34 ปีแลคตาซอย ‘ซื่อสัตย์ จริงใจ’
อยู่ในตลาดมานานถึง 34 ปี และครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองติดต่อกันเป็นปีที่ 10 สำหรับแบรนด์แลคตาซอย ต้องยอมรับว่าไม่ธรรมดาทีเดียว และจากนี้จะเป็นอีกย่างก้าวสำคัญในการรักษาแชมป์หลังจากมีคู่แข่งหน้าใหม่โดดเข้าสู่ตลาดนมถั่วเหลืองมูลค่า 1.85 หมื่นล้านบาทมากขึ้น
อยู่ในตลาดมานานถึง 34 ปี และครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองติดต่อกันเป็นปีที่ 10 สำหรับแบรนด์แลคตาซอย ต้องยอมรับว่าไม่ธรรมดาทีเดียว และจากนี้จะเป็นอีกย่างก้าวสำคัญในการรักษาแชมป์หลังจากมีคู่แข่งหน้าใหม่โดดเข้าสู่ตลาดนมถั่วเหลืองมูลค่า 1.85 หมื่นล้านบาทมากขึ้น
กมล ลิขิตกาญจนกุล ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัท แลคตาซอย ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองแลคตาซอย เล่าว่า ในปี 2493 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกี่ยงฮั้ว เกิดขึ้นจาก วิริยะ จิรพัฒนกุล ผู้ก่อตั้ง ได้เริ่มจากการผลิตน้ำอัดลมรสส้มและกลิ่นสละ ตราแฮปปี้และดับเบิ้ลแฮปปี้ ส่งขายให้ค่ายทหารญี่ปุ่นและตลาดเยาวราชสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
จากนั้นได้ลิขสิทธิ์ให้เป็นผู้ผลิตน้ำอัดลมต่างประเทศ ตราคิกคาปู้ จากประเทศแคนาดา และตราคิงคิส ตราคอสโค จากสหรัฐอเมริกา จนเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งปี 2524 จึงเปลี่ยนมาดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตนมถั่วเหลืองยูเอชที ภายใต้เครื่องหมายการค้า แลคตาซอย และนับเป็นผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีการบรรจุผลิตภัณฑ์ในกล่องกระดาษมาใช้ และเลิกธุรกิจน้ำอัดลมในปี 2539 เพื่อบุกเบิกตลาดนมถั่วเหลืองเต็มรูปแบบ
กลยุทธ์ที่ทำให้แลคตาซอยก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในตลาดทั้งที่ต้องยอมรับว่าแบรนด์คู่แข่งก็มีความแข็งแกร่งไม่น้อย หัวใจสำคัญคือความซื่อสัตย์และจริงใจกับลูกค้า พร้อมยกตัวอย่างว่า แลคตาซอยเป็นแบรนด์เดียวที่เพิ่มปริมาณ 20% แต่จำหน่ายในราคาเดิมคือ 10 บาท เท่ากับราคาที่จำหน่ายขนาดเดิมคือ 250 มิลลิลิตร ซึ่งผ่านมานาน 17-18 ปีแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์โดยตรงจากปริมาณเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายและการบริการทั้งในส่วนของร้านค้าและลูกค้า จากทีมงานของบริษัทเอง ซึ่งถือว่ามีความได้เปรียบจากการกระจายสินค้าในรูปแบบเดิมที่ทำตลาดน้ำอัดลม ทำให้เข้าถึงช่องทางตู้แช่ในร้านค้าทั่วไปได้ครอบคลุม ผสมผสานกับการนำระบบกระจายสินค้าแบบใหม่ที่ขยายเข้าช่องทางร้านค้าสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด ทำให้แลคตาซอยสามารถเข้าถึงจุดขายได้ในทุกช่องทางจากทีมขายที่มีกว่า 1,700 ทีมทุกจังหวัดทั่วประเทศ
กลยุทธ์ด้านสินค้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยกมลเล่าว่า ที่ผ่านมาแลคตาซอยไม่เน้นการขยายไลน์สินค้าใหม่ แต่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนารสชาติที่ลูกค้าต้องการ ควบคู่กับการขยายไซส์หรือขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เช่น เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน ผู้หญิงที่มีความต้องการดื่มในปริมาณที่ต่างกัน ซึ่งถือเป็นหมัดเด็ดที่ทำให้ขึ้นเป็นผู้นำตลาดจากการออกขนาด 125 มิลลิลิตร พร้อมสโลแกน “แลคตาซอย 5 บาท” นี่เอง
เป้าหมายของแลคตาซอยจากนี้ นอกจากจะมุ่งรักษาแชมป์ในไทยแล้ว ยังปักหมุดออกไปท้ารบในอาเซียนอีกด้วย


