เปิดใจหมอเทคนิคอิงพื้นฐาน

โดย...โสภาวดี ธเนตปราโมทย์

รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา นักลงทุนรุ่นใหม่ วัย 31 ปีเศษ ที่มีดีกรีเป็นนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก เรียกขานในหมู่นักลงทุนว่า “หมอวิน”

ชื่อ หมอวิน เริ่มเป็นที่รู้จักและอยู่ในความสนใจของตลาดหุ้นมากขึ้น เมื่อชื่อเขาปรากฏออกมาเป็นระยะในยามที่หุ้นตก โดยเฉพาะหุ้นยอดฮิตเวลานี้ ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) หรือหุ้นเคยร้อนแรง อย่าง อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ (IFEC) ที่เขาถืออยู่ มีการกล่าวขานในหมู่นักลงทุนว่า หมอวิน เป็นคนทุบขายทิ้งลงมา แล้วไปรอเก็บข้างล่าง

บ้างก็ว่า หมอวิน ปล่อยข่าวทางไลน์ทุบหุ้น “หมอวิน” ทิ้งไอเฟ็คลงมา??? หรือเก็บหุ้นแล้วเขียนเทคนิคเชียร์ ????

“หมอวิน” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมกระดูกหนุ่มในวัย 32 ปี ที่เพิ่งสอบจบหลักสูตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหมาดๆ เพียงสัปดาห์เดียว ก่อนหน้าที่จะมีโอกาสได้คุยกัน ทำให้เขามีเวลาที่จะพูดคุยกับเรา พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือคู่กาย การดูเส้นกราฟเทคนิค เป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กกระชับมือ

“หมอวิน” ออกตัวเล่าให้ฟังว่า สนใจการลงทุนตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย จากแรงบันดาลใจที่ได้มาจากครอบครัว ซึ่ง “ป๊า-ม้า” มีอาชีพค้าขายเครื่องดื่มย่านบางบอน และชอบการลงทุนในหุ้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้เด็กหนุ่มลูกชายคนเดียวซึมซับการลงทุนจากป๊า-ม้า มาตั้งแต่ยังไม่จบ ม.6

“ป๊าผมเล่นหุ้นมาตั้งแต่ปี 2540 ตอนนั้นผมสงสัยป๊าเล่นหุ้นไม่ชนะตลาด โดนไปนับ 10 ล้านบาท เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าป๊าเล่นหุ้นไม่มีหลักการ แต่เล่นหุ้นตามตัววิ่งใต้ทีวีช่อง 9 ที่มีการรายงานทุกๆ วันจันทร์-ศุกร์”

จากวันนั้นมา “หมอวิน” เริ่มหาคำตอบให้ตัวเอง มีงานสัมมนาเทคนิคที่ไหน เขาจะพาตัวเองไปหาความรู้ และในงานสัมมนานี่เองที่ทำให้เขามีโอกาสได้เจอ “เสี่ยป๋อง–วัชระ แก้วสว่าง“ ที่ “หมอวิน” ยกให้เป็นอาจารย์ 

การเจอระดับบิ๊กเสี่ยของวงการตลาดหุ้น เหมือนส่งให้เขามีความสนใจที่จะเข้าไปขอคำแนะนำจากเสี่ยกูรู แล้วนำมาศึกษาอย่างตั้งใจและจริงจัง

เมื่อสะสมวิทยายุทธ์ระดับหนึ่ง เงินเก็บจากการขายพลุหลักหมื่นถูกดึงออกมาซื้อกราฟเทคนิค ที่ครอบคลุมภาวะตลาดโดยรวม น้ำมัน ทองคำ และหุ้นรายตัว แค่นี้ไม่พอสำหรับเขา ยังมีการค้นคว้าจากหนังสือเพิ่มเติม

ศึกษาหาความรู้ เชี่ยวชาญในหลักการพอสมควรแล้ว เอาล่ะคราวนี้ได้เวลาลงทุนจริงจังเสียที เงินหลักแสนถูกสั่งซื้อขายหุ้นกับเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) ที่ครอบนักลงทุนอยู่ถึงปัจจุบันนักลงทุนเจ๊ง มาร์เก็ตติ้งรวย

หมอวินนึกย้อนไปถึงสมัยแรกๆ ที่ลงทุน ปี 2545 เครื่องไม้เครื่องมือไม่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้

ลงทุนก้อนแรกหลักแสน ไม่มากพอสำหรับเด็กหนุ่ม จึงขอป๊ามาลงทุนอีก 1 ล้านบาท ซื้อมาขายไป เงินหดหายไปเหลือแค่ 3-4 แสนบาทเท่านั้น การลงทุนครั้งแรกไม่ได้ลองผิดลองถูก แถมยังแพ้ตลาด ไม่ทำให้เด็กหนุ่มยอมแพ้ และกำลังใจที่ได้จากป๊า เขาจึงเดินหน้าที่จะเอาชนะตลาดหุ้นให้ได้ แต่มีข้อแม้ การลงทุน 2 คน ในพอร์ตเดียวกันไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นมาลงทุนคนเดียว ส่วนการลงทุนของป๊าและม้ายังคอยให้คำแนะนำ มีหลายครั้งที่แนะนำป๊าได้กำไร ทำให้ป๊าเชื่อและมั่นใจลูกชายคนเดียวมากขึ้น

หลักการลงทุนของหมอวินมีหลักง่ายๆ คือ การลงทุนอย่างมีระบบ ( System Trading ) การใช้เครื่องมือทางเทคนิค ไปหาตัวหุ้นและมีจังหวะซื้อขาย ซึ่งเขาถือว่าเป็นระบบที่นำกำไรมาให้ ดังนั้น ระบบถือว่ามีความสำคัญ จะหาได้จากที่ไหน ก็ต้องมีการเซตระบบขึ้นมา เมื่อระบบได้ สัญญาณเทคนิคได้ จากนั้นก็มาดูพื้นฐานตัวหุ้น เมื่อเครื่องมือเทคนิคพร้อม พื้นฐานตัวหุ้นพร้อม ได้เวลาซื้อ ส่วนจะขายตอนไหน ขายเท่าไร ได้กำไร เครื่องมือที่เป็นสัญญาณทางเทคนิค จะบอกก็ต้องเชื่อ

การลงทุนของ “หมอวิน” โดยตั้งระบบเทรดขึ้นมาเอง เป็นระบบซื้อขายง่ายๆ ด้วย Indicator เป็นดัชนีชี้วัดและมีการพัฒนาระบบให้ดีขึ้นสมบูรณ์ชัดเจน สุดท้ายการพัฒนาจะเป็นการใช้ปัจจัยทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว เพื่อให้การใช้เครื่องมือเทคนิคสัมฤทธิผลแม่นยำในการลงทุน ต้องดูปัจจัยพื้นฐานผลประกอบการ เช่น รายได้ กำไร อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E ) อัตราการเติบโตหรือผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE)

 “หมอวินยอมรับว่าเขาไม่ใช่นักลงทุนหุ้นมูลค่า (Value Investor) การหาหุ้นจากสัญญาณเทคนิค ขออย่างเดียวหุ้นที่ได้สัญญาณการซื้อต้องมีพื้นฐานดี ไม่ใช่หุ้นปั่น หากหุ้นมีสัญญาณให้ซื้อ แต่เป็นหุ้นปั่นผมก็ไม่ซื้อ ผมไม่ได้เกิดจากวีไอ ผมเกิดจากเทคนิเคิล แต่ผมก็ไม่เล่นหุ้นปั่น เล่นก็แพ้”

หมอวิน บอกว่า หลักการของการใช้เทคนิคลงทุน เบื้องต้นต้องเชื่อหรือไม่ก่อน และสนใจจริงจะซื้อหรือไม่ จังหวะการตัดสินใจซื้อขาย คุณมีความกล้าหรือไม่ ซึ่งคำถามเหล่านี้จะเกิดขึ้นซ้ำซาก ซื้อขายจากเส้นอะไร ระยะเวลาเท่าไร เราต้องเล่นหุ้นให้เหมือนกีฬา เหมือนการตีกอล์ฟ

“เทคนิคดูได้ทุกวัน แต่จังหวะซื้อขายไม่ได้เกิดทุกวัน ขึ้นอยู่กับการเซตระบบแบบไหนจะเซตระบบเป็น 5 วัน 1 เดือน หรือ 3 เดือน มีบ่อยครั้งที่เทคนิคสวนทาง แบบขายหมู ซื้อกระบือ หรือขายถูก ซื้อแพง” หมอวินพูดพร้อมกับยิ้มเล็กๆ

เมื่อถูกซักขนาดพอร์ตลงทุนของหมอวิน จากการเริ่มด้วยหลักแสนบาท ถึง ณ วันนี้ ไม่เป็นที่เปิดเผยจากเขา แต่ให้เดาพอร์ตต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 หลักขึ้นไป ความสำเร็จนี้มาจากการเล่นหุ้นด้วยเทคนิคล้วนๆ ซึ่งเขาให้ความสำคัญกับเทคนิค เสมือนเป็นเพื่อน เป็นอาวุธข้างกายในสมรภูมิรบของเขา  ถึงแม้เทคนิคจะเป็นอาวุธข้างกาย แต่การรบก็มีแพ้มีชนะ

“ไม่มีระบบไหนในโลกที่จะสมบูรณ์ ซื้อ 10 ไม้ ชนะ 10 ไม้ แต่สุดท้ายแล้วต้องชนะ คือ ซื้อ 10 ครั้ง ผิด 5 ถูก 5 แต่ Pay off Ratio (อัตรา ส่วนเปรียบเทียบ จำนวนเงินที่ได้รับต่อทุกๆ บาทที่ขาดทุน) ต้องได้มากกว่าเสีย คือ 9 เท่า หรือกำไร 9 เท่า ของเงินที่ขาดทุน ซึ่งระบบมีหลายวิธี ต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเอง การใช้เทคนิคให้ได้ผลดีต้องเป็นตลาดที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น หากเทคนิคบอก หุ้น 10 ตัวดี ต้องเลือกตัวที่ดีที่สุด 3-5 ตัว เมื่อเทคนิคให้ขายก็ต้องหาจังหวะขาย”

หมอวิน แนะนำ การลงทุนแต่ละครั้งต้องดีไซน์การลงทุนรอบนั้นๆ ว่าจะลงทุนอย่างไร โดยใช้ RRR (Risk Reword  Ratio) คือ ถ้า RRR ต่ำเหมาะลงทุน ถ้าสูงๆ ไม่เหมาะลงทุน พร้อมกับยกตัวอย่าง เช่น ซื้อหุ้น A 2 บาท คิดว่าราคาจะไป 10 บาท เท่ากับมีโอกาสได้ 8 บาท ความเสี่ยง 1 บาท เท่ากับ RRR 1 ต่อ 8  ถือว่าต่ำ 

หมอวิน ยืนยันบทบาทของตัวเองว่า เป็นนักลงทุนคนหนึ่ง ไม่มีอิทธิพลใดๆ กับตลาด เป็นนักลงทุนที่ต้องการแชร์การลงทุนทางเทคนิคให้กับคนอื่น ก็เท่านั้นจริงๆ ส่วนที่พูดกันว่าเขามีห้องไลน์ส่วนตัวไว้เป็นเครื่องมือล่อเหยื่อก็ขอปฏิเสธ

ถึงวันนี้ “หมอวิน” ยังใช้เวลาหลังจบหลักสูตรวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออโธปิดิก ออกแบบดีไซน์ระบบเทคนิคซื้อขายให้โบรกเกอร์ค่ายผลไม้ เป็นระบบที่บริหารด้วยหลักการเทคนิค ส่วนจะผันตัวเองเป็นนักลงทุนเทคนิคเต็มตัว เฉกเช่นหมอนักลงทุนชื่อดังที่หลงมนต์ตลาดหุ้นหรือไม่นั้นไม่ใช่คำตอบ ณ เวลานี้ สำหรับ “หมอวิน” บนเส้นทางขนานระหว่างหมอผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมกระดูกกับสนามรบในตลาดหุ้น” เป็นเส้นทางที่หมอวินยังต้องการเดินไปให้ถึงที่สุด