ยุคดิจิตอล อนาคตสื่อ-โฆษณา
แนวโน้มการเกิดขึ้นของสื่อดิจิตอลมีมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่โลกของอินเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายมากขึ้น จนหลายๆ คนมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง หรือเลือกบริโภคข่าวสารจากสื่อทางเลือกที่ทรงอิทธิพลนี้เป็นหลัก นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าของสื่อประเภทต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์เล็งเห็นว่า หนทางที่สดใสกว่าคือการก้าวเข้าสู่โลกดิจิตอล
ผนวกกับมาถึงของอุปกรณ์รองรับรูปแบบการบริโภคสื่อใหม่ๆ เช่น สมาร์ตโฟน แทบเล็ตพีซี อีรีดเดอร์ โดยเฉพาะการเปิดตัวของ ไอแพด จากค่ายแอปเปิล ทำให้ผู้พัฒนาค่ายอื่นๆ เริ่มวางตลาดอุปกรณ์เหล่านี้ในเวลาใกล้เคียงกัน สิ่งที่ต้องมาคู่กันคือ คอนเทนต์ ที่ต้องตอบสนองความรู้สึกของผู้ใช้มากขึ้นด้วย แม้ว่าคนไทยจะยังได้สัมผัส แต่การโหมตลาดจากต่างประเทศก็ส่งผลมาถึงแล้ว
เจนี่ ลิม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท อะโดบีซิสเต็มส์ เปิดเผยว่า ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์จะอยู่รอดได้และแข่งขันได้ต้องมุ่งมาที่ดิจิตอลเท่านั้น แต่ก็มีปัจจัยที่จะเสริมให้ตลาดเกิดขึ้นด้วย ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ต้องมีเพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งสำหรับสื่อในและนอกประเทศ
ในมุมของโฆษณาก็สามารถทำได้หลากหลายมากขึ้นบนสื่อดิจิตอล นั่นคือสามารถเพิ่มวิดีโอ แอนิเมชัน หรือไฟล์เสียงประกอบภาพ สร้างประสบการณ์ร่วมของผู้บริโภค หรือการสร้างวัตถุ 360 องศาเช่น โฆษณารถยนต์ที่ผู้อ่านสามารถคลิกหมุนรถยนต์ดูได้ทุกมุม ซูมเข้าออกได้ ชี้เป้าไปที่ส่วนต่างๆ ของรถยนต์ก็มีรายละเอียด และสามารถคลิกเพื่อเชื่อมต่อไปเว็บไซต์หลักของสินค้าได้ ทำให้โฆษณาเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ทั้งหมดเป็นกระบวนการสร้างคอนเทนต์และประสบการณ์
อีกส่วนที่กระตุ้นการเกิดของสื่อดิจิตอลคือ ระบบคลาวด์คอมพิวติง ที่เปิดโอกาสให้การใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ง่ายขึ้นผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ตโฟน โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์พกพาอื่นๆ รวมถึงการที่โซเชียล เน็ตเวิร์ก เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการบริโภคคอนเทนต์ออนไลน์มากขึ้นด้วย
"ในสิงคโปร์ อะโดบี ร่วมกับมหาวิทยาลัย เสนอแทบเล็ตให้นักเรียนใช้ ทำให้การใช้งานสื่อดิจิตอลแพร่หลายมากขึ้น หรือในนิวซีแลนด์ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้นักเรียนได้ใช้เน็ตบุ๊กที่มีซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์และได้อ่านสื่อดิจิตอล แสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจจากผู้บริหาร ก็มีส่วนกระตุ้นให้สื่อดิจิตอลเกิดเร็วขึ้น" นางลิม กล่าวขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่ายังมีปัจจัยที่ไม่ชัดเจนในเวลานี้คือ คนทั่วไปเชื่อว่า
“สื่อออนไลน์เป็นของฟรี” คำถามที่ตามมาคือ จะสร้างรายได้จากสื่อดิจิตอลเหล่านี้ได้อย่างไร และกลายเป็นอุปสรรคของสื่อดิจิตอลในช่วงที่ผ่านมาซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายโมเดลออกมา เช่น นิวยอร์กไทม์เปิดให้อ่านหน้าแรกฟรี จากนั้นจะเก็บเงินค่าเข้าอ่านในหน้าต่อๆ ไป เท่ากับว่าต้องนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจพอจะให้ผู้อ่านยอมเสียเงินเข้าไปอ่านต่อ หรือ นิตยสารไวรด์ (Wired Magazine) ที่ผลิตอีแมกกาซีนบนไอแพด ผู้ใช้สามารถซื้อได้จากแอพสโตร์ และมีการแบ่งรายได้กันระหว่างแอปเปิ้ลและนิตยสารไวรด์ ซึ่งต่อไปต้องจับตามอง แอนดรอยด์ จากกูเกิ้ลที่จะเป็นระบบที่มาแรงในการทำธุรกิจใหม่ๆ บนสื่อดิจิตอลแน่นอน
เนลสัน จอห์น ที่ปรึกษากลุ่มผลิตภัณฑ์ครีเอทีฟ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของอะโดบี กล่าวว่า การจะผลิตสื่อดิจิตอลที่สร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย เช่น วิดีโอ แอนิเมชัน กราฟฟิก ต่างๆ ทุกอย่างต้องตอบสนองการใช้งานแบบอินเตอร์แอ็กทีฟเพื่อสร้างประสบการณ์กับผู้ใช้ การมีเครื่องมือที่สามารถทำงานได้สอดคล้องกันเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอะโดบีได้พัฒนาอะโดบี แฟลช เพลเยอร์ 10.1 ที่ให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดฟรี และยังใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา
อะโดบี ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2012 จะมียอดการใช้งานแฟลช เพลเยอร์ ถึง 250 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลกบนสมาร์ตโฟน ถ้าถึงเวลาเท่ากับว่ามีผู้บริโภคที่พร้อมจะเปิดรับสื่อดิจิตอลคอนเทนต์ได้มากขึ้นอีกมหาศาล
ส่วนฟากเจ้าของสื่อดิจิตอล ก็มีเครื่องมือ อะโดบี ซีเอส5 ที่ออกมาช่วยให้สามารถพัฒนาคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นได้ในทุกรูปแบบ ซึ่งในการผลิตงานแต่ละชิ้น สามารถเปลี่ยนให้เข้าไปรองรับแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้ไข เช่น ใช้งานบนสมาร์ตโฟน, คอมพิวเตอร์ การผลิตคอนเทนต์ต่างๆ จะง่ายมากขึ้น และมีส่วนช่วยลดต้นทุนการผลิตได้


