posttoday

ทศวรรษ2โรงเบียร์เยอรมันฯ ปักธง5สาขารอบกรุง

22 กรกฎาคม 2558

โดย...วันเพ็ญ พุทธานนท์

โดย...วันเพ็ญ พุทธานนท์

เปิดให้บริการมาครบ 16 ปีสำหรับโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จากปัจจุบันมี 2 สาขา ที่พระราม 3 และรามอินทรา พร้อมเตรียมเปิดสาขาที่ 3 บนถนนแจ้งวัฒนะ ในวันที่ 7 ส.ค. 2558 และถือว่าเป็นการย่างก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ที่ตั้งเป้าจะเปิดสาขาครบ 5 สาขา ปักหมุดครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายใน 4-5 ปีนับจากนี้

สุพจน์ ธีระวัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง 1999 เปิดเผยว่า เป้าหมายของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงใน 5 ปีจากนี้ จะมีสาขาให้บริการครบ 5 สาขา โดยอีก 2 สาขาที่จะเปิดเพิ่มอยู่ระหว่างการพิจารณาทำเลบนถนนศรีนครินทร์และบางแค เนื่องจากมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพเติบโตและกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อ

“โรงเบียร์สาขาแรกบนถนนพระราม 3 เปิดในปี 2542 ตามด้วยสาขารามอินทราปี 2548 จากนั้นเราใช้เวลาถึง 10 ปีในการเปิดสาขา 3 ที่แจ้งวัฒนะ หลังจากมองทำเลนี้มานานถึง 4 ปี แต่เพิ่งได้พื้นที่ที่เหมาะสม เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการเปิดโรงเบียร์คือทำเล ที่ต้องเป็นพื้นที่ว่าง เพื่อให้สามารถสร้างอาคารใหม่ที่มีฟังก์ชั่นพร้อม” สุพจน์ กล่าว

จากการดำเนินงานตลอด 16 ปี จนถึงปัจจุบัน โรงเบียร์ 2 สาขา สร้างรายได้ปีละประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนสาขาที่ 3 ที่ใช้เงินลงทุนถึง 200 ล้านบาท คาดว่าหลังเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.นี้ จนถึง
สิ้นปีจะสร้างรายได้ 100 ล้านบาท และเมื่อเปิดให้บริการเต็มปี จะมีรายได้ปีละ 300 ล้านบาท นั่นหมายความว่าในปี 2559 รายได้รวมของโรงเบียร์เป็นไปได้ที่จะแตะ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากสามารถเปิดให้บริการได้ครบ 5 สาขา ตามแผนงานที่วางไว้ สุพจน์ยังมองว่าจะส่งผลให้รายได้ของโรงเบียร์มีโอกาสแตะ 1,500 ล้านบาท ภายใน 5 ปีนับจากนี้ ซึ่งมองว่ามีความเป็นไปได้

สำหรับสาขาถนนแจ้งวัฒนะตัวอาคารมีพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ใช้เวลาก่อสร้างราว 7 เดือน ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ 250 คัน และมีชั้นใต้ดินสำหรับจอดรถอีก 100 คัน ส่วนบรรยากาศและการตกแต่งภายในเน้นยกระดับความหรูหราให้เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BoutiqueIndustrial Design” จุคนได้ถึง 1,200 ที่นั่ง โดยจะมีห้องที่รองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 20-200 คนด้วย คาดใช้เวลา 3 ปีคืนทุน

“ธุรกิจโรงเบียร์มีการเติบโตขึ้นทุกปี มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นทั้งในลักษณะสังสรรค์กับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนฝูง รวมถึงการจัดเลี้ยง แม้ขณะนี้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่เชื่อว่าการเปิดโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงสาขาแจ้งวัฒนะจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของโรงเบียร์ไม่ใช่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยตรง”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่สำหรับธุรกิจโรงเบียร์แล้ว ปัจจัยลบทางการเมืองมีผลกระทบมากกว่าปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ เห็นได้จากช่วงเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของโรงเบียร์อย่างเห็นได้ชัด หรือกล่าวได้ว่าเติบโตน้อยมาก จากปกติเติบโตปีละกว่า 10% แต่เมื่อการเมืองเริ่มคลี่คลาย ธุรกิจโรงเบียร์ปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 15%

“เศรษฐกิจไม่ดีแต่คนก็ยังต้องการผ่อนคลาย ต้องการสังสรรค์ แม้ว่าอาจจะใช้จ่ายต่อครั้งลดลง แต่โรงเบียร์โชคดีที่มีลูกค้าประจำเข้ามาใช้บริการ ผมเชื่อว่าถ้าสังคมมีอารมณ์ที่ดี ธุรกิจก็ยังโตได้ แต่ถ้าสังคมเครียดจะกระทบธุรกิจโรงเบียร์แน่นอน”

นอกจากการขยายธุรกิจโรงเบียร์ในประเทศไทยแล้ว ยังมองถึงการขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มขึ้นควบคู่กัน จากปัจจุบันมีสาขาในพนมเปญ ประเทศกัมพูชาและสิงคโปร์แล้ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ร่วมทุนในประเทศพม่า ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ภายในปี 2559 โดยปัจจุบันสาขาในพนมเปญสร้างรายได้ปีละ 10 ล้านบาท และสิงคโปร์ 20 ล้านบาท

การขยายสาขาในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านนั้นสุพจน์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้าไปขยายตลาดและสร้างฐานตลาดของบริษัท คาราบาวกรุ๊ป ที่เข้าไปทำตลาดเครื่องดื่มคาราบาวแดงจนเป็นที่รู้จัก และต่อยอดมาสู่การมองหาพันธมิตรทำธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงในพนมเปญ ซึ่งในพม่าก็จะเป็นลักษณะการร่วมทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่นเช่นกัน

อีกโมเดลสำคัญที่บริษัทจะขยายเพิ่มในอนาคต คือ การทำธุรกิจร้านอาหารตะวันแดง ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียในรูปแบบร้านอาหารไทย ซึ่งจะใช้โมเดลดังกล่าวสำหรับขยายธุรกิจร้านอาหารไทยในอนาคต ซึ่งมองว่ามีโอกาสที่จะขยายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันอาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อีกทั้งเป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อยกว่าโรงเบียร์ จึงมีโอกาสขยายได้รวดเร็วกว่า แต่สิ่งสำคัญที่เหมือนกัน คือ ต้องมีทำเลที่เหมาะสม

การดำเนินธุรกิจมาตลอด 16 ปี และพร้อมจะก้าวย่างสู่ทศวรรษที่ 2 ในอีก 4 ปีจากนี้ สุพจน์ กล่าวว่า สิ่งที่ได้คือองค์ความรู้จากการดำเนินธุรกิจที่มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว ซึ่งจะนำมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับใช้กับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะการปลุกปั้นโรงเบียร์สาขา 3 บนถนนแจ้งวัฒนะให้แจ้งเกิดภายใน 6 เดือน

“แม้วันนี้จะมีโรงเบียร์เปิดมากมาย แต่เราเชื่อมั่นว่าเราคือต้นแบบ และเราคือตำนาน” สุพจน์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025