posttoday

เบอร์ลินฯมุ่งขึ้นผู้นำยาแสนล.

15 กรกฎาคม 2553

ผนึกบริษัทยามะกันกรุยทาง ตั้งเป้าลุยทั้งในต่างประเทศ

โพสต์ทูเดย์ เบอร์ลินฟาร์มาซูติคอลอินดัสตรี้ ร่วมทุนพันธมิตรสหรัฐลุยตลาดนอก พร้อมเบียดขึ้นผู้นำยาเมืองไทย

นพ.เติมชัย ไชยนุวัติ ประธานบริษัท เบอร์ลินฟาร์มาซูติคอลอินดัสตรี้ ผู้ผลิตปลอดสิทธิบัตร หรือยาสามัญ เปิดเผยว่า เพื่อขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ บริษัทจึงร่วมทุนกับบริษัท พาราไดม์ ฟาร์มา ซึ่งจดทะเบียนบริษัทและมีฐานการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมกันพัฒนายาใหม่ๆ และนำยาจากบริษัท เบอร์ลินฯ เข้าไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย จีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา และอีกหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรป

ความร่วมมือและแผนการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้สัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศของบริษัท เบอร์ลินฯ ในปัจจุบันที่ 5% ของรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 5–6 เท่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า หรือจะทำให้ยอดขายจากต่างประเทศเติบโตขึ้นเป็น 25–30%

ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทเล็งเห็นว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2556 ยาจำนวนมากที่ได้รับสิทธิบัตรจากการค้นพบและพัฒนาขึ้นในปี 2533 จะหมดอายุลง ส่งผลให้ยาเหล่านั้นสามารถนำมาผลิตและจำหน่ายภายใต้ชื่ออื่นๆ หรือชื่อที่ได้รับการยอมรับจากข้อบังคับของรัฐได้ และจะทำให้ตลาดยาในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และตลาดยาในภูมิภาคเอเชียที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวภายใน 510 ปีข้างหน้า

ปัจจุบันตลาดยาในเมืองไทยแบ่งเป็นตลาดยาที่มีสิทธิบัตร 80% และยาสามัญ หรือยาปลอดสิทธิบัตร 20% หรือมีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าภายในอีก 3–5 ปีข้างหน้า ตลาดดังกล่าวจะเติบโตขึ้นเท่าตัวหรือมีมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และจะมีผู้เล่นทั้งใหม่และเก่าเข้าทำตลาดอีกหลายราย ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดนี้เป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง

สำหรับบริษัท เบอร์ลินฯ ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตทางด้านรายได้ไว้มากกว่า 10% หรือมากกว่าตลาดรวมยาสามัญที่คาดว่าจะเติบโตสูงสุดเพียง 10% จากการเติบโตระดับปกติที่ 10–15% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจการเมืองที่ไม่ปกติ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าวราว 10% หรือยอดขายในปีที่ผ่านมาที่ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ภายในประเทศ 2,000 ล้านบาท และรายได้จากต่างประเทศ 100 ล้านบาท จากการทำตลาดยาในประเทศพม่า ลาว และฟิลิปปินส์

นายอมาล นาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบอร์ดบริหาร บริษัท เบอร์ลินฟาร์มาซูติคอลอินดัสตรี้ กล่าวว่า บริษัท เบอร์ลินฯ ถือเป็นผู้นำตลาดอันดับที่ 2 รองจากบริษัท สยามฟาร์มาซูติคอล ที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 15% ดังนั้นเมื่อบริษัทร่วมมือกับบริษัท พาราไดม์ ฟาร์มา พร้อมดำเนินการตลาดเต็มรูปแบบ การผลิตยาใหม่เข้าสู่ตลาด คาดว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดแทนอย่างแน่นอนด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 15%

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2