แท็กซี่เมล บริการถึงมือยุคดิจิทัล
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
การทำตลาดแบบตัวต่อตัวที่มีต้นทุนไม่มากนักโดยผ่านจดหมายข่าว (ไดเรกต์เมล มาร์เก็ตติ้ง) เพื่อส่งถึงมือลูกค้าโดยตรง ที่ปัจจุบันกำลังปรับเปลี่ยนไปจากเทคโนโลยีได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ทำให้เจ้าของสินค้าเริ่มหันไปใช้เครื่องมือออนไลน์ในการทำตลาดกันมากขึ้น
จากกระแสดังกล่าวที่ทำให้ ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอริสมา เทคโนโลยี ผู้ให้บริการตัวแทนสื่อออนไลน์ (ดิจิทัล เอเยนซี) มองเห็นโอกาสทางธุรกิจโดยเปิดให้บริการแท็กซี่เมล (TaxiMail) ขึ้น โดยนำร่องบริการขึ้นเมื่อราว 2 ปีก่อน จากการพัฒนาบริการด้วยฝีมือคนไทย ที่ต่อยอดมาจากธุรกิจหลักเอเยนซี โดยอาศัยทีมงานจากพนักงานภายในองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญต่างๆ อาทิ โปรแกรมเมอร์ ทีมผลิต (โปรดักชั่น) และดิจิทัล ดีไซเนอร์ เป็นต้น
ในช่วงแรกๆ ของบริการดังกล่าว บริษัทมีกลุ่มลูกค้าราว 4-5 ราย ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว และสนใจใช้บริการแท็กซี่เมล เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆ ในรูปแบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ไปยังลูกค้าที่มีฐานข้อมูล (ดาต้าเบส) อยู่แล้ว ซึ่งยังสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่เกือบทุกคนจะต้องมีที่อยู่อีเมล (Email address) ที่นอกจากจะช่วยให้เจ้าของสินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ขณะเดียวกันยังประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับบริการส่งจดหมายในช่องทางไปรษณีย์ทั่วไปด้วย
“บริการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เจ้าของสินค้า เจ้าของธุรกิจมักเจอ คือ การส่งจดหมายข่าวไปยังลูกค้าที่มีดาต้าเบสจำนวนมากๆ ซึ่งหากทำเองจะพบว่าไม่สามารถส่งไปได้ครบจำนวนภายในช่วงเวลา 1-3 วัน ซึ่งอาจทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่ถ้าหากส่งได้จำนวนมากๆ พร้อมกันจะมีโอกาสเปิดหรือโอเพ่นเรตสูงขึ้นราว 20%
ขณะเดียวกัน หากเปรียบเทียบอัตราค่าบริการระหว่างการส่งไปรษณีย์ในกลุ่มตัวอย่าง เช่น ธุรกิจประกันภัย ที่มีการส่งจดหมายถึงฐานลูกค้าตัวเองจำนวนมากๆ จะมีต้นทุนต่อฉบับต่อครั้งอยู่ที่ราว 8-10 บาท ขณะที่บริการอีเมลจะมีราคาเฉลี่ยราว 4 สตางค์” ไพบูลย์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทได้ผลตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ที่กำลังปรับรูปแบบการทำตลาดไปสู่ยุคออนไลน์ หรือดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทได้ลงทุนขยายโครงข่าย (เน็ตเวิร์ก) และแม่ข่าย (เซิร์ฟเวอร์) เพิ่ม เพื่อรองรับการขยายตัวของบริการดังกล่าวที่จะเติบโตสูงขึ้นในปี 2559 จากในช่วงที่ผ่านมาบริการสามารถส่งได้ 2 ล้านอีเมล/ชั่วโมง แต่ปัจจุบันส่งได้ 40 ล้านอีเมล/ชั่วโมงแล้ว
สำหรับบริการจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.แบ่งตามจำนวนการใช้งาน โดยชำระค่าบริการล่วงหน้า (เครดิต พรีเพด) ตามอัตราค่าบริการที่กำหนดไว้ โดยลูกค้าจะได้รับยูสเซอร์ แอคเคาต์ และพาสเวิร์ด เพื่อล็อกอินเข้าไปใช้บริการได้ด้วยตนเอง และ 2.บริการรายเดือน โดยไม่จำกัดจำนวนการใช้งาน (บุฟเฟ่ต์) จากพฤติกรรมของเจ้าของสินค้าธุรกิจเองที่อาจมีการใช้การส่งอีเมลตลอดเวลา โดยบริษัทจะยังมีผู้ช่วยส่วนตัว (เพอร์ซันนัล แอสซิสแทนต์) เพื่อแนะนำการใช้บริการด้านต่างๆ ให้กับลูกค้าด้วย
ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลในการให้บริการแท็กซี่เมล พบว่าช่วงระยะเวลาที่จะมีผู้เปิดอีเมลอ่านมากที่สุด หรือเป็นเวลาที่ดีที่สุด คือ วันอังคารเช้า และวันพฤหัสบดีบ่าย ส่วนช่วงเวลาที่ไม่ดีสำหรับการส่งอีเมลนั้นจะเป็นวันจันทร์เช้า และวันเสาร์กลางคืน รวมถึงการตั้งหัวเรื่องในการส่งจดหมายกรณีเป็นภาษาอังกฤษ ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด ด้วยมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นอีเมลขยะ (สแปม เมล) เป็นต้น
จากการลงทุนด้านระบบครั้งใหญ่สำหรับบริการดังกล่าว โดยในปีหน้าบริษัทวางแผนขยายฐานผู้ใช้บริการในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ ผู้ให้บริการด้านโรงพยายาล การศึกษา และตัวแทนการท่องเที่ยว (ทัวร์เอเยนซี) เป็นต้น จากปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร รถยนต์ เป็นต้น โดยในปีหน้าบริษัทคาดว่าบริการแท็กซี่เมลจะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว หรือรวมของเดิมไม่ต่ำกว่า 200 ราย จากปัจจุบันมีอยู่ราว 80-90 ราย ส่วนปีนี้มีรายได้จากบริการดังกล่าวราว 50 ล้านบาท และในปีหน้าเพิ่ม 100 ล้านบาท
อีกหนึ่งเครื่องมือการตลาดดิจิทัลฝีมือคนไทยที่ชิงเปิดตลาดก่อน ที่หวังเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า


