ปริย เตชะมวลไววิทย์ โฆษกหนุ่มแห่ง กลต. ยึดหลักรู้จริง จริงใจ

ปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการและสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือโฆษกหนุ่มคนใหม่ล่าสุดแห่ง ก.ล.ต. หลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน สื่อมวลชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนในทุกๆ ส่วน ต้องได้พบและประสานงานกับ ผอ.ปริย ใกล้ชิดมากขึ้น

ปริย ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาทำงานร่วมกับ ก.ล.ต.มาร่วม 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2538 และอาจกล่าวได้ว่าเป็นงานที่แรกหลังเรียนจบมาจาก The American University Washington D.C. ด้าน Master of Arts Applied Economics หรือจบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ ระดับปริญญาตรี เขาจบนิติศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากไม่นับช่วงเวลา 2 เดือนที่ได้ร่วมงานกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค

การทำงานที่สำนักงาน ก.ล.ต. เขาได้ไต่เต้ามาตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ฝ่ายกำกับธุรกิจหลักทรัพย์ในตำแหน่งนี้ 2 ปีเศษ หลังจากนั้นก็ทำงานในตำแหน่งเลขานุการบริหารของเลขาธิการอีก 2 ปีกว่า และย้ายไปยังตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์ ทำอยู่ 1 ปี ก่อนเปลี่ยนไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบรรษัทภิบาล และได้ขยับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเลขาธิการ ทำอยู่ 2 ปี และย้ายไปทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์และการต่างประเทศ และขึ้นเป็นผู้อำนวยการศูนย์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งทำงานในตำแหน่งนี้นานที่สุดของปริย หรือกว่า 6 ปี ก่อนจะเข้ามาทำหน้าที่ล่าสุดในปัจจุบัน

ปริย บอกว่า การได้ทำงานในหน้าที่ต่างๆ ใน ก.ล.ต.ทำให้เกิดการเรียนรู้และถือว่าเป็นความโชคดีที่ได้ทำงานร่วมกับเลขาธิการทั้ง 5 คน ซึ่งคนปัจจุบัน คือ รพี สุจริตกุล การทำงานในแต่ละยุคสมัยนั้นสามารถเรียนรู้และเลือกที่จะนำจุดเด่นของเลขาธิการแต่ละคนนำมาพัฒนาหน้าที่ในการทำงานด้านต่างๆ ได้ เพราะเลขาธิการ ก.ล.ต.เก่งทุกคนและเก่งในคนละด้าน

“การทำงานผมยึดหลักในเรื่องของการรู้จริง จริงใจ และในการทำหน้าที่โดยเฉพาะในส่วนงานต่างประเทศนั้นต้องออกไปเจรจาหรือประสานงานในองค์กรข้างนอก เช่น การไปช่วย สปป.ลาวและกัมพูชาในการพัฒนาตลาดทุนนั้น ต้องทำให้เขาได้เห็นว่าประเทศไทยเราพร้อมที่จะช่วยเหลือและทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเราจะไปเอาเปรียบ ถ้าหากทำให้เขาเห็นว่าเราจริงใจพร้อมจะช่วยเหลือ ในอนาคตเมื่อมีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาน้อยกว่าเราก็จะเป็นโอกาสของเรา ส่วนการออกไปเจรจาหรือทำงานร่วมกับองค์กรตลาดทุนที่พัฒนามากกว่าประเทศไทย ก็จะต้องทำให้เขาเห็นว่าประเทศไทยเรามีมาตรฐานเทียบระดับสากล”

สำหรับการทำหน้าที่โฆษก ก.ล.ต. ปริย บอกว่า ยังคงต้องเรียนรู้และจะต้องประสานงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร และด้วยนโยบายที่ชัดเจนของเลขาธิการ รพี ที่ให้ไว้ชัดเจนว่า “เปิดใจ รู้จริง ร่วมมือ ซื่อตรง” เพื่อทำหน้าที่ต่างๆ รวมถึงการออกกฎกติกาต่างๆ ของ ก.ล.ต. บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ส่วนของภาคธุรกิจเองก็จะเกิดความเข้าใจต่อกฎกติกาต่างๆ หากทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกัน ประสิทธิภาพต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น

มาถึงวันนี้ ปริย บอกว่า 20 ปีในองค์กร ก.ล.ต.ทำให้เป้าหมายและความฝันของชายหนุ่มเมื่ออดีตที่อยากทำงานเพื่อสาธารณะ ก็คือคำตอบในการทำงานในทุกวันนี้ แม้ครั้งแรกของการเข้ามา ก.ล.ต.จะเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่เดินเข้ามาขอซื้อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้คุณพ่อก็ตาม