4ยักษ์ใหญ่ได้ทีส่งออกน้ำมันดิบ

ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม 4 รายสบช่อง ขอส่งออกน้ำมันดิบเกรดต่ำ หลังรัฐปลดล็อกแหล่งวาสนา

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม 4 ราย แจ้งขอผ่อนผันนำน้ำมันดิบคุณภาพต่ำส่งออกไปต่างประเทศ ภายหลังได้ผ่อนผันให้บริษัท คริสเอ็นเนอร์ยี่ (กัลฟ์ ออฟ ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งวาสนาในอ่าวไทย สามารถนำน้ำมันดิบคุณภาพต่ำที่ผลิตได้ส่งไปขายต่างประเทศ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไม่สามารถรับซื้อน้ำมันเกรดดังกล่าวได้ จึงต้องการระบายน้ำมันที่ผลิตได้คงค้างกว่า 7.5 หมื่นบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม จะหารือกับโรงกลั่นน้ำมันถึงความสามารถในการรับซื้อน้ำมันดิบคุณภาพต่ำที่ผลิตได้ในประเทศว่ามีปริมาณแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาน้ำมันดิบที่ผลิตได้ในประเทศมีสารปนเปื้อนสูง ส่งผลให้โรงกลั่นในประเทศไม่สามารถกลั่นได้ตามกระบวนการปกติ แต่ก็พยายามช่วยรับซื้อไว้

ทั้งนี้ นอกจากแหล่งวาสนาแล้วยังมีอีก 4 แหล่ง ได้แก่ 1.แหล่งบัวหลวง ของบริษัท ซาลามานเดอร์ 2.แหล่งนางนวล ของบริษัท ปตท.สผ. 3.แหล่งสงขลา ของบริษัท นิวคอสตอล 4.แหล่งนงเยาว์ ของบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียมไทย มีกำลังการผลิต 1 ใน 3 ของน้ำมันดิบที่ผลิตได้หรือประมาณ 5 หมื่นบาร์เรล/วัน

“การอนุญาตให้น้ำมันดิบแหล่งวาสนาส่งออกได้เป็นการช่วยระบายปริมาณน้ำมันดิบที่เก็บไว้จำนวนมากและไม่สามารถขายให้กับโรงกลั่นน้ำมันประเทศได้ ในขณะที่เรือที่เก็บน้ำมันเริ่มใกล้จะเต็มไม่เกินสิ้นปีนี้ ขณะที่แหล่งน้ำมันดิบอื่นๆ อีก 4 แห่ง ก็ต้องการได้รับการผ่อนผัน เนื่องจากประสบกับปัญหาเดียวกัน จึงต้องมาหารือในภาพรวมกับโรงกลั่นว่ารับซื้อน้ำมันดิบเกรดต่ำได้แค่ไหน” นายวีระศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ จะหารือผู้ประกอบการกองเรือ เนื่องจากจำนวนเรือที่จะมาให้บริการเช่าเก็บน้ำมันมีน้อยลง หากไม่มีสถานที่เก็บทำให้ต้องหาทางส่งออก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นต้นทุนของผู้รับสัมปทาน

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า การเปิดทางให้ส่งออกจะพิจารณาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ โดยการส่งออกน้ำมับดิบจะสร้างมูลค่าของน้ำมันดิบที่มีคุณภาพต่ำได้มาก เพราะมีข้อกำหนดให้ผู้รับสัมปทานต้องส่งออกในราคาสูงกว่าที่ขายในประเทศ อันจะส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้ได้มากกว่า โดยเฉลี่ยราคาส่งออกน้ำมันดิบจะสูงกว่าในประเทศ 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล