โรตีสายไหมอยุธยา ‘เศรษฐีเรือทอง’ เรียนรู้-ทดลองตลาดกว่า 10 ปี
โรตีแป้งนุ่มๆ สายไหมที่มีสีสันสวยและกลิ่นหอมดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี ขายได้ทุกเทศกาลต่างๆ
โดย...อชัถยา ชื่นนิรันดร์
โรตีแป้งนุ่มๆ สายไหมที่มีสีสันสวยและกลิ่นหอมดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี ขายได้ทุกเทศกาลต่างๆ
นันท์นภัสปภา ลิ่วโรจน์สกุล ผู้บริหารธุรกิจโรตีสายไหมอยุธยา “เศรษฐีเรือทอง” กล่าวว่า การใช้ชื่อร้านเศรษฐีเรือทอง นั้นมาจากเรือแม่ตะเคียนทองที่นำมาบูชาและตั้งเป็นชื่อร้าน ทำให้ประสบความสำเร็จด้วยดี
“การทำธุรกิจนี้มาจากแนวคิดของคุณพ่อต้องการให้มีธุรกิจเป็นของตัวเองที่มั่นคง จึงไปศึกษาหาความรู้ด้านการทำโรตีสายไหมหลายครู รวมทั้งเรียนผิดเรียนถูก กว่าจะได้สูตรที่ลงตัวของการทำโรตีและไส้โรตีต้องทิ้งไปจำนวนมาก”
จากเดิมที่ทำกันมาเป็น 10 ปี แต่เพิ่งประสบความสำเร็จเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เริ่มการทำตลาดที่ตลาดน้ำและออกขายทั่วประเทศ ไม่มีหน้าร้าน ขายตามศูนย์การค้าใหญ่ๆ ทั่วประเทศ โดยการออกบูธในห้างนั้นๆ ตอนนี้ออกบูธพร้อมกัน 6 แห่งทั่วประเทศ เน้นศูนย์การค้าเซ็นทรัลและเมกาบางนา รวมทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ
“เราทำโรตีสายไหมขายอย่างเดียว มีสายไหมของโรตีเป็นน้ำตาลธรรมชาติ ปรุงแต่งกลิ่นวานิลลาและใบเตย ขั้นตอนการทำ เอาแป้งสาลีมานวดใส่งาดำ ใส่เกลือ นวดคลึงจนได้ที่ ใส่กลิ่นใบเตยกับวานิลลาตามที่เลือก เอาแป้งที่หมักแล้วมาแต้มบนกระทะแบนที่ใช้ทำโรตี เมื่อเอาแป้งมาแต้มจนสุกแล้วยกออกจากกระทะ เป็นแผ่นบางๆ ส่วนสายไหมโรตี ขั้นตอนการทำ เริ่มจากหัวเชื้อน้ำมันกับแป้งเอามาคนประมาณ 3 ชั่วโมง พักไว้ 1 คืน เอาน้ำตาลทรายขาวมาต้มจนเดือดได้ที่ แล้วเอามาร่อนในกะละมังสเตนเลสจนเป็นก้อนจะมีกระทะใหญ่แบบถาดเอาหัวเชื้อมาใส่ลงในถาดร่อนกับไฟเอาน้ำตาลก้อนที่ได้มาทำให้เป็นวงกลมนำมาดึงบนกระทะหัวเชื้อจนเป็นเส้นฝอย นำใส่ถุงขายราคาชุดเล็ก 60 บาท ชุดใหญ่ 80 บาท ชุด 1 กก. ราคา 180 บาท จัมโบ้ 600 บาท เพิ่มแป้งถุงละ 25 บาท” นันท์นภัสปภา เล่าถึงกรรมวิธีขั้นตอนการทำโรตีสายไหมอยุธยา เศรษฐีเรือทอง
เธอบอกว่า การทำสายไหมเดิมทำหลายรส แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่ากับรสวานิลลาและรสใบเตย จึงทำขายเพียง 2 รสนี้
“เราใช้แป้งนุ่มสดใหม่ทุกวัน ความอร่อยอยู่ที่ความหอมนุ่ม ปรุงขายให้เห็นกันในการออกบูธ มีปริมาณการใช้แป้งและน้ำตาลทรายประมาณ 20-40 กิโลกรัม/วัน ลูกค้าตอบรับดี ขายหมดทุกวัน และจากการขายสังเกตได้ว่าคนไทยและคนญี่ปุ่น ชอบโรตีสายไหมมาก กว่าคนจีนและคนยุโรป”
10 ปีที่เรียนรู้ และ 3 ปีที่พบทางที่มั่นใจ ก้าวข้างหน้าคือการขยาย พัฒนา และต่อยอดธุรกิจนี้ออกไป


