คราวด์ฟันดิ้ง ช่องทางกำไร ของคนใจกล้า (2)
คงเป็นเพราะ “การระดมทุนสาธารณะจากมวลชนผ่านช่องทางออนไลน์” หรือเรียกว่า คราวด์ฟันดิ้ง (Crowdfunding)
โดย...สวลี ตันกุลรัตน์ [email protected]
คงเป็นเพราะ “การระดมทุนสาธารณะจากมวลชนผ่านช่องทางออนไลน์” หรือเรียกว่า คราวด์ฟันดิ้ง (Crowdfunding) เพื่อลงทุนในธุรกิจที่เริ่มก่อตั้ง ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าจะไปรุ่งหรือจะไปไม่รอด
นอกจากนี้ การลงทุนในรูปแบบคราวด์ฟันดิ้ง ยังถือเป็นของใหม่สำหรับนักลงทุนได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะออกไปลุยลงทุนต้องผ่าน “ตัวกรอง” หลายชั้นหน่อย
กรองชั้นแรก : ก.ล.ต.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงเข้ามารับดูแล โดยพุ่งเป้าการดูแลไปที่ผู้ให้บริการระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ (Crowdfunding Portal) แบบเข้มงวด เพราะต้องเป็นด่านหน้าในการ “คัดเลือก” ธุรกิจมาให้นักลงทุนได้ร่วมลงทุน
คณะกรรมการกำกับตลาดทุนจึงออกประกาศข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผลไปตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2558 ซึ่งมีทั้งข้อกำหนดทั่วๆ ไป และการกำหนด “มาตรฐานการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ในฐานะผู้มีวิชาชีพ” โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการต้อง “ปฏิบัติตามมาตรฐาน” เช่น
ต้องประกอบธุรกิจและให้บริการแก่สมาชิกด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และใช้ความรู้ความสามารถ และความชำนาญ ด้วยความเอาใจใส่และระมัดระวังตามมาตรฐานหรือเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพในลักษณะเดียวกันจะพึงกระทำ
ผู้ให้บริการระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ ในความหมายของ ก.ล.ต.ก็จะมีทั้ง 4 รูปแบบ ได้แก่
1.การรับการบริจาค (Donation) ซึ่งเป็นการรับบริจาคเงินจากคนทั่วไป เพราะฉะนั้นเราในฐานะคนบริจาคจะไม่คาดหวังผลตอบแทน ยกเว้นแต่จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีถ้าเป็นการระดมทุนเพื่อการกุศล
2.การรับการสนับสนุนทางการเงินโดยผู้ประกอบธุรกิจตอบแทนเป็นสิ่งของหรือผลประโยชน์ในลักษณะที่มิใช่ผลประโยชน์ทางการเงิน (Reward) หรือบางทีก็เรียกว่า Prepaid เพราะเหมือนกับเราสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า เพราะกิจการนั้นจะนำเงินจากเราไปผลิตสินค้า โดยอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ หรือผลงานเพลง ซึ่งนักลงทุนไม่ได้คาดหวังกำไรที่เป็นตัวเงิน นอกจากได้รับผลิตภัณฑ์ตามที่สัญญาไว้เท่านั้น
3.การให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยจากเงินที่ให้กู้ยืม (Lending) รูปแบบง่ายๆ ที่มีมาแต่ดั้งเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากกู้เงินจากสถาบันการเงินมาเป็นการกู้เงินจากคนธรรมดาอย่างเราๆ เพราะกิจการที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มก่อตั้งอาจจะกู้เงินจากสถาบันการเงินยากสักหน่อย แต่สิ่งที่เราต้องการเหมือนกัน คือ ดอกเบี้ยจากการให้เงินกู้ (ซึ่งก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่า เราจะได้ดอกเบี้ยตามที่หวังไว้หรือไม่)
4.การร่วมลงทุน (Investment) สามารถทำได้ทั้งในรูปแบบของการร่วมหุ้นและออกตราสารหนี้ (Equity/Debt) การร่วมทุนแบบนี้ที่เราต้องการ เพราะเราคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งอาจจะเป็นการจ่ายเงินปันผล ถ้าเป็นร่วมหุ้น คาดหวังดอกเบี้ย ถ้าเป็นการออกตราสารหนี้ รวมทั้งคาดหวังกำไรที่ได้จากการขายหุ้นในอนาคต
เพราะฉะนั้น น่าจะเบาใจไปได้อีกขั้นหนึ่งว่า ผู้ให้บริการระบบที่ได้รับการเห็นชอบจาก ก.ล.ต.มาแล้ว น่าจะมีคุณภาพและน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง
กรองชั้นที่สอง : ผู้ให้บริการระบบ
หลังจากที่ ก.ล.ต.เปิดเผยหลักเกณฑ์และข้อกำหนดสำหรับการจัดตั้ง Crowdfunding Portal ก็เริ่มมีผู้สนใจที่จะเป็นผู้ให้บริการหลายราย หนึ่งในนั้น คือ เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีม เมคเกอร์ คราวด์ฟันดิ้ง
เอกสิทธิ์ บอกว่า ตัวผู้ให้บริการก็เหมือน “ที่ปรึกษาการลงทุน” หรือร้านค้าที่จะไปคัดเลือกสินค้าให้นักลงทุนมาร่วมลงทุน ซึ่งในอนาคตจะต้องมีร้านค้าหลายแห่งแน่นอน
“ก่อนจะเข้าร้านไหนต้องศึกษาร้านนั้นก่อนว่าเป็นอย่างไร คัดเลือกธุรกิจที่ดีมาให้เราลงทุนหรือไม่ ผู้บริหารและทีมงานมีประวัติการทำงานที่ดีหรือไม่ เพราะร้านค้าแต่ละร้านก็อาจจะมีความเข้มในการคัดเลือกธุรกิจที่แตกต่างกัน” เอกสิทธิ์ กล่าว
หลังจากดูตัวผู้ให้บริการแล้ว เอกสิทธิ์ยังแนะนำให้พิจารณาตัวธุรกิจที่เราจะเข้าไประดมทุน เพราะแม้ว่าผู้ให้บริการจะคัดเลือกมาแล้วระดับหนึ่ง แต่ก่อนจะลงทุนจริงควรเข้าไป “เยี่ยมกิจการ” เหล่านั้นด้วย ซึ่งเชื่อว่าเจ้าของกิจการจะยินดีเปิดให้เข้าชม
“อยากให้ไปเยี่ยมกิจการก่อนที่จะมีขายหุ้นสัก 1-2 เดือนล่วงหน้า ในขณะที่ผู้ให้บริการเองก็จะจัดให้มีการโรดโชว์ เหมือนกับการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพราะการได้เข้าไปเยี่ยมชม ได้พูดคุยกับเจ้าของกิจการจะทำให้เห็นนิสัยใจคอของเจ้าของธุรกิจด้วย” เอกสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนิสัยใจคอของคนก่อตั้งธุรกิจแล้ว เอกสิทธิ์ บอกว่า สำหรับธุรกิจที่จัดตั้งใหม่แบบนี้จะต้อง “ทำการบ้าน” มากกว่าการลงทุนหุ้นทั่วๆ ไป ต้องรู้วิธีการคำนวณมูลค่ากิจการที่เหมาะสม เพราะแทบจะไม่สามารถวิเคราะห์จาก “งบการเงิน” ได้เลย
“หุ้น IPO อาจจะมีงบการเงินให้วิเคราะห์ แต่บริษัทที่เริ่มก่อตั้งยังไม่มีขนาดนั้น รายได้อาจจะยังติดลบ เพราะฉะนั้นการคิดมูลค่าของบริษัทแบบนี้จึงเป็นศิลป์มากกว่าศาสตร์” เอกสิทธิ์ กล่าว
เอกสิทธิ์ ยังบอกอีกว่า สำหรับบริษัท ดรีม เมคเกอร์ คราวด์ฟันดิ้ง มีความตั้งใจที่จะเลือกกิจการที่ไม่มีความเสี่ยงสูงมากนัก โดยอาจจะเป็นกิจการร้านอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนปีละ 25% โดยในปีแรกน่าจะมีสัก 10-20 กิจการให้นักลงทุนเลือกลงทุน
กรองชั้นที่สาม : นักลงทุน
อย่างที่บอกไปเมื่อครั้งที่แล้วว่า ก.ล.ต.ตั้งใจจะช่วย “จำกัดความเสี่ยง” ให้กับนักลงทุน แม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นอาจจะให้นักลงทุนที่เป็นคนธรรมดาซื้อหุ้นของบริษัทเหล่านี้ได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/1 บริษัท และรวมแล้วไม่เกิน 10 บริษัท/ปี
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังมีข้อกำหนดให้กับผู้บริการระบบ ซึ่งมีผลให้เป็นตัวกรองชั้นที่สามสำหรับนักลงทุน คือ
“ก่อนการจองซื้อหลักทรัพย์ในแต่ละครั้ง ผู้ให้บริการระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ต้องจัดให้สมาชิกทำแบบทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนของสมาชิก ซึ่งต้องปรากฏว่าสมาชิกสามารถทำแบบทดสอบดังกล่าวได้ถูกหมดทุกข้อ”
นั่นอาจจะหมายความว่า ถ้าเราตอบแบบทดสอบผิดเพียงข้อเดียว ก็อาจจะหมดสิทธิลงทุนในคราวนั้นไปเลยก็ได้
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังกำหนดหลักใหญ่ใจความสำคัญที่จะต้องมีในแบบสอบถามไว้ 7 ข้อ (รายละเอียดตามภาพประกอบ) ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อเตือนใจนักลงทุนว่า “แน่ใจนะว่ากล้าพอ”


