ทุเรียนอบแห้ง ‘วัลลญา’ ตีตลาดจีนกระจุย

โดย...ตรีนัยน์ จันทร์ศรีชล

ทุเรียนไทยนั้นได้ชื่อว่า King of Fruit แต่ทุเรียนไม่ใช่ผลไม้ที่หารับประทานได้ตลอดกันทั้งปี นานๆ จะออกมาแบบหลงฤดูกันไม่กี่ลูก ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าราคาทุเรียนหลงฤดูนั้นสูงลิ่วขนาดไหน

ดังนั้น ในช่วงที่ผลผลิตทุเรียนออกมาล้นตลาด ชาวบ้านจะมีการนำทุเรียนออกมาแปรรูปในรูปแบบต่างๆ มากมาย อาทิ การกวน การอบแห้งโรยเกลือ การทำทอฟฟี่ หรืออื่นๆ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร รสชาติของทุเรียนก็จะผิดเพี้ยนไปจากต้นแบบทางธรรมชาติเดิมๆ

ล่าสุด มีกระบวนการผลิตและถนอมอาหารแบบใหม่ล่าสุดออกมา นั่นคือระบบฟรีซ ดราย (Freeze dried) มาใช้กับทุเรียนหมอนทอง ผลที่ออกมาคือ เนื้อทุเรียนยังคงสภาพเดิมแทบทุกประการ ทั้งกลิ่นและรสชาติ แบบเดิมๆ

เรื่องนี้ได้รับความรู้จาก คุณวัลลภ คล้ายพันธ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ทุเรียนอบแห้ง ยี่ห้อวัลลญา ซึ่งถือเป็นสินค้าระดับพรีเมียมแถวหน้าของ จ.ชลบุรี และได้รับการยอมรับจากบรรดาผู้นิยมทุเรียนว่าสุดยอด

ที่สำคัญยอดขายของสินค้าตัวนี้พุ่งทะลุเป้าทุกเดือน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ถ้าเจอทุเรียนอบยี่ห้อ วัลลญา ซื้อกันแทบเหมาเข่งเหมาแผง

ย้อนไปดูเรื่องกระบวนการผลิต คุณวัลลภ บอกแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า ระบบฟรีซ ดรายเป็นการดึงเอาน้ำออกจากเนื้อทุเรียนด้วยระบบความเย็น ด้วยเครื่องแวคคั่ม สุญญากาศมูลค่า 4 ล้านบาท ทำให้เนื้อของทุเรียนคงสภาพรสชาติและกลิ่นไว้คงเดิม สิ่งที่ขาดหายไปคือน้ำในเนื้อทุเรียนเท่านั้น

เมื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ได้มาลงบรรจุในห่อสุญญากาศแล้ว สามารถเก็บไว้รับประทานในอุณหภูมิห้องปกตินานถึง 5 ปีทีเดียว เรียกว่า แค่อยากทานทุเรียน เดินไปหยิบมา ฉีกถุง รับประทานกันได้ทันที ส่วนใครมีหัวพลิกแพลงก็สามารถนำไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม ขนมปัง เวเฟอร์ หรือขนมไทยต่างๆ

ล่าสุด มีแม่ค้าหัวใสนำเนื้อทุเรียนอบแห้งวัลลญาไปแช่น้ำอุ่นจนนิ่ม นำลงไปใส่ในน้ำกะทิ เคี่ยวสักพัก ราดน้ำพร้อมเนื้อลงไปบนข้าวเหนียว ผลก็คือ ข้าวเหนียวทุเรียนดีๆ นี่เอง

สำหรับทุเรียนอบแห้งวัลลญา ปัจจุบันมีการจัดวางจำหน่ายทั่วไป มี 2 ขนาด คือ ขนาด 100 กรัม ราคา 280 บาท และขนาด 50 กรัม ราคา 150 บาท ราคาสูงมาก แต่วัลลภไขข้อข้องใจว่า เนื้อทุเรียนที่ใช้ต้องเป็นหมอนทองแท้ ที่แก่จัด และเนื้อไม่เละ เมื่อนำมาแกะเอาเฉพาะส่วนเนื้อทุเรียนสด 40 กก. หลังจากเมื่อเข้าสู่กระบวนการฟรีซ ดรายแล้ว จะเหลือเนื้อทุเรียนเพียง 10 กก.เท่านั้น หักกลบลบหนี้ ค่าแรงงาน ค่าการผลิต การจัดเก็บวัตถุดิบ และอื่นๆ ถือว่าเป็นราคาที่ถูกมาก

แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่ากับเทคโนโลยีถนอมอาหารแบบนี้ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในช่วงผลผลิตล้นตลาด