posttoday

"ซูมิโตโม" สวนทางเศรษฐกิจชะลอ

16 ธันวาคม 2558

ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ที่มีความต้องการรถขุดไฮดรอลิกเป็นอันดับสองของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

แม้นักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจจะคาดการณ์ภาวะทางเศรษฐกิจไทยว่าจะชะลอตัว ซึ่งทำให้น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าในวิกฤตนั้นกลับเป็นโอกาสให้กับตลาดเครื่องจักรกลขนาดหนักที่จะขยายตัวต่อเนื่องอย่างน่าสนใจ เหตุเพราะรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินหน้าทุ่มเม็ดเงินลงทุนโครงการระบบขนส่งขั้นพื้นฐาน ทั้งโครงการถไฟฟ้าหลากหลายสี การปักหมุดความร่วมมือไทย-จีนในโครงการรถไฟชานเมือง แม้แต่การเดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เครื่องจักรกลหนักอย่างรถขุด รถปูยาง จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ

ฉกาจ แสนจัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักจากญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ซูมิโตโม ยอมรับว่าจากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงโครงการก่อสร้างต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นบนพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ทำให้เครื่องจักรกลหนักอย่างรถขุดขยายตัวเพิ่มขึ้น

“สำหรับรถขุดของซูมิโตโม ทางภาคกลางถือว่ามียอดจำหน่ายสูงสุด คิดจากยอดขายรวมแล้วอยู่ที่ 42% เป็นแหล่งรวมรถขุดขนาด 35 ตัน และ 48 ตัน ส่วนทางภาคใต้นั้นจะอยู่ที่ 27% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20%” ฉกาจ กล่าว

"ซูมิโตโม" สวนทางเศรษฐกิจชะลอ ฉกาจ แสนจัน

ฉกาจ บอกด้วยว่า ในปีหน้าจะเจาะตลาดภาคเหนือมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์แบบป่าล้อมเมือง เพราะบริษัทเพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแค่ 3 ปี จึงใช้รูปแบบการขายแบบเซลส์และโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นนายหน้าที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่นั้นๆ มาช่วยขาย เช่น ต่างจังหวัดและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ขณะเดียวกัน บริษัทจะติดตามโครงการภาครัฐในส่วนการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งเรื่องระบบชลประทาน การสร้างรถไฟฟ้า เหมืองแร่ ซึ่งมีส่วนผลักดันให้สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะรถขุดสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

“บริษัทมองว่าเศรษฐกิจดีขึ้นอยู่ที่การพัฒนาพื้นฐานก่อน ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ต้องพัฒนา ขยาย และซ่อมแซม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจัดการน้ำถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องทำแน่นอน” กรรมการผู้จัดการลีดเวย์ กล่าวอย่างมั่นใจ

อีกด้านหนึ่งการที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ยิ่งทำให้ตลาดเครื่องจักรกลหนักได้รับอานิสงส์ไปด้วย

มิคิโอะ อิเดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซูมิโตโม คอนสตรัคชั่น แมชชีนเนอรี่ ประเทศญี่ปุ่น ประเมินว่า ตลาดรถขุดไฮดรอลิกในภูมิภาคเอเชียน นอกจากตลาดใหญ่ๆ อย่างในญี่ปุ่น จีน อเมริกาเหนือ และในยุโรปแล้ว ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ก็ถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน การเล็งเห็นการเติบโตเครื่องจักรกลหนักจากญี่ปุ่น ทำให้มีการก่อสร้างโรงงานผลิตขึ้นที่อินโดนีเซียเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา และได้มีการจัดส่งผลิตภัณฑ์ในรุ่นต่างๆ ไปยังประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

“ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ที่มีความต้องการรถขุดไฮดรอลิกเป็นอันดับสองของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ บิ๊กบอส ซูมิโตโม กล่าว

"ซูมิโตโม" สวนทางเศรษฐกิจชะลอ

มาซูฮิโก ซาซากิ ประธานอำนวยการฯ บอกว่า ปีนี้เรามีส่วนแบ่งการตลาดรถขุดไฮดรอลิกในประเทศไทยถึง 7% และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการยอมรับในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้ และการให้บริการดูแลและให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ รวมทั้งบริการหลังการขายถึง 7,000 ชั่วโมงการใช้งาน หลังจากส่งมอบสินค้าแล้ว

สำหรับจุดแข็งของรถขุดซูมิโตโม มีเทคโนโลยีระบบไฮดรอลิกที่มีสมรรถนะดี มีแรงขุด ประหยัดน้ำมันต่างจากรถขุดแบรนด์อื่นๆ มีการรับประกันการใช้งานสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 2,500 ชั่วโมง ฟรีค่าบำรุงรักษา 7,000 ชั่วโมง ทั้งค่าแรง ค่ารถ และค่าอะไหล่

สำหรับแผนการลงทุนลีดเวย์ฯ จะใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ในการนำเข้ารถขุดพร้อมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 4 สาย เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและการดูแลบริการหลังการขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากเดิม 6 สาขา ที่ จ.ลำปาง ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และบางปะกง รวมทั้งจะมีการเพิ่มบุคลากรเพื่อขยายตลาดและให้ครอบคลุมการดูแลบริการหลังการขายมากยิ่งขึ้น

ในปี 2558 ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 500 คัน และในปีหน้าทั้งลีดเวย์และซูมิโตโมตั้งเป้ายอดขายรถขุดเพิ่มจากเดิมไว้ที่ 250 คัน รถปูยาง 25 คัน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขายรวมของปีหน้าเพิ่มขึ้นประมาณ 750 คันทีเดียว

ไม่เพียงตลาดในประเทศเท่านั้นที่ลีดเวย์จะขยายการลงทุน ตลาดในต่างประเทศก็เตรียมขยายด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มผลักดันตลาดที่เมียนมาให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายในเมียนมา 100 คัน ซึ่งตั้งเป้าไว้ 120 คันภายในสั้นปี 2558 นี้ ส่วนปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 150 คัน

"ซูมิโตโม" สวนทางเศรษฐกิจชะลอ

 

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์