เจเคซี ไบค์ฯ ผลิตจักรยานแห่งแรกในไทย

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

จากความนิยมขี่รถจักรยานทั้งเพื่อสุขภาพและรักษ์โลก ซึ่งเป็นกระแสที่มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสร้างโอกาสในการทำตลาดได้ทั้งผู้เล่นรายใหม่ และรายเก่าในอุตสาหกรรมรถจักรยานสองล้อในบ้านเรา ซึ่งยังขยายไปยังธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมาก สมเกียรติ อนันต์สรรักษ์ วัย 55 ปี ในฐานะรุ่น 2 ผู้บริหาร เจเคซี ไบค์อินดัสตรี้ โรงงานผู้ผลิตรถจักรยานแห่งแรกในไทย เล่าจุดตั้งต้นกิจการที่เริ่มจากยุคคุณพ่อ เมื่อราว 55 ปีก่อนได้เข้ามาบุกเบิกโรงงานผลิตจักรยานในไทยเป็นรายแรก ด้วยการนำจักรยานจากเวียดนามซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ในสมัยนั้น มาถอดชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อเป็นต้นแบบในการผลิต และประกอบรถจักรยานเพื่อทำตลาดในไทยพร้อมติดยี่ห้อ นิวไลออน สแตนดาร์ด ฯลฯ ซึ่งเป็นยี่ห้อรถจักรยานที่รู้จักกันดีเมื่อหลายสิบปีก่อน

โดยเฉพาะรถจักรยานกุญแจคอ หรือรถจักรยาน 28 รุ่นท้ายคู่รถรุ่นท่าเรือ ที่เป็นขวัญใจของเหล่าผู้ใช้แรงงานขนบรรทุกสินค้า หรือน้ำแข็งในตลาดสดยุคนั้น ซึ่งจากความชำนาญในการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานนี่เอง ยังต่อยอดไปสู่การผลิตรถจักรยานเพื่อการบรรทุก หรือรถซาเล้งได้เป็นรายแรกอีกเช่นกัน โดยในช่วงสมัยก่อนนั้นมักจะใช้รถซาเล้งเพื่อขนส่งน้ำแข็ง เตาถ่านหุงต้ม เป็นต้น ซึ่งเป็นภาพที่เห็นได้ยากแล้วในปัจจุบัน

ส่วนการเข้ามาดูแลกิจการโรงงานจักรยานของสมเกียรติ เริ่มตั้งแต่ช่วงที่จบการศึกษาระดับประโยคมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี หรือ ม.ศ.3 ในยุคนั้น แล้วต้องสลับเรียนต่อในระดับ ม.ศ.4 และ ม.ศ.5 กับพี่ชายในช่วงเช้าและบ่าย เพื่อให้คุณพ่อเห็นว่ามีลูกทำงานอยู่ในโรงงานตลอดเวลาในแต่ละวัน ด้วยความที่เป็นลูกหลานคนจีนที่เมื่อกิจการในครอบครัวกำลังขยายตัว คุณพ่อก็อยากให้ลูกๆ มาช่วยงานมากกว่าออกไปเรียนหนังสือ

จากการที่ต้องขลุกอยู่ในโรงงานรถจักรยานมาตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้มีความคุ้นเคยกับส่วนประกอบของรถจักรยานในทุกชิ้น ที่สามารถถอด ประกอบ และสร้างรถจักรยานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์สำคัญในเวลาต่อมาเมื่อเข้ามารับช่วงบริหารกิจการต่อจากคุณพ่อ โดยเฉพาะการพัฒนาจักรยานรุ่นใหม่ๆ ตามสมัยนิยม อย่าง เสือหมอบ เสือภูเขา ทัวร์ริง ฟิกซ์เกียร์ ไปจนถึงการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตรถจักรยานนวัตกรรมได้ตามต้นแบบที่มีผู้สั่งผลิต เช่น จักรยานที่ผลิตขึ้นจากเฟรมไม้ไผ่ ที่ได้รับรางวัลด้านการออกแบบด้วย

ปัจจุบันโรงงานสามารถผลิตรถจักรยานได้ทุกขนาด และประเภท ตั้งแต่วงล้อขนาด 12 นิ้วไปจนถึง 28 นิ้ว โดยผลิตทั้งยี่ห้อสินค้าของตัวเอง อย่างไอโคนิค (Iconic) และอื่นๆ ทำตลาดค้าปลีกไปจนถึงรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ติดยี่ห้ออื่นจากผู้ว่าจ้าง และล่าสุดโรงงานมองเห็นโอกาสใหม่ในการทำตลาดรถจักรยานในบ้านเรา จากกระแสความนิยมขับขี่จักรยานทั้งเพื่อสุขภาพและรักษ์โลก จึงมีแนวคิดทำตลาดรถจักรยานในรูปแบบสินค้าพรีเมียมหรือจักรยานองค์กร ที่มีการทำกิจกรรมซีเอสอาร์ โดยนำรถจักรยานไปบริจาคยังสถานที่ หรือแหล่งชุมชนในท้องถิ่นต่างๆ ที่มีความต้องการใช้จักรยาน เป็นต้น

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เริ่มมีการใช้รถจักรยานเพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้ามากขึ้น อย่างมีลูกค้าในสิงคโปร์ มาให้โรงงานผลิตจักรยานปั่นน้ำผลไม้ ที่ออกแบบมาให้มีล้อหน้าใหญ่ แต่ตัวจักรยานจะตั้งอยู่กับที่ แล้วให้ลูกค้าที่มาใช้บริการซื้อเครื่องดื่ม ได้ออกแรงปั่นจักรยานแล้วก็จะได้เครื่องดื่มน้ำผลไม้ออกมา ยิ่งปั่นเร็วเท่าไหร่ ก็บดน้ำแข็งได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นสีสันใหม่ในการทำตลาด ที่ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าในมาเลเซีย และลาว สั่งเข้ามาแล้ว

พร้อมกันนี้ ในโอกาสของกิจกรรมถวายความจงรักภักดี ตามโครงการ Bike for Mom หรือปั่นเพื่อแม่ ทางโรงงานได้ออกแบบและผลิตจักรยาน 2 ล้อ รุ่น ลิมิเต็ด-ปั่นเพื่อแม่ หรือ Bike for Mom โดย ใช้อะไหล่คุณภาพเพื่อการผลิต และจำหน่ายในราคาพิเศษ พร้อมเสื้อปั่นเพื่อแม่ สีฟ้าสดใส เพื่อให้พร้อมปั่นได้ทันที ในราคาเพียง 2,999 บาท โดยรายได้จะนำไปจัดสรรเป็นทุนในโครงการ “จักรยานมือ 2 เพื่อน้อง” ต่อไปด้วย

จากแผนธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการทำตลาด และการปรับตัวของธุรกิจครั้งใหญ่เช่นกันด้วยต้องยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศมีความซบเชา ซึ่งเป็นปัจจัยลบของผู้ทำธุรกิจ ซึ่งหากจะยังรอลูกค้าเก่าๆ เพื่อส่งสินค้าอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องมองหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีอย่างสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มาใช้ให้เป็นประโยชน์