มุกดาหาร-นครพนม เมืองคู่ 2 ประตูสู่อินโดจีน
มุกดาหารและนครพนมนั้นมีพื้นที่ติดกัน ทั้งสองจังหวัดต่างก็เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุกดาหารอยู่ในระยะแรก ส่วนนครพนมจะเป็นระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปี 2559
มุกดาหารและนครพนมนั้นมีพื้นที่ติดกัน ทั้งสองจังหวัดต่างก็เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุกดาหารอยู่ในระยะแรก ส่วนนครพนมจะเป็นระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปี 2559
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสองจังหวัดนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมุกดาหารนั้นเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ในปี 2550 ส่วนนครพนม เปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ในปี 2554 ซึ่งนับเป็นก้าวกระโดดสำคัญที่ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนของทั้งสองจังหวัดเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัว ปัจจุบันทั้งมุกดาหารและนครพนมมีมูลค่าการค้าชายแดนจังหวัดละนับแสนล้านบาท/ปี
การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษของทั้งสองจังหวัดนั้น ถือเป็นการเปิดประตูเชื่อมอาเซียน โดยมุกดาหารนั้นเป็นประตูเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก จากเมืองท่าดานัง ประเทศเวียดนาม ผ่านลาว ไทย ไปออกทะเลอันดามัน ที่เมืองมะละแหม่ง ประเทศเมียนมา
ขณะที่นครพนมนั้น รัฐบาลอนุมัติงบประมาณให้กรมการขนส่ง ก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดน เชื่อมการขนส่งระบบราง วงเงิน 1,111.225 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2559-2562 ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือเชื่อมการขนส่งกับระบบรถไฟของจีนที่เชื่อมโยงกับระบบรถไฟของประเทศลาวอยู่แล้ว
สมศักดิ์ สีบุญเรือง รองนายกสมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า มุกดาหารกับนครพนม ทั้งสองเมืองมีศักยภาพด้านการค้าการท่องเที่ยวสูงมาก เป็นเมืองเศรษฐกิจชายแดนภาคอีสานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
“หลังเปิดใช้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 และ 3 ส่งผลให้มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าผ่านแดน ณ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทั้งสองแห่งนี้ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ปีละร่วม 2 แสนล้านบาท มีความสำคัญทางด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะประกาศให้ จ.มุกดาหาร เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเฟส 1 และ จ.นครพนมเฟส 2 มีสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงไปสู่ประเทศลาว 2 แห่ง มีการค้าขายขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดนทั้งสองด่าน ในอนาคตหลังการเปิดประตูสู่อาเซียนมุกดาหาร-นครพนม จะมีมูลค่าการค้าผ่านแดนเพิ่มมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการวางยุทธศาสตร์หลักทั้งถนนและทางรถไฟทางคู่ไว้รองรับ แต่การเชื่อมโยงของทั้งสองจังหวัด ยังไม่สะดวกพอ ซึ่งหากก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีแล้ว คาดว่าการจราจรบนถนนเชื่อมระหว่าง 2 จังหวัดจะต้องหนาแน่นมากขึ้น ซึ่งภาคเอกชนของทั้งสองจังหวัด กำลังเร่งผลักดันการพัฒนาเส้นทางเชื่อมให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
มุกดาหารเจริญขึ้นรวดเร็วมาก รัฐบาลต้องจัดงบประมาณพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมเชื่อม 2 จังหวัดเพื่อรองรับการค้าผ่านแดนและการท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
แนวเส้นทางที่จะพัฒนาเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองจังหวัดจะเป็นอย่างไร ติดตามในตอนต่อไป


