เจริญลั่นลุยเกษตรชนซีพี
เจ้าพ่อน้ำเมา “เจริญ” ลุยธุรกิจเกษตรชนซีพี ด้วยวิชัน “เสาหลักวงการเกษตรไทย” พัฒนาส่าเหล้าเป็นธุรกิจปุ๋ย
เจ้าพ่อน้ำเมา “เจริญ” ลุยธุรกิจเกษตรชนซีพี ด้วยวิชัน “เสาหลักวงการเกษตรไทย” พัฒนาส่าเหล้าเป็นธุรกิจปุ๋ย
นายวุฒิพงษ์ หวังสันติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์ ผู้ผลิตและทำตลาดปุ๋ยตรามงกุฎ เครือพรรณธิอร กลุ่มธุรกิจการเกษตรในเครือทีซีซีของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า นายเจริญในฐานะประธานเครือทีซีซี กรุ๊ป ประกาศวิสัยทัศน์ธุรกิจเกษตรภายใต้ปรัชญา “เสาหลักวงการเกษตรไทย” เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทย ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่า (แลนด์แบงก์) ทั่วประเทศกว่า 2 แสนไร่ แบ่งเป็น 5 หมื่นไร่ พัฒนาเป็นแปลงเกษตรสมัยใหม่ อาทิ ไร่อ้อย สวนปาล์ม และสวนส้ม ซึ่งใช้ปุ๋ยเคมีมีมาตรฐาน
ทั้งนี้ ในปี 2552 บริษัทได้เริ่มทำตลาดจริงจัง พร้อมก่อตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยปั้นเม็ดหรือปุ๋ยเคมี “ตรามงกุฎ” พื้นที่ 150 ไร่ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังผลิตปุ๋ย 2.5 แสนตันต่อปี สามารถขยายกำลังผลิตได้ 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งปีนี้บริษัทได้ลดยอดการผลิตลงอยู่ที่ 1.3 แสนตันต่อปี จากเดิมวางไว้ที่ 1.5 แสนตันต่อปี เป็นผลจากภาวะภัยแล้งช่วงที่ผ่านมากระทบพื้นที่เกษตร ทำให้เกษตรกรต้องการปุ๋ยลดลงเช่นกัน ซึ่งแผนเดิมหากบริษัทผลิตปุ๋ยเพิ่มเป็น 2.5 แสนตันต่อปี ในปี 2554 บริษัทเตรียมลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานแห่งที่ 2 ในพื้นที่เดียวกันต้นปี 2555
สำหรับการรุกธุรกิจปุ๋ยตรามงกุฎของบริษัท เพื่อเพิ่มมาตรฐานสินค้าปุ๋ยของไทยและป้อนไปสู่ภาคเกษตรกรไทยให้พัฒนาผลผลิตทางเกษตรที่มีคุณภาพ บริษัทยังได้ต่อยอดไปสู่สินค้าเกษตรที่มีอยู่ เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากกากน้ำตาล (โมลาส) หรือส่าเหล้า ที่จะมาจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในโรงงานสุรากลั่นของบริษัทในเครือทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ รวมถึงนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ร่วมกับแปลงเกษตรของบริษัท เช่น เทคโนโลยีน้ำหยด เพื่อเพิ่มผลผลิตมวลรวมภายในประเทศและใช้เป็นโครงการต้นแบบให้เกษตรไทย
ขณะที่ราคาปุ๋ย มีแนวโน้มปรับขึ้นเล็กน้อยปัจจุบัน หลังจากต้นปีที่ผ่านมาราคาปรับตัวต่ำสุดไปแล้ว คาดปุ๋ยสิ้นปีราคา 300 เหรียญสหรัฐต่อตัน นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ตลาดรวมปุ๋ยทุกประเภทคาดมีมูลค่ารวม 3.5-4 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มเจียไต๋มีส่วนแบ่งอันดับแรก 25% รองลงมาเป็นกลุ่มไทยเซ็นทรัล เคมี 20% ส่วนบริษัทตั้งเป้าสิ้นปีมีส่วนแบ่ง 8% หรือขาย 700 ล้านบาท โตขึ้น 5 เท่า


