posttoday

Think of Living สู่ยุคทองตลาดบ้าน

20 พฤศจิกายน 2558

เจาะลึก thinkofliving ผู้บุกเบิก เว็บไซด์ รีวิวเกี่ยวกับเรื่องบ้านรายแรกในไทย

วราภรณ์ เทียนเงิน

ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีรถไฟฟ้าเกิดใหม่กว่า 10 เส้นทาง และมีจำนวนสถานีกว่า 500 สถานี จึงจะมีโครงการลงทุนใหม่ในอสังหารริมทรัพย์เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้เป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ โอกาสทองของผู้บริโภค และนักลงทุนในธุรกิจนี้ รวมถึงเป็นปัจจัยบวกต่อ เว็บไซด์ที่แนะนำเรื่องบ้านอย่าง Think of Living ตามความเห็นของ “เธียรรุจ ธรณวิกรัย” ผู้ก่อตั้งเว็บไซด์ Think of Living ได้คาดการไว้

“เธียรรุจ ธรณวิกรัย” ผู้ก่อตั้งเว็บไซด์ Think of Living และผู้จัดการ บริษัท iProperty Group (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ระยะยาวตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะมีการขยายตัวที่ดี และเติบโตสูงมาก ตามโครงการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของรัฐบาล จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะเดียวกัน อยากแนะนำผู้ที่ต้องการซื้อบ้านว่า ตั้งแต่ทำเว็บไซด์มากว่า 4 ปีพบว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นราคารวมกว่า 30% ดังนั้นการที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ไม่มีการปรับลดลงมาอย่างแน่นอน มีแต่ทิศทางที่ขึ้นในทุกปี

ทั้งนี้ จากปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้บริษัทเตรียมขยายธุรกิจทั้ง การนำเสนอการแนะนำบ้าน (รีวิว) ให้ครบวงจรและจะทำการ รีวิวให้ครบทุกโครงการ และมีการนำเสนอข้อมูลที่อัพเดตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา มีการอัพเดตข้อมูลโครงการใหม่ในทุกวัน ทำให้ทั้งปีมีการอัพเดตโครงการใหม่รวม 365 โครงการ

“เธียรรุจ” กล่าวว่า การเปิดเว็บไซด์ www.thinkofliving.com  มาต่อเนื่องกว่า 4 ปี และเป็นผู้บุกเบิกสร้าง เว็บไซด์ รีวิวเกี่ยวกับเรื่องบ้านรายแรกในไทย ทำให้ขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับ รีวิวแนะนำอสังหาริมทรัพย์ได้สำเร็จนั้น มาจากการที่ นำเสนอข้อมูลได้ครบถ้วน และแนะนำในทุกด้าน รวมถึงเข้าใจในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการรู้ รวมถึง การเริ่มต้นเป็นธุรกิจแรก ที่ยังไม่มีใครทำรีวิว เกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์มาก่อน ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ จึงมียอดผู้เข้าชมมากกว่า 5 แสนคนต่อเดือน

ขณะเดียวกันได้มีการขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการรีวิว แนะนำบ้านเป็นวีดีโอ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบการอ่าน การนำเสนอผ่านรายการทีวี และยูทูป การจัดทำหนังสือ Think of Living การจัดสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องบ้าน และการจัดงานอีเว้นท์เกี่ยวกับบ้านอย่างครบวงจร โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากยอดโฆษณา และการขยายธุรกิจจากงานอีเว้นท์

“องค์ประกอบหลักที่ทำให้ลูกค้าตอบรับเว็บไซด์สูงมากนั้น มาจากการนำเสนอข้อมูลที่มีคุณภาพ นำเสนอข้อมูลที่เข้าถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นข้อมูลที่ผู้บริโภคต้องการรู้มากที่สุด และมีการอัพเดตข้อมูลใหม่ทุกวัน” เธียรรุจ กล่าว

ขณะที่การทำธุรกิจช่วงที่ผ่านมาอุปสรรคสำคัญคือ การต้องบริหารคนให้ดีที่สุด เพราะบริษัทเริ่มต้นธุรกิจจากสตาร์ทอัพ ขนาดเล็ก และจะดึงคนที่มีศักยภาพสูงมาทำงานจึงเป็นเรื่องยาก รวมทั้งการที่เริ่มลงทุนจากงบน้อยๆ แต่ต้องบริหารงบให้เป็น และทำให้งบดังกล่าวให้เกิดประสิทธิภาพต่อองค์กรสูงสุด

นอกจากนี้การเปิดบริษัทในช่วงแรก ก็เป็นเวลาที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทย บริษัทก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์คือ นำเสนอข้อมูลของโครงการที่ประสบปัญหาน้ำท่วม

“เธียรรุจ” กล่าวว่า การย้อนไปถึง การเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจว่า มาจากเงินส่วนตัวรวมกกว่า 2.5  แสนบาท และขยายธุรกิจเรื่อยมา และเพื่อนมาร่วมลงทุน จนกระทั่งเดือน เม.ย.2558 มีพันธมิตรมาร่วมทุน ซึ่งเป็นนักลงทุนจากประเทศออสเตรเลีย ชื่อ iProperty ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีธุรกิจในประเทศ มาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย และไทย ทำให้บริษัทมีศักยภาพและมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น

จากการร่วมมือดังกล่าว จึงส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจได้เติบโตถึงเป็น 2,000-3,000 เท่า โดยบริษัทแม่มีมูลค่าของธุรกิจประมาณ 750 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทยไม่ต่ำกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท

“เธียรรุจ” กล่าวต่อว่า ในขณะนี้คนรุ่นใหม่สนใจสร้าง ธุรกิจสตาร์ท อัพมากขึ้น ซึ่งการเริ่มต้นนั้น จะต้องทำในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอย่างแท้จริง และมีตลาดรองรับ ซึ่งเมื่อทำไปแล้วผู้ที่ทำธุรกิจ จะสามารถรู้ได้เองว่า ควรที่จะบริหารและขยายองค์กรต่อไปอย่างไร

เป็น สตาร์ทอัพไทย ที่สามารถก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างประสบความสำเร็จแล้ว

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้