posttoday

ปลดล็อกรถคันแรก ปลุกดีมานด์ใหม่ได้จริงหรือ

27 กรกฎาคม 2558

การปรับเงื่อนไขของโครงการรถคันแรก เพื่อหวังให้เกิดการปลดหนี้ รวมทั้งเกิดกำลังซื้อรถรอบใหม่

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

นับเป็นข่าวดีที่ข้อเสนอของผู้ประกอบการรถยนต์ ในการขอปลดล็อกโครงการคืนภาษีรถคันแรก โดยการขอลดระยะเวลาถือครองตามกำหนดจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี ได้รับการตอบรับในหลักการจาก สมหมาย ภาษี รมว.คลัง เพื่อนำไปสู่การปรับเงื่อนไขต่างๆ ในรายละเอียดอีกครั้ง

การปรับเงื่อนไขของโครงการรถคันแรก เพื่อหวังให้เกิดการปลดหนี้ รวมทั้งเกิดกำลังซื้อรถรอบใหม่ในตลาดรถยนต์ที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นได้อย่างที่คาดหวังหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องมองกันอย่างรอบด้านถึงผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้น

เพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวว่า หากมีการแก้เงื่อนไขการถือครองรถยนต์โดยห้ามโอนก่อนเวลา 5 ปี เหลือ 3 ปี จะช่วยลดปัญหาภาระหนี้ให้กับผู้ที่ไม่ต้องการผ่อนต่อและพร้อมจะขายรถออกไปเพื่อปลดภาระหนี้จากการผ่อนรถ ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าจะมีเจ้าของรถจำนวนหนึ่งที่อยากเปลี่ยนรถคันใหม่ ซึ่งแนวทางการผ่อนปรนดังกล่าวจะส่งผลให้มีการใช้จ่ายซื้อรถยนต์คันใหม่ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้

"การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว ถือเป็นการช่วยให้ปัญหาต่างๆ สิ้นสุดเร็วขึ้น แม้จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุก็ตาม แต่มองว่าจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสียที่จะเกิดขึ้น" เพียงใจ กล่าว

เช่นเดียวกับ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองประธานกรรมการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ที่เห็นตรงกันว่า หากมีการลดเวลาการถือครองรถเหลือ 3 ปี จะส่งผลให้ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีความต้องการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดบรรยากาศการจับจ่ายที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ซื้อรถคันแรกไม่สามารถเปลี่ยนรถได้ เพราะติดเงื่อนไขการถือครอง

"เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่างแน่นอน ขอแค่จำนวน 10% ของผู้ที่เข้าร่วมโครงการที่มีจำนวน 1.3 ล้านราย ก็ทำให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นได้แล้ว" พงษ์ศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ วัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า หากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เห็นด้วยกับการผ่อนปรนเงื่อนไขบริษัทก็เห็นด้วยเช่นกัน และเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องมีการพิจารณาไตร่ตรองก่อนการประกาศอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์

สำหรับตลาดรถมือสองที่จะเป็นตลาดรองรับการขายจากโครงการรถคันแรก หลังจากที่ตลาดนี้เหือดแห้งมานานก็น่าจะมีรถกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้น 

"ตลาดรถยนต์มือสองจะกระเตื้องขึ้น เนื่องจากมีปริมาณรถยนต์คันแรกที่เริ่มครบอายุ 3 ปี ที่อาจเข้าสู่ตลาดรถยนต์มือสองได้ถึง 2.2 แสนคัน จะช่วยทำให้ตลาดมีสินค้าให้เลือกมากขึ้น เพิ่มความคึกคัก จากปัจจุบันมีรถยนต์เล็กในกลุ่มอีโคคาร์เข้าสู่ตลาดรถมือสองน้อยมาก เพราะติดเกณฑ์รถคันแรก" สมชาย ตระกูลภิรมย์ ผู้จัดการทั่วไป มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ ผู้จำหน่ายรถยนต์มือสอง กล่าว

ในกรณีที่ไม่มีการปลดล็อกหลังเกณฑ์รถคันแรก คาดว่าทั้งปีนี้ตลาดรถยนต์มือสองจะทรงตัว โดยมียอดรวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 1.85 ล้านคัน ขณะที่ครึ่งปีแรกมียอดขายรถยนต์มือสองแล้วประมาณ 9.63 แสนคัน

ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ให้ความเห็นว่า หากมีการผ่อนผันให้ผู้ที่ซื้อรถคันแรกสามารถขายหรือโอนได้ก่อนระยะเวลาตามกำหนดจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี จะสามารถช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์มือสองให้ฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถมือสองชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในระดับ 20-30% เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่หมุนเวียนเข้าสู่ตลาดน้อยลง เพราะติดเงื่อนไขดังกล่าว

“การผ่อนปรนให้สามารถโอนหรือขายรถได้หลังจาก 3 ปี จะทำให้รถประเภทอีโคคาร์และรถยนต์นั่งขนาดเล็กไหลเข้าสู่ตลาด และสร้างความคึกคัก สร้างการหมุนเวียนของเงินในระบบ เพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ หรือรถยนต์มือสองขนาดใหญ่ขึ้นได้”แหล่งข่าวเปิดเผย

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อกลับเห็นว่า การผ่อนปรนเงื่อนไขรถคันแรก อาจจะไม่ได้สร้างประโยชน์ได้จริงก็เป็นได้

อนุชาติ ดีประเสริฐ ประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย กล่าวในกรณีนี้ว่า หากมองอีกมุมหนึ่งก็ยังไม่มีอะไรที่มารับประกันได้ว่า เมื่อมีการขายรถคันแรกออกไปแล้วจะมีการซื้อรถใหม่แทน ลูกค้าจะมีกำลังซื้อกลับมาจริงหรือไม่ เพราะภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้อยู่ในช่วงเหตุการณ์ไม่ปกติ คนอาจจะกลัวไม่อยากมีหนี้สินเพิ่มก็ได้

เรื่องนี้จะกระตุ้นกำลังซื้อให้เพิ่มขึ้นหรือเปล่า ทางสมาคมก็ยังไม่สามารถประเมินผลได้  เพราะอาจมีเพียงลูกค้ารถคันแรกส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะขายรถเก่าทิ้งแล้วหันไปซื้อรถใหม่ ลูกค้าอีกส่วนอาจขายรถทิ้งแล้วเก็บเงินสดไว้ใช้เมื่อจำเป็นก็ได้ จึงเท่ากับว่าการปลดล็อกเงื่อนไขรถคันแรกไม่ได้ทำให้เกิดการกระตุ้นตลาดซื้อรถยนต์

"นอกจากนี้ สิ่งที่น่าห่วงอีกอย่างหนึ่งและอาจทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์บิดเบี้ยวขึ้นมาได้อีก  เมื่อมีการขายรถคันแรกออกมาพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมาก จะทำให้ราคารถมือสองก็ตกลงไปอีก คนที่ต้องการขายรถเพื่อซื้อรถใหม่ หากเห็นราคารถมือสองตกลงไปมากๆ ก็อาจไม่ขายรถเพื่อเปลี่ยนคันใหม่ยอมใช้รถเก่าไปก่อนจนกว่าราคาจะปรับขึ้นมาอีก แล้วค่อยขายเพื่อเปลี่ยนรถใหม่ ทำให้ลูกค้าที่จะซื้อรถใหม่ในส่วนนี้หายไปได้อีก" อนุชาติ กล่าวในที่สุด

การแก้ไขหลักเกณฑ์รถคันแรกคงจะต้องนำเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ไปชั่งน้ำหนักก่อนว่า ทำไปแล้วจะเกิดผลกระทบด้านบวก ด้านลบอย่างไร และตัดสินใจโดยมีประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง