การสร้างทีม (Team Building) ตอน 1
โดย...ธนกร สังขรัตน์
โดย...ธนกร สังขรัตน์
ในข้อเท็จจริงผู้ประกอบการชอบที่จะให้สร้างทีม แต่ไม่ได้ถามความต้องการของบุคลากรว่าต้องการสร้างทีมหรือไม่ การสร้างทีมมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ
1.กำหนดจุดมุ่งหมายหรือลำดับความสำคัญเพื่อวินิจฉัยว่าคนในองค์กรมีภาพรวมในการสร้างทีมอย่างไร เมื่อได้วินิจฉัยภาพรวมแล้ว จึงกำหนดทิศทางในการมอบหมายงานต่อไป 2.วิเคราะห์หรือจัดสรรวิธีทำงานตามบทบาทและความรับผิดชอบของคนในองค์กร เพื่อป้องกันความสับสนของบทบาทหน้าที่ สิ่งที่ต้องพึงระวังอย่างมากคือเทคนิคความขัดแย้ง
3.ตรวจสอบวิธีการทำงานของทีม เช่น การตรวจสอบกระบวนการ การตัดสินใจ การสื่อสาร และอื่นๆ มีการกำหนดขั้นตอนและกระบวนการทำงานสำหรับทีม รวมถึงการตรวจสอบและค้นหาวิธีปรับปรุงขั้นตอนและกระบวนการที่ทีมได้พัฒนามาช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการวัดความสามารถของผู้นำ และ 4.การตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีม โดยระบุปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกิดขึ้นในทีมและหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้การสร้างทีมสำเร็จ
ต่อไปในกระบวนการสร้างทีม ซึ่งจะมีทั้งด้านกระบวนการและเนื้อหา โดยกระบวนการที่จะนิยมในการสร้างทีมของกูรู HR ที่เป็นกิจกรรมที่สร้างทีมสู่ความสำเร็จ ประกอบด้วย 4 กระบวนการ คือ
1.การจัดการองค์กร (Organization) ควรจะจัดงานเป็นกลุ่มใหญ่ หรือกลุ่มย่อย หรือลักษณะพิเศษ 2.ภาวะผู้นำ (Leadership) สำคัญ เพราะผู้นำทีมจะต้องมีความรับผิดชอบทั้งข้อมูล ประชุมมอบหมายงาน 3.การตัดสินใจ (Decision Making) มีทั้งการตัดสินใจโดยคนคนเดียว หรือการตัดสินใจโดยการควบคุมของเสียงส่วนน้อย หรือใช้หลักการตัดสินใจของเสียงส่วนมาก แต่หลายองค์กรจะใช้การตัดสินใจด้วยความเห็นพ้องต้องกันและเป็นเอกฉันท์ 4.การแก้ไขปัญหา มีหลายเทคนิคให้เลือก อาทิ Rationale Steps, Nominal Group Technique หรือ Delphi Method
กระบวนการที่สำคัญอีกอย่าง คือ การรักษาความเป็นทีม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำในกลุ่มเพื่อช่วยให้รักษาความเป็นทีม และส่งเสริมให้เกิดความสามัคคี ซึ่งกระบวน ได้แก่ การสื่อสารที่เปิดกว้าง ความไว้วางใจ ความสนับสนุนกันและกัน การให้โอกาสสมาชิก ความอดทนต่อความแตกต่าง การลดความเครียด ซึ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ที่เป็นเทคนิคการรักษาทีม
สุดท้ายขอจบด้วยเกณฑ์วัดทีมที่มีประสิทธิภาพ โดยทฤษฎีการวิจัยของกูรูที่เป็นเกณฑ์วัดที่มีประสิทธิผลมาเขียน 8 ประการ ได้แก่
1.การเข้าใจ เห็นด้วยกัน และสามารถระบุสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานหลักได้ 2.การสื่อสารที่เปิดกว้าง 3.การไว้วางใจซึ่งกันและกัน 4.การสนับสนุนซึ่งกันและกัน 5.การจัดความแตกต่างของคน เกณฑ์ข้อนี้ต้องระมัดระวังในการประเมิน เพราะหัวใจของทีมคือการรักษาความสมดุลระหว่างการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดเห็นกับการควบคุมความแตกต่างที่ต้องเปิดเผย
6.การเลือกใช้ทีมได้เหมาะสม 7.การมีสมาชิกที่มีทักษะที่เหมาะสม ซึ่งแบ่งทักษะได้ 2 ประเภท คือ ทักษะความเชี่ยวชาญของงาน และทักษะการบำรุงรักษาความเป็นทีม และ 8.การมีภาวะผู้นำ คือ ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ที่สามารถทำหน้าที่จัดการและบูรณาการลักษณะงาน ประสานงานหลัก ดูแลรับผิดชอบให้กระจายไปสู่ทีมได้ภายใต้เงื่อนไขของงานและความสามารถของสมาชิกทีม
(อ่านต่อฉบับหน้า)


