ส่องเชนเล็กต่างชาติ รุกตลาดบริหารโรงแรมไทย
ประเทศไทยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกมา ดัชนีหนึ่งที่ตอบได้ดีว่าไทยเป็นจุดหมายสำคัญจริงๆ คือการที่เครือบริหารโรงแรมระดับนานาชาติ (เชน) ดังๆ ต่างเข้ามาเปิดตัวในไทยกันหมดแล้ว เช่น แอคคอร์ สตาร์วูด ไอเอชจี แมริออท ฮิลตัน และการที่แบรนด์ใหญ่เปิดตัวกันมาก ส่งผลให้นักลงทุนโรงแรมแห่งใหม่ๆ เริ่มมองหาเชนขนาดเล็กลงเป็นทางเลือกมากขึ้น บ้างก็เลือกเชนไทยที่กำลังขยายตัวรวดเร็ว เช่น เครือเซ็นทารา ไมเนอร์ โฮเทล กรุ๊ป ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล และออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป
ประเทศไทยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกมา ดัชนีหนึ่งที่ตอบได้ดีว่าไทยเป็นจุดหมายสำคัญจริงๆ คือการที่เครือบริหารโรงแรมระดับนานาชาติ (เชน) ดังๆ ต่างเข้ามาเปิดตัวในไทยกันหมดแล้ว เช่น แอคคอร์ สตาร์วูด ไอเอชจี แมริออท ฮิลตัน และการที่แบรนด์ใหญ่เปิดตัวกันมาก ส่งผลให้นักลงทุนโรงแรมแห่งใหม่ๆ เริ่มมองหาเชนขนาดเล็กลงเป็นทางเลือกมากขึ้น บ้างก็เลือกเชนไทยที่กำลังขยายตัวรวดเร็ว เช่น เครือเซ็นทารา ไมเนอร์ โฮเทล กรุ๊ป ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล และออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป
ขณะที่เชนระดับภูมิภาคจากหลายๆ ประเทศ ก็เริ่มเข้ามารุกตลาดในไทยมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะรูปแบบการจับมือกับเชนขนาดกลางและขนาดย่อมในไทยให้ขยายแฟรนไชส์แบรนด์โรงแรมในเครือทั้งหมดในไทย เปรียบเสมือนการใช้ทางด่วนช่วยให้ขยายแบรนด์ตัวเองในไทยได้เร็วขึ้น
ตัวอย่างช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ บริษัท แอ๊บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส (เอเอชเอส) ซึ่งบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์ยู โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท อีสตินโฮเต็ล แอนด์ เรสซิเดนซ์ และ อีสติน อีซี่ ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท เทรเวลอดจ์โฮเต็ลเอเชีย ตัวแทนเทรเวลอดจ์โฮเต็ล ในอเมริกา ที่ดูแลภูมิภาคเอเชีย ตั้งบริษัท เทรฟลอดจ์ (ประเทศไทย) เพื่อบริหารโรงแรมเทรเวลอดจ์ 3 ดาวในไทย
บริษัท คาสเซิล วู้ด กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ร่วมมือบริษัท เดบิวท์ โฮเต็ล กรุ๊ป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ แฮมเชียร์ โฮเต็ล แมนเนจเมนต์ บริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่มีโรงแรม 5 แบรนด์ ได้นำแบรนด์ดรีมโฮเต็ลมาขยายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 20 แห่ง ใน 10 ปีข้างหน้า แห่งแรกอยู่ในภูเก็ตภายใต้ชื่อ ดรีมภูเก็ต โฮเต็ล แอนด์ สปา
นอกจากนี้ บริษัท แมเนอร์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ ที่ขยายการลงทุนด้านโรงแรมในไทย โดยร่วมกับ อัคริณ โฮเต็ล กรุ๊ป บริษัทเชี่ยวชาญด้านบริหารบูติกโฮเต็ลหรูในไทย นำตึกเก่าย่านนิมมานเหมินท์มาพัฒนาใหม่เป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (บูติกโฮเต็ล) 5 ดาว ชื่อ อคีรา แมเนอร์ เชียงใหม่ และมีแผนลงทุนโรงแรมในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน
หลังจากนี้คงได้เห็นแนวโน้มการใช้แบรนด์โรงแรมของเชนต่างชาติขนาดกลางและขนาดย่อมในไทยเกิดขึ้นต่อเนื่องแน่นอน เพราะทุกเชนต่างจับจ้องอยากเข้ามาเปิดตัวในไทย เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก หรือจับตลาดคนในประเทศตัวเองที่นิยมเดินทางมาไทย เชนที่มีแนวโน้มเข้ามามากสุด คือ เชนในเอเชียโดยเฉพาะจีน รองลงมา คือ เชนจากยุโรป ส่วนเหตุผลที่เจ้าของโรงแรมไทยเลือกเชนเหล่านี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์เดิมๆ ขอเพียงที่พักมีดีไซน์ที่ประทับใจ มีบริการที่ดี ก็พร้อมจะไปทดสอบ
ไพสิฐ แก่นจันทน์ ที่ปรึกษาหลัก บริษัท ฮอสพิทาลิตี้ แอดไวซอรี่ เซอร์วิส บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนโรงแรม กล่าวว่า หลังจากนี้น่าจะเป็นโอกาสของเชนโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต่างชาติขยายตัวในไทยมากขึ้น เนื่องจากเชนขนาดเล็กจะมีความถนัดที่แตกต่างกัน เช่น เป็นเชนจากตะวันออกกลางก็จะถนัดในการเจาะตลาดตะวันออกกลาง เป็นเชนญี่ปุ่นก็ถนัดในการเจาะตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าของโรงแรมไทยที่ต้องการเจาะตลาดไหนเป็นพิเศษ ก็อาจจะเลือกเชนจากพื้นที่นั้นเข้ามาเพื่อช่วยให้โรงแรมทำตลาดได้ง่ายขึ้น
“เจ้าของโรงแรมจะเลือกเชนเล็กหรือใหญ่บริหาร คงต้องพิจารณาจากความสามารถเชนนั้น ประเมินว่าแบรนด์โรงแรมที่เชนนั้นมีความเหมาะสมกับโครงการที่ทำอยู่หรือไม่” ไพสิฐ กล่าว
สุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเอเชียและนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า เชนโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อมจากต่างชาติจะเข้ามาเปิดตัวในไทยมากขึ้นแน่นอน เพราะมีเจ้าของโรงแรมหน้าใหม่จำนวนมากที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการทำโรงแรมแต่มีเงินลงทุน อาจไม่สะดวกในการบริหารโรงแรมเอง ก็จะจ้างให้เชนมาดูแลให้ บางคนอาจเลือกเชนไทยด้วยกันเองมาบริหารให้ แต่บางคนก็อาจไปเลือกเชนขนาดกลางและขนาดย่อมจากต่างชาติเข้ามา ในส่วนของโรงแรมเอเชียแม้ปัจจุบันยังไม่ได้รับบริหารโรงแรมใด แต่อนาคตหากมีเจ้าของโรงแรมใดสนใจให้บริหารให้ภายใต้แบรนด์เอเชีย ก็พร้อมพิจารณารับบริหาร
สรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท โฮเต็ลสไตล์ลิช บริษัทรับบริหารโรงแรมขนาดเล็กของไทย กล่าวว่า การที่เจ้าของโรงแรมไทยดึงเชนโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อมจากต่างชาติมาบริหาร มาจาก 2 ลักษณะ คือ 1.เจ้าของโรงแรมไทยไปเลือกเชนต่างชาติขนาดเล็กๆ มาบริหารให้ เพราะไม่อยากบริหารเอง โดยจ่ายค่าบริหารตกลงกันเป็นเปอร์เซ็นต์จากกำไรที่ได้ 2.บริษัทลงทุนจากต่างชาติมองเห็นทิศทางธุรกิจโรงแรมไทยอยู่ในช่วงขาลง 10 ปี นับตั้งแต่ปีก่อน คือ มีจำนวนโรงแรมใหม่ๆ เกิดมากจนเกินความต้องการของผู้เข้าพักซึ่งโตน้อยกว่า เพราะช่วงที่ผ่านมาไทยมีปัญหาการเมือง จึงเข้ามาหาพันธมิตรลงทุนซื้อโรงแรมจากเจ้าของเดิมที่ไม่อยากทำโรงแรมต่อแล้ว จากนั้นดึงเชนโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อมจากต่างชาติมาบริหาร เพื่อให้ตัวโรงแรมดูมีราคามากขึ้น เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็พร้อมขายโรงแรมทำกำไร
แพทริค บาสเซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์โฮเทล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ไม่กังวลที่เชนโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่เข้ามาในไทย เนื่องจากแอคคอร์โฮเทลมีจุดเด่นรับบริหารโรงแรมในไทยมานาน พัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าและตลาดต่อเนื่อง มีแบรนด์โรงแรมทุกระดับตั้งแต่หรูหราถึงประหยัดให้เลือก อีกทั้งลูกค้าจดจำแบรนด์ในเครือแอคคอร์โฮเทลได้ชัดเจน อนาคตแอคคอร์โฮเทลมีแผนนำแบรนด์โนโวเทล สวีท ซึ่งเป็นแบรนด์ที่พัฒนาต่อยอดมาจากโนโวเทลเข้ามาขยายในไทย โดยโนโวเทล สวีท เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ เน้นให้บริการระดับสูง ห้องพักกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกครบจัดเป็นสัดส่วนชัดเจนสำหรับการนอน ทำงาน และพักผ่อนหย่อนใจ
จะเห็นว่าเชนเล็กและใหญ่ต่างต้องการยึดหัวหาดเมืองไทยทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของโรงแรมไทยแล้วว่าจะเลือกแบรนด์ดังอยู่แล้ว หรือจะลองท้าทายเลือกแบรนด์ใหม่มาทดสอบตลาด เพราะถึงแม้แบรนด์ใหม่แต่คุณสมบัติโดดเด่น ก็อาจกระชากใจลูกค้าดีกว่าแบรนด์เดิมๆ ที่อยู่ในไทยมานานแล้วก็เป็นไปได้


