เชียร์หุ้น พลังงานทดแทน
โดย...บล.ธนชาต-กรุงศรี
โดย...บล.ธนชาต-กรุงศรี
ประมูลแบบมาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Feed-In-Tariff : FIT) ภายใต้ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ครั้งแรกออกมาแล้ว และจะประกาศผู้ชนะในเดือน ธ.ค. 2558 และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (PPA) ในไตรมาส 2 ปี 2559 นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต ยังแนะนำหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA)
คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (ERC) ได้ประกาศประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบ FIT กำลังการผลิตราว 280 เมกะวัตต์ ภายใต้ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ผู้ประมูลที่เสนอราคาต่ำสุดจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะค่าไฟฟ้าสูงสุดสำหรับการประมูลแบบ FITF
วันที่ 19-30 ต.ค.นี้ จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าประมูลในเดือน พ.ย. และผู้ชนะรอบสุดท้ายในเดือน ธ.ค. โดยผู้ชนะจะได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในไตรมาส 2 ปี 2559 และดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2560
อัตราค่าไฟฟ้า FIT ประกอบด้วย FIT Fixed Rate (FITF) และ FIT Variable (FITV) ที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ผู้ชนะคือผู้ที่เสนอ FITF ต่ำสุด ขณะที่จะได้ FITV ตามปกติ
การประกาศการประมูลครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นพลังงานทดแทนที่วิเคราะห์ เนื่องจากไม่มีบริษัทไหนที่คาดว่าจะเข้าร่วมการประมูลรอบนี้ซึ่งเน้นไปที่พลังงานมวลชีวภาพและก๊าซชีวภาพ
การประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบ FIT ภายใต้โครงการ VSPP เป็นหนึ่งในสี่โครงการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีเป้าหมายที่จะผลักดันภายใน 6 เดือนข้างหน้า หลังจากจัดการกับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่เหลือแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.ปีนี้
ในความเป็นจริง หุ้น บล.ธนชาต วิเคราะห์กำลังมองหาโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตในโครงการที่เหลือ โดยโครงการที่เหลือ ได้แก่
1.โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 800 เมกะวัตต์ จากหน่วยงานราชการและสหกรณ์
2.การประกาศอัตราค่าไฟฟ้า FIT สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนภายใต้ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP ขนาด > 10-90 เมกะวัตต์) และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในอีก 12 เดือนหลังจากประกาศ
3. 1 หรือ 2 โครงการโซลาร์รูฟบนหลังคาบ้านนําร่อง รัฐบาลมีจุดมุ่งหมายดำเนินโครงการโซลาร์รูฟสำหรับการติดตั้งเพื่อใช้ในครัวเรือนในอนาคต
EA ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไทย การลดลงของราคาหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อด้วย มีโอกาสปรับขึ้น 40% จากราคาเป้าหมาย ในแง่ของ Valuation EA ซื้อขายที่มีอัตราการเติบโต 0.2 เท่า(2557-2560) ด้วยกำไรที่เติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ 69% นอกจากนี้ บริษัทยังให้ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (อาร์โออี) สูงสุดที่ 40% ขึ้นไป และเชื่อว่าหากมีการประมูล FIT ภายใต้โครงการ SPP สำหรับพลังงานลม EA จะเข้าร่วมประมูล
บล.กรุงศรี คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/2558 ของ EA จะโตถึง 53% จากไตรมาสแรกปี 2558 โดยอยู่ที่ 884 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มไตรมาสของโซลาร์ฟาร์มแห่งที่สาม (90 เมกะวัตต์) ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในวันที่ 17 ก.พ. 2558 โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกจะมีสาเหตุสำคัญมาจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 56% เป็น 119 ล้านหน่วย จากแค่ 76 ล้านหน่วย ในไตรมาส 1/2558
ทั้งนี้ EA ใช้เทคโนโลยี Solar Tracker กับโซลาร์ฟาร์มแห่งที่สาม ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าโครงการที่สอง ซึ่งมีกำลังการผลิตเท่ากัน แต่ไม่ได้ใช้ Solar Tracker ถึง 23%
บล.กรุงศรี คาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งแรกของปีนี้ จะคิดเป็นสัดส่วน 47% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 3,100 ล้านบาท คาดว่ารายได้จากไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“คาดว่ารายได้จากธุรกิจไบโอดีเซลในไตรมาส 2/2558 จะเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสแรกเป็น 1,300 ล้านบาท โดยทางรัฐบาลได้เพิ่มสัดส่วนของไบโอดีเซลที่ใช้ผสมกับน้ำมันดีเซลจาก 3.5% เป็น 7% ตั้งแต่เดือน เม.ย. ซึ่งส่งผลให้ปริมาณยอดขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสแรก เป็น 45 ล้านลิตร แต่รายได้จากธุรกิจไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เพราะราคาขายไบโอดีเซลลดลงเหลือแค่ลิตรละ 26 บาท จากลิตรละ 33 บาท ในไตรมาส 1/2558”


