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจปลายน้ำในส่วนของโรงกลั่นและปิโตรเคมียังมีแนวโน้มกำไรที่ดีเพราะส่วนหนึ่งได้ประโยชน์จากราคาต้นทุนน้ำมันที่ลดลงด้วย
“ราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นโอกาสของการเข้าซื้อกิจการของกลุ่ม ปตท. โดยเฉพาะในธุรกิจต้นน้ำผ่านการเข้าซื้อกิจการของ PTTEP ที่จะเห็นความชัดเจนได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2559 ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลงมาต่ำในปัจจุบันเป็นราคาที่ไม่ปกติ จึงเป็นโอกาสที่จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นได้ในอนาคต” นายวิรัตน์ กล่าว


