ธูปหอมสมุนไพร‘มงคลนิมิตร’ จากเร่ขายกลายเป็นธุรกิจเงินล้าน
จุดธูปนั้นต้องมีควัน อาจระคายเคืองระบบทางเดินหายใจต่อผู้ที่แพ้ควันธูป
โดย...ไชยวัฒน์ สาดแย้ม
จุดธูปนั้นต้องมีควัน อาจระคายเคืองระบบทางเดินหายใจต่อผู้ที่แพ้ควันธูป ฉะนั้นธูปที่ดี ไม่เพียงแต่จะต้องไม่มีกลิ่นระคายเคืองแล้ว ยังต้องจุดติดง่าย ไม่มีกลิ่นระคายเคือง และต้องควันน้อย นี่คือจุดเด่นของธูปหอมมงคลนิมิตร ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ จากอ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
ประญัติ สมเพ็ชร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตธูปหอมมงคลนิมิตร บอกว่า ธูปหอมมงคลนิมิตรนั้นเกิดจากภูมิปัญญากับสมุนไพรที่มีมากในชุมชน เริ่มมาจากการนำสมุนไพรมาหมักเพื่อไล่แมลงในนาข้าว พืชสวน เพื่อลดเคมีและลดค่าครองชีพ หรือบางคนก็นำสมุนไพรไปสกัดเพื่อทำยาแผนโบราณ แล้วแต่ภูมิปัญญาแต่ละคน จนมาในช่วงหนึ่งกลุ่มชาวบ้านเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ จึงชักชวนกันรวมกลุ่มทำธูปหอม โดยใช้วัตถุดิบในชุมชน
“แรกๆ เมื่อผลิตได้ก็นำออกเร่ขาย ผู้ที่ซื้อไปใช้ต่างติดใจในผลิตภัณฑ์ ต่างบอกต่อและมีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นดังกล่าวจึงทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงมากขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของตลาด อีกทั้งเรายังจำหน่ายในราคาที่ไม่สูง ทำให้เริ่มแพร่หลายไปตามจังหวัดต่างๆ ในปี 2548 ต่อมาได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนธูปหอมมงคลนิมิตร ได้รับมาตรฐาน มผช. และต่อมาได้รับรางวัลชนะเลิศระดับจังหวัด” ประญัติ เล่าถึงการเกิดขึ้นของธูปหอมมงคลนิมิตร
สำหรับวัตถุดิบในการทำธูปหอมมงคลนิมิตรนั้น ประญัติ เล่าว่า ได้นำสมุนไพรที่มีมากในชุมชน เช่น ข่า ตะไคร้หอม มะกรูด ใบยูคา เปลือกส้ม ที่มีมากในชุมชนมาเป็นส่วนผสมในการผลิตเป็นธูปหอม โดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบทั้งหมดจะได้จากพืชสมุนไพรธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ จุดติดง่าย ควันน้อย ไม่แสบตา และมีหลากหลายแพ็กเกจ หลากหลายกลิ่น ให้เลือกซื้อหา
“ปัจจุบันเรามีสมาชิกกลุ่มจำนวนมากพอสมควร มีการวางเครือข่ายกระจายสถานที่ผลิตไปในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ สมาชิกแต่ละคนจะมีรายได้เป็นรายได้หลักไปแล้ว คือไม่ใช่เป็นรายได้เสริมอีกต่อไป เพราะแต่ละคนจะมีรายได้จากการผลิตธูปเดือนละกว่า 1 หมื่นบาทขึ้นไป โดยปัจจุบันนี้ธูปหอมมงคลนิมิตร มียอดจำหน่ายเดือนละหลายล้านบาท
ประญัติ บอกว่า สำหรับการตลาดนั้น จะทำการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามงานต่างๆ เช่น งานโอท็อป และสิ่งที่ทำให้เติบโตได้เป็นอย่างดี นั่นคือการควบคุมคุณภาพ ทำให้ผู้ใช้มีการบอกต่อ ปัจจุบันสินค้ากระจายไปตามร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศ แทบจะมีจำหน่ายในทุกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา


