New Normal New Gold Investment
สภาวะ New Normal ดูจะเป็นศัพท์ใหม่ที่ใช้ได้ดีกับตลาดการลงทุนในทองคำ โดยจะเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาดทองคำ ทำให้ราคาทองคำมีความผันผวนขึ้นลงเร็ว ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วง 5 ปีก่อน แต่ในช่วงหลังปี 2010 เป็นต้นมา จะเห็นว่าทองคำมีการแกว่งตัวและผันผวน นอกจากสภาวะ New Normal แล้วทองคำเองเข้าสู่ภาวะทิศทางขาขึ้นหรือทิศทางขาลง โดยปรับเปลี่ยนไปตามกระแสหรือตามภาวะเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นหรือลงตามกระแส Demand และ Supply แต่ละช่วงของปีปฏิทิน เช่น ในสมัยก่อนการขึ้นหรือลงของราคาทองคำจะขึ้นกับช่วงปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ แต่ ณ ขณะนี้ ภาวะ New Normal ในทองคำ กลับแปรเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะการผูกติดกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นอย่างมาก
สภาวะ New Normal ดูจะเป็นศัพท์ใหม่ที่ใช้ได้ดีกับตลาดการลงทุนในทองคำ โดยจะเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาดทองคำ ทำให้ราคาทองคำมีความผันผวนขึ้นลงเร็ว ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วง 5 ปีก่อน แต่ในช่วงหลังปี 2010 เป็นต้นมา จะเห็นว่าทองคำมีการแกว่งตัวและผันผวน นอกจากสภาวะ New Normal แล้วทองคำเองเข้าสู่ภาวะทิศทางขาขึ้นหรือทิศทางขาลง โดยปรับเปลี่ยนไปตามกระแสหรือตามภาวะเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นหรือลงตามกระแส Demand และ Supply แต่ละช่วงของปีปฏิทิน เช่น ในสมัยก่อนการขึ้นหรือลงของราคาทองคำจะขึ้นกับช่วงปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ แต่ ณ ขณะนี้ ภาวะ New Normal ในทองคำ กลับแปรเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะการผูกติดกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นอย่างมาก
New Gold Investment
เมื่อเราเข้าใจสภาวะ New Normal ที่เกิดขึ้นของเศรษฐกิจโลกที่หลายๆ ฝ่ายเริ่มพูดถึง MTS Gold แม่ทองสุก จึงอยากชี้ประเด็นให้นักลงทุนในทองคำได้เข้าใจการลงทุนในทองคำที่เราเรียกว่าเป็น New Gold Investment ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ได้เขียนและพูดมาโดยตลอดว่า สภาพตลาดของทองคำจะมีการขึ้นและลงอย่างรวดเร็วและหลายๆ ครั้งราคาทองคำกลับเข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาลง ดังนั้น การลงทุนในทองคำรูปแบบใหม่จึงต้องเข้าใจถึงแนวโน้มของราคาทองคำที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เช่นขณะนี้เข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาลง ทำให้นักลงทุนที่คอยจะซื้อหรือซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมดุลกับสภาวะNew Normal โดยในส่วนของ New Gold Investment จะเห็นได้ว่าการลงทุนในทองคำเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวที่นักลงทุนไทยสัมผัสได้ และมีการใช้เครื่องไม้เครื่องมือช่วยในการลงทุนมากขึ้น ทั้งในตลาด Gold Futures และตลาดการลงทุนในทองคำแท่งของไทย ซึ่งต้องถือว่าสภาวะทองคำแท่งของไทยมีการพัฒนาจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งรวมไปถึง MTS Gold แม่ทองสุก ที่พัฒนารูปแบบการซื้อขายให้สามารถคล่องตัวเหมือนตลาดโลกได้ ทำให้ชาวต่างชาติหรือธนาคารในต่างประเทศหลายๆ แห่งชื่นชมกับสภาพตลาดทองคำของไทยที่มีการพัฒนา หรือเรียกว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของโลกทีเดียว หรือไม่น่าเกินลำดับที่ 5 ของโลก โดยในที่นี้กล่าวถึงระบบการซื้อขายที่มีเครื่องมือในการลงทุนที่ดี ที่เรียกว่า Gold Online นั่นเอง ในระบบ Gold Online นักลงทุนสามารถลงทุนได้ 24 ชั่วโมง และเป็นสภาวะที่มีการเคลื่อนไหวของราคาเป็นราคาตามตลาดโลก
นอกจากนั้น MTS Gold Futures และกลุ่มบริษัทในเครือห้างทองแม่ทองสุกยังมีเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจการลงทุนผ่าน Technical Analysis ที่จะทำให้นักลงทุนสามารถเข้าใจถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า นักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายกับ MTS Gold แม่ทองสุก หรือ MTS Gold Futures ประมาณครึ่งหนึ่งเริ่มสามารถทำกำไรได้ในทิศทางขาลง ณ ขณะนี้ยังพบว่านักลงทุนไทยบางส่วนยังยึดติดกับสภาพการไม่ขายไม่ขาดทุน ทำใจไม่ได้กับการตัดขาดทุน ซึ่งก็ต้องบอกว่าสภาวะการลงทุนในโลกยุคใหม่ของทองคำที่เราเรียกว่า New Normal หรือ New Gold Investment ได้เปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่นักลงทุนในทองคำจะต้องมีความรู้คู่การลงทุนอยู่เสมอ และท่านสามารถติดตามบทวิเคราะห์การลงทุนแบบ Real Time ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.mtsgold.co.th หรือ www.mtsgoldfutures.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตลาดทองคำและตลาดโลก และมีการพัฒนาระบบมาเป็นอย่างดีกว่า 7 ปีเต็ม ทำให้ท่านสามารถมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ รวมทั้งสามารถดูข้อมูลข่าวสารหรือรายการโทรทัศน์ย้อนหลังได้ผ่านทาง Youtube : mtsgoldgroup รวมทั้งบทความต่างๆ ที่เก็บไว้ใน Server ของบริษัทได้ที่ www.mtsgold.co.th นั่นเอง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 1,074 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ในเชิงเทคนิคแล้วราคาทองคำมีทิศทางขาลง ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยราคาทองคำหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน รวมทั้งมีปริมาณการขายในทิศทางขาลงค่อนข้างสูง อันจะเห็นได้ว่ามีปริมาณการขายที่ Support การตกลงของราคาเช่นเดียวกัน โดยทางเทคนิคทองคำจะมีแนวรับ 1,073 เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าราคาทองคำไทยที่ระดับ 18,300 บาท/บาททองคำ ถ้าหากราคาทองคำหลุดระดับดังกล่าวลงมาก็มีโอกาสปรับตัวลดลงมาต่อได้ ถัดไป 1,050 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ทองคำไทยจะอยู่ที่ 18,000 บาท/บาททองคำ แนวต้านด้านบนของทองคำจะอยู่ที่ 1,095 เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าทองคำไทยที่ระดับ 18,600 บาท/บาททองคำ ระยะสั้นจะเห็นการเคลื่อนตัวของราคาที่ค่อนข้างเป็น Oversold มา
ระยะหนึ่งแล้ว ระหว่างนี้ราคาอยู่ในช่วงการปรับฐาน เนื่องจากตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ จึงย้ำเน้นนักลงทุนทองคำของไทยให้เข้าใจภาวะ New Normal รวมถึง New Gold Investment ซึ่งสภาวะแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจ และตลาดทองคำก็ยังคงมีความน่าลงทุนอย่างมาก จากตลาดหุ้นไม่มีทิศทางชัดเจน แต่ตลาดทองคำมีความชัดเจนและเคลื่อนไหวตามทิศทางแนวโน้มหรือจากภาวะเศรษฐกิจต่างๆ ของโลก


