Innovation Economy–อนาคตประเทศไทย
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา Lafferty Group กลุ่มบริษัทข้อมูลและการวิจัยธุรกิจรายใหญ่ของโลกด้านธนาคารรายย่อย (Retail Banking) ได้ส่งแบบสำรวจให้ผู้บริหารธนาคารต่างๆ ทั่วโลกในหัวข้อ Innovation เพื่อรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลนำเสนอในงานสัมมนาประจำปี Banking Innovation 2015 ที่กรุงลอนดอนในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่น่าสนใจคือคำถามสุดท้ายที่ให้ตอบแบบอัตนัยคือ ท่านให้คำจำกัดความคำว่า Innovation ของท่านไว้อย่างไร ผลสำรวจมีคำตอบที่หลากหลายและแตกต่างกันอย่างเป็นสาระสำคัญ ทำให้ไม่สามารถหาคำจำกัดความที่กระชับร่วมกันได้
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา Lafferty Group กลุ่มบริษัทข้อมูลและการวิจัยธุรกิจรายใหญ่ของโลกด้านธนาคารรายย่อย (Retail Banking) ได้ส่งแบบสำรวจให้ผู้บริหารธนาคารต่างๆ ทั่วโลกในหัวข้อ Innovation เพื่อรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลนำเสนอในงานสัมมนาประจำปี Banking Innovation 2015 ที่กรุงลอนดอนในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่น่าสนใจคือคำถามสุดท้ายที่ให้ตอบแบบอัตนัยคือ ท่านให้คำจำกัดความคำว่า Innovation ของท่านไว้อย่างไร ผลสำรวจมีคำตอบที่หลากหลายและแตกต่างกันอย่างเป็นสาระสำคัญ ทำให้ไม่สามารถหาคำจำกัดความที่กระชับร่วมกันได้
คำว่า “Innovation” ผมให้คำจำกัดความคือ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในชีวิตประจำวัน หรืออีกนัยหนึ่งคือเป็นสิ่งเพิ่งปรากฏขึ้นและค่อยๆ แพร่หลายในยุคสมัยของเรา (ที่หาไม่พบในยุคก่อนหน้านี้) ตัวอย่างล่าสุดที่ชัดเจนคงหนีไม่พ้นสมาร์ทโฟนที่ทุกท่านใช้อยู่และไม่ยอมปล่อยให้ห่างกาย
ย้อนยุคไปถึงตัวอย่างสุดคลาสสิกคงเป็นโทรศัพท์ของ Alexander Graham Bell และหลอดไฟของ Thomas Edison (ขอย้ำว่าเพียงแค่หลอดไฟครับ เพราะระบบไฟฟ้ากระแสสลับที่เราใช้กันอยู่นั้นเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ Nikola Tesla ในขณะที่ Edison เชื่อมั่นในระบบไฟฟ้ากระแสตรง) ผมขอแนะนำให้หาอ่านเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของนวัตกรรมและความเชื่อมโยงของการแข่งขันได้ก่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดของนวัตกรรมในยุคสมัยนั้นอย่างไร (ก่อนปี 1900) และความสัมพันธ์อันร้าวฉานระหว่างลูกจ้างวิศวกรหนุ่มอัจฉริยะ (Tesla) กับนายจ้างจอมเอาเปรียบ (Edison) ไปจนถึงการต่อสู้ด้านความคิดผ่านสงครามระบบกระแสไฟ (War of Currents)
นอกเหนือจากตัวอย่างสุดคลาสสิก น้อยคนที่จะพูดถึงผลงานการทดลองของ Bell ในการใช้โทรศัพท์ผ่านคลื่นวิทยุ ซึ่งกลายเป็นวิทยุสื่อสารและโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคต่อมา สิทธิบัตรของ Edison ในเรื่องของภาพเคลื่อนไหว (Motion Pictures) ที่กลายเป็นภาพยนตร์ในยุคต่อมา แล้วก็อย่าเพิ่งหัวเราะกับความพยายามของ Tesla ในการสร้างโรงไฟฟ้าแบบไร้สายตั้งแต่เมื่อก่อนเริ่มศตวรรษที่แล้ว ซึ่งกระทั่งวันนี้เรายังทำได้แค่การชาร์จมือถือแบบไร้สายเท่านั้น
หันกลับมามองประเทศใกล้ตัวเรา ความรุ่งเรืองของประเทศจีนก่อนล่มสลายในยุคของสงครามฝิ่น การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเกิดจากพื้นฐานของสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ 4 อย่าง คือ กระดาษการพิมพ์ เข็มทิศ และดินปืน ซึ่งทำให้เกิดการเผยแพร่ความรู้ได้อย่างรวดเร็วและสร้างกองเรือที่น่าเกรงขามไปทั่วโลก
สิ่งรอบตัวเราล้วนเกิดมาได้จากนวัตกรรมทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น การเดินทางไปทำงานด้วยรถยนต์ส่วนตัว สิ่งแรกที่ท่านต้องทำคือการคาดเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าสิทธิบัตรชิ้นนี้เป็นของวอลโว่ ค่ายรถยนต์จากประเทศสวีเดนที่เน้นเรื่องความปลอดภัย มีการคิดค้นและทดสอบถึงขีดความสามารถในการรักษาชีวิตแล้วจึงยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในปี 1959 แต่ผู้บริหารของวอลโว่ในขณะนั้นเลือกที่จะเปิดสิทธิบัตรชิ้นนี้ให้ใช้โดยทั่วไป ทั้งๆ ที่น่าจะมีมูลค่ามหาศาล โดยประกาศว่าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มีความสำคัญยิ่ง หากค่ายรถยนต์ทุกค่ายนำไปใช้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มูลค่ามหาศาลจะมาจากการช่วยชีวิต มิใช่จากค่าตอบแทน (The invention was so significant, it had more values as free life saving tool than something to profit from.)
ประเทศชั้นนำทั่วโลกต่างมีความเชื่อว่า นวัตกรรมจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน และทราบดีว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจนวัตกรรม คือ ปลาใหญ่กิน
ปลาเล็ก หรือระบบผูกขาด ทำให้ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการกำหนดโทษที่รุนแรงในกฎหมายป้องกันการผูกขาด และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
ครบรอบ 100 ปี ของงานแสดงแสนยานุภาพด้านนวัตกรรมของสหรัฐอเมริกาผ่าน San Francisco World Fair 1915 ซึ่งเรียกว่าเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมต่างๆ อย่างอลังการที่สุด (รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม) อาศัยจังหวะที่ยุโรปกำลังอ่อนแอจากการเริ่มต้นของสงครามโลก ครั้งที่ 1 กลายเป็นช่องทางและโอกาสของสหรัฐในการรวมศูนย์อัจฉริยะ และนำมาสร้างระบบเศรษฐกิจที่มั่นคงได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ระบบเศรษฐกิจและโครงสร้างการส่งออกของไทยยังขาดนวัตกรรมที่สร้างการขยายตัวของมูลค่าเพิ่ม ทำให้เราขาดความได้เปรียบในการแข่งขัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเราคงมองไม่เห็นอนาคตของประเทศไทยเลยในอีก 100 ปีข้างหน้า หน้าที่ของพวกเราคือการหาคำตอบให้กับประเทศไทย ขจัดอุปสรรคและเริ่มนับหนึ่งในการสร้างเศรษฐกิจนวัตกรรม เพราะนั่นคืออนาคตที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน


