posttoday

ได้หรือเสียกับเงื่อนไขใหม่ RMF และ LTF

16 กรกฎาคม 2558

โดย...สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP

โดย...สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP

วุ่นกันไปใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ข่าวหุ้นจีนตก 30% ครับ แต่เป็นเงื่อนไขใหม่สำหรับสิทธิประโยชน์ภาษี RMF และ LTF ที่กรมสรรพากรออกเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2558 ที่ผ่านมา โดยเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ ก็คือ จากกฎหมายเดิมเราสามารถซื้อ RMF หรือ LTF เพื่อนำจำนวนเงินที่ซื้อไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในแต่ละปี กฎหมายใหม่แก้เป็น เราสามารถซื้อ RMF หรือ LTF เพื่อนำจำนวนเงินที่ซื้อไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ในแต่ละปี โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 นอกนั้นทุกอย่างเหมือนเดิม เช่น เงื่อนไข LTF ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี และ RMF ต้องทุนไม่น้อย 5 ปีเต็ม และอายุ 55 ปี ฯลฯ กฎหมายยังเหมือนเดิมไม่มีการปลี่ยนแปลง

ทีนี้ก็เลยทำให้งงกันใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้หรอกว่า เงินได้ กับ เงินได้พึ่งประเมินที่ต้องเสียภาษี มันต่างกันอย่างไร ก็เลยทำให้กังวลไปเลยว่า ปีนี้จะซื้อ RMF หรือ LTF ได้น้อยลง

อันนี้เลยขออธิบายกันให้เข้าใจเลยนะครับ เงินได้ หมายถึง เงินได้ทุกอย่างที่เราได้รับมาตลอดปีภาษี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ก็มีเงินได้บางอย่างเหมือนกันที่ไม่ต้องเสียภาษี โดยกรมสรรพากรยกเว้นภาษีให้ ตัวอย่างเช่น กำไรจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ กำไรจากกองทุนรวม รางวัลสลากกินแบ่ง ดอกเบี้ยสหกรณ์ ฯลฯ ซึ่งเงินได้ที่ยกเว้นภาษีมีอีกเยอะครับ หากใครสนใจไปหาดูได้ที่มาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร และกฎกระทรวงที่ 126 ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.rd.go.th/publish/554.0.html

ส่วนเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ก็คือ เงินได้ที่เราต้องเสียภาษีให้กรมสรรพากรเมื่อเรามีเงินได้ตัวนั้น อาจมีคนสงสัย เงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีรู้แล้วหาดูได้ที่ไหน แล้วเงินได้ที่ต้องเสียภาษีล่ะหาดูได้ที่ไหน จะได้ดูว่าเงินได้ที่ตนเองได้รับต้องเสียภาษีหรือไม่ คำตอบก็คือ ดูที่เดียวกับเงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีนั่นแหละครับ สรุปง่ายๆ ก็คือ เงินได้อะไรก็ตามที่เราได้มาหากไม่ได้ยกเว้นภาษีมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร และกฎกระทรวงที่ 126 ก็ถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีครับ

ดังนั้น หากพิจารณาตามกฎหมายใหม่นี้ หากเราเป็นคนที่มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเท่านั้น เช่น มีแต่เงินเดือน เราก็ไม่ได้กระทบอะไรเลยครับ ทุกอย่างเหมือนเดิม หรือที่ผ่านมาเรายื่นภาษีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เราก็ไม่ได้กระทบอะไรเลยเช่นกันครับ เพราะในระบบอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากรจะล็อกไม่ให้เราหักลดหย่อน RMF หรือ LTF เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินอยู่แล้ว

แต่ถ้าหากเดิมเรามีเงินได้ที่ยกเว้นภาษีแล้วเอามารวมคำนวณเป็นฐานเพื่อซื้อ RMF หรือ LTF มาปีนี้เราก็ไม่สามารถทำได้แล้ว สรุปก็คือ เราจะสามารถซื้อ RMF หรือ LTF ได้น้อยลง

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเงินได้จากเงินเดือนปีละ 1,000,000 บาท และเราได้กำไรจากการขาย LTF แบบถูกกฎหมายอีก 500,000 บาท กฎหมายเดิมเรา เราสามารถซื้อ RMF หรือ LTF ได้อย่างละไม่เกิน 15% ของเงินได้ คือไม่เกิน 15% ของ 1,500,000 บาท คือ ไม่เกิน 225,000 บาท แต่ตามกฎหมายใหม่นี้จะมีผลให้เราสามารถนำเงินได้จากเงินเดือนเพียงตัวเดียวมาเป็นฐานในการคำนวณซื้อ RMF และ LTF ในอัตรา 15% ของ 1,000,000 บาท คือ ซื้อ RMF หรือ LTF ได้อย่างละไม่เกิน 150,000 บาท นั่นเองครับ

หลายคนอ่านถึงตรงนี้แล้ว คงไม่ได้เสียใจที่กฎหมายใหม่ออกมาอย่างนี้ แต่คงเสียใจที่ทำไมตรูไม่รู้ก่อนหน้านี้นะว่า เงินได้ที่ยกเว้นภาษีสามารถเอามารวมเพื่อคำนวณเป็นฐานในการซื้อ RMF หรือ LTF ได้ด้วย ก็อย่าไปเสียดายมันเลยครับ อดีตมันผ่านไปแล้ว ถามว่ามีหลายคนไหมที่ใช้ประโยชน์ภาษีของ RMF หรือ LTF แบบใช้เงินได้ทุกประเภทไม่ว่าจะยกเว้นภาษีหรือไม่ ผมว่าไม่น่าจะมีเยอะครับ เพราะคนที่ใช่ประโยชน์ทางภาษีแบบนี้ต้องยื่นภาษีด้วยเอกสารที่สำนักงานเขตของกรมสรรพากรอย่างเดียวไม่สามารถยื่นผ่านเน็ตได้ ดังนั้นหากพิจารณาดูจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่ยื่นภาษีผ่านเน็ตกันเพราะสะดวกและได้ภาษีคืนเร็ว (สำหรับคนที่ชำระภาษีเยอะเกินไปเท่านั้น)

สรุป

l สำหรับ LTF ก็จะเปลี่ยนแปลงเป็น “ผู้มีเงินได้สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในปีภาษีนั้น”

l สำหรับ RMF ก็จะเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันกับ LTF คือ “ผู้มีเงินได้สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อรวมกับเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. หรือกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในปีภาษีนั้น และจะต้องซื้อไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปี หรือมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท/ปี”

l และแทบไม่ส่งผลกระทบกับพวกเรามนุษย์เงินเดือนที่เงินได้ 100% มาจากเงินเดือนครับ

ท่านที่สนใจบทความทางการเงินที่ผมได้เขียนเองและได้รวบรวมจากแหล่งต่างๆ สำหรับเผยแพร่ให้ท่านผู้สนใจ ขอเชิญไปกด Like ได้ที่ page ใน Facebook ชื่อ Sathit Bovornsantisuth CFP เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารต่อไปได้ครับ...

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย